
ออมเงินไม่อยู่ เก็บเงินยังไงก็เก็บไม่ได้ เหมือนกับกระเป๋ามันมีรูรั่วอยู่ข้างใน
อาการแบบนี้ไม่ว่าใครก็เคยเป็นกันทั้งนั้น จะให้ทำอย่างไร
คนมันต้องกินต้องใช้ ได้เงินมาจะใช้ให้หมดไม่เห็นจะแปลกอะไรเลย
อย่าปลอบใจตัวเองอีกต่อไป มันมีวิธีเก็บเงิน!!! แค่เราทำไม่ได้แค่นั่นเอง
หรือคุณอาจจะเก็บเงินไม่ถูกวิธี ใครๆก็อยากมีเงินเก็บไว้ใช้ในยามจำเป็น
แต่เผลอแปปเดียวรู้ตัวอีกทีก็เผลอใช้เงินไปจนเกือบหมด
มาดูกันดีกว่าว่าเราสามารถ เก็บเงินง่ายๆ แต่ได้ผลได้อย่างไร
1.ไม่ใช้แบงค์ 50
มาถึงวิธีแรก วิธีสุดฮิตที่หลายๆ คนเลือกจะทำกัน
ไม่เว้นแม้แต่ในเว็บไซต์ดัง Pantip.com ก็มีคน แ ช ร์ วิธีนี้มาแล้ว
นั่นคือการเก็บแบงค์ฟ้า หรือ แบงค์ 50 ที่เราไม่ค่อยพบเจอ ในเมื่อหาเจอยาก
ก็จัดการเก็บเข้ากระปุกแบบไม่ดึงมาใช้เลยดีกว่า เป็นอีกหนึ่งหนทางการออม
ที่มีการการันตีแล้วว่าได้ผลมานักต่อนัก บางรายเก็บไปปีๆ หนึ่งได้เป็นหลักหมื่นเลยด้วยซ้ำ
ทำไมวิธีการนี้ถึงเวิร์ก? ลองดูตามหลักเหตุและผลครับ
โดยปกติแล้วการจับจ่ายปกติจะมีการใช้แบงค์ 100 กับแบงค์ 20
เป็นหลัก ร่วมกับเหรียญ นานๆ ที่แบงค์ 50 จะมีบทบาท
ดังนั้นการเก็บแบงค์ 50 มันทำให้เรารู้สึกว่าการออมมันไม่ได้ลำบากอะไรมากขนาดนั้น
สามารถทำได้เรื่อยๆ แค่แบงค์ 50 เอง หยอดๆ กระปุกไปเถอะ แต่ลองดูตัวเลขดีๆ นะครับ
สมมติเราซื้อของทุกวันแล้วได้แบงค์มาวันละ 1 ใบ
1 เดือน เราจะได้ 50 x 30 = 1,500 บาท
1 ปี เราจะได้ 50 x 365 = 18,250 บาท นี่ขนาดแค่ตัวเลขสมมติ
มันอาจจะได้มาก หรือน้อยกว่านั้นก็ได้ เพราะคงไม่มีใครซื้อของทุกวันแล้วได้แบงค์ 50 ตลอ
ดยกเว้นพ่อค้าแม่ค้า แต่คงเห็นแล้วว่าพลังของแบงค์ 50 นั้นจริงๆ มันมากมายขนาดไหน
อยากรวยง่ายๆ เริ่มต้นได้ตอนนี้เลย หากได้แบงค์ 50 มาแล้วเก็บใส่กระเป๋าโลด
2.จำกัดการถอนเงินของตัวเอง
วิธีง่ายๆ วิธีที่สอง คือจำกัดการถอนเงินของตัวเองนั่นเอง ใช้วิธีถอนเงินมาก้อนเดียว
หรือสองก้อนเก็บไว้ที่บ้าน แล้วดึงมาใช้รายวันจะสามารถเก็บเงินได้ง่ายกว่า
แต่ไม่ใช่ว่าถอนมาทีเดียวหมดบัญชีนะ แค่คิดก่อนว่าเราใช้เงินปกติวันละไม่เกินเท่าไหร่
แล้วจัดแจงคูณตามวันที่มาทำงานเลย ส่วนการถอนครั้งต่อไปก็เก็บไว้ให้เหตุ ฉุ ก เ ฉิ น ที่จำเป็นจริงๆ เท่านั้น
เช่น สมมติคุณใช้เงินเดือนละไม่เกิน 200 รวมค่าเดินทาง ค่ากินอยู่ปกติ คุณทำงานเดือนละ 20 วัน
จำนวนเงินที่ถอนได้จะเท่ากับ 200 x 20 = 4,000บาท
เห็นมั้ยว่าแค่นี้ก็สามารถประหยัดเงินได้มากมายแล้ว อีกทั้งเรายังเห็นภาพรวมของเงิน
ได้มากขึ้นกว่าการถอนรายวันด้วย เพราะสมมติว่าวันๆ นึงเราถอนเงินซักสามครั้ง
ถ้าไม่ได้มีการทำบัญชีรายรับรายจ่าย เราลืมแน่นอนว่าเราจ่ายเงินค่าอะไรไปบ้าง
แต่ถ้าเราเน้นแค่ถอนเงินเป็นก้อน ใช้จ่ายอย่างเป็นระบบ หากมีการถอนเงินพิเศษขึ้นมา
คุณจะรู้ได้ทันทีเลยว่า นี่มันการใช้จ่ายแปลกปลอมที่ปกติไม่น่าเกิดขึ้นในระบบ ทำให้เรามีวินัยในการเงินมากขึ้น
3.ตั้งเป้าแล้วแปะบนกระปุก
อยากไปเที่ยว!
อยากได้กระเป๋าใหม่ !!
อยากได้มือถือเครื่องใหม่!!
ทุกอย่างต้องใช้เงิน แต่เราเก็บเงินแทบไม่อยู่จะทำอย่างไร…ง่ายๆ
เลยแค่เขียนใส่กระดาษแล้วแปะข้างกระปุก ตั้งเป้าหมายในการเก็บเงิน
อยากไปเที่ยวต่างจังหวัดใช้เงินเท่าไหร่ กลับบ้านวันหยุดยาวเอาเงินไปฝากพ่อฝากแม่
เลี้ยงดูลูกหลานใช้เงินเท่าไหร่ เขียนแปะไว้เลย นอกจากมันจะเป็นแรงจูงใจแล้ว
บางครั้งเรื่องเหล่านี้จะเป็นกำลังใจให้เราเก็บเงินด้วย
ซึ่งวิธีแปะกระปุกนี้ เราไม่จำเป็นต้องใช้กระปุกเดียวในการเก็บออม
ใช้หลายกระปุกก็ได้ แล้วหยอดตามความสำคัญที่เราเห็นควร
4.ใช้กระติกน้ำ
คุณ อ่ า น ไม่ผิดแน่นอน พกกระติกน้ำไปทำงานเป็นหนึ่งในวิธีการประหยัดเงินที่ได้ผลสุดๆ
เมื่อเราหิวน้ำ ไม่จำเป็นต้องซื้อน้ำขวดใหม่ คว้ากระติกตัวเองมาได้เลย
นอกจากจะประหยัดเงินแล้วยังดีต่อทรัพยากรโลกอีกต่างหาก
ทำไมเราจึงต้องเน้นเรื่องนี้? ผลสำรวจการใช้เงินของคนไทยในปัจจุบันระบุไว้
ว่าพวกเราใช้เงินไปกับ อ า ห า ร และเครื่องดื่มสูงที่สุดเลยนั่นเอง
และบางครั้งค่าเครื่องดื่มสูงกว่าค่า อ า ห า ร เสียด้วยซ้ำ
ยังไม่นับว่าเมื่อเราอยากกินน้ำหวานหรือของฟุ่มเฟือย เราสามารถดื่มน้ำจากกระติกนี้แก้ขัดได้
แน่นอนว่าเราไม่ได้ห้ามเรื่องการกินกาแฟ ชานมไข่มุก หรือเครื่องดื่มอื่นๆ
แต่การมีกระติกน้ำจะลดโอกาสที่เราได้กินเครื่องดื่มเหล่านี้
และเพิ่มเงินในกระเป๋าตัวเองให้มากขึ้น ทำให้เอาเงินไปใช้อย่างอื่นได้
ลองดูตัวอย่างง่ายๆ นะครับว่า ว่าเราจะประหยัดได้เท่าไหร่หากมีกระติกน้ำ
สมมติเราดื่มน้ำดื่มขวดละ 7 บาท ทุกๆ วันที่ไปทำงาน เราทำงานเดือนละ 20 วัน
คิดเป็นเงิน 7 x 20 = 140 บาทต่อเดือน
หรือ 7 x 20 x 12 = 1680 บาทต่อปี
นี่แค่น้ำดื่มธรรมดาราคา 7 บาท หากเป็นเครื่องดื่มที่มีราคาสูงกว่านี้
เราก็สามารถประหยัดได้มากกว่านี้อีกมากเลยทีเดียว
5.ใช้เท่าไหร่ เก็บเท่านั้น
วิธีเก็บเงินง่ายๆ วิธีสุดท้าย…ใช้เท่าไหร่ เก็บเท่านั้น
ทำอย่างไร ? สมมติว่าเรามีค่าใช้จ่ายที่นอกเหนือจากการกินอยู่
และการตั้งเป้าหมายไว้ เช่น อยู่ๆ วันนี้เราอยากซื้อหนังสือใหม่ซักเล่ม เลยซื้อหนังสือราคา 120 บาทไป
หยอดกระปุกเพิ่มไปเลย 120 บาท
เราเห็นของลดราคา เสื้อยืดตัวละ 199 ขายเหมาสามตัว 500 บาท เลยหยิบมา
หยอดกระปุกไปอีกครั้ง 500 บาท
วิธีเขี้ยวๆ อย่างนี้เป็นไปได้เหรอ? มัน โ ห ด เกินไปมั้ย? ขอตอบชัดๆว่าไม่ โ ห ด เลย
นี่เป็นหนึ่งในวิธีบังคับตัวเอง ลดรายจ่าย เพิ่มเงินออมที่เห็นผลชัดเจนอีกเหตุผลหนึ่ง
มันทำให้เราหลีกเลี่ยงการใช้เงินอื่นๆ ที่อยู่นอกเหนือการใช้จ่ายตามเป้าหมาย
รวมไปถึงเพิ่มเงินออมโดยรวมได้เร็วขึ้น หากเราซื้ออะไรตามความอยากของตัวเองบ่อยๆ
แน่นอนว่ายิ่งเพิ่มวินัยทางการเงินอย่างดีเข้าไปอีก ซื้อเท่าไร ทบเงินเก็บไปเท่านั้น
ที่มา : tidlor