Home ข้อคิดสอนใจ 6 ความรักของพ่อแม่ ที่ส่งผลเสียต่อลูกโดยไม่รู้ตัว(พ่อแม่ควรรู้ไว้)

6 ความรักของพ่อแม่ ที่ส่งผลเสียต่อลูกโดยไม่รู้ตัว(พ่อแม่ควรรู้ไว้)

5 second read
0
0
1,337

“ความรัก” มีอิทธิพลต่อพัฒนาการและการเจริญเติบโตของลูก คุณพ่อคุณแม่ทุกคนย่อมรักและต้องการมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูก แต่การมอบความรักที่มากเกินไปหรือน้อยเกินไป

อาจส่งผลให้ลูกมีพฤติกรรมที่ไม่น่ารัก แล้วความรักแบบไหนที่อาจจะเป็นการ ทำ ร้ า ย ลูกน้อยโดยไม่รู้ตัว ลองตรวจสอบกันดูสิว่า ความรักของคุณเข้าข่ายความรักที่

ส่งผลเสียกับลูกหรือไม่

1. ความรักแบบรักมากและปกป้องมากเกินไป

ทำทุกอย่างให้ลูก เพราะกลั วว่าลูกจะลำบาก กลัวลูกอด กลัวลูกเจ็บ เมื่อลูกมีปัญหามักจะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือทันที แทบจะไม่ปล่อยให้ลูกเผชิญหน้ากับปัญหาหรือ

ความยากลำบากสังเกตได้จากตอนที่ลูกยังเล็กคุณแม่จะคอยอุ้มตลอดเวลา และเมื่อโตขึ้นจะคอยตามประกบทุกฝีก้าว ลูกหกล้มเป็นเรื่องใหญ่สำหรับคุณพ่อคุณแม่

เมื่อลูกโตขึ้น หากเป็นลูกชายมักจะมีนิสัยขี้อาย ขี้ขลาด ไม่มีความเป็นผู้นำ หากเป็นลูกสาวมักจะมีนิสัยเอาแต่ใจตัวเอง ชอบให้คนมาเอาอกเอาใจ และไม่มีความมั่นคงในอารมณ์

ความรักที่ดี ควรฝึกให้ลูกทำสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเองลูกอาจ จะทำผิดพลาดไปบ้าง สะดุดล้มบ้าง เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องเรียนรู้ เพราะถ้าไม่ปล่อยให้ลูกทำอะไรด้วยตัวเอง

ลูกก็จะไม่มีวันเติบโตได้เลย

2. ความรักแบบต้องการทดแทนสิ่งที่ขาดหาย

คุณพ่อคุณแม่ใช้ความรักเป็นเครื่องต่อรองให้ลูกทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ เพื่อทดแทนบางสิ่งบางอย่างที่ตัวเองขาดในวัยเด็ก อะไรที่ไม่เคยมี ก็อยากให้ลูกได้มี อะไรที่ไม่เคยทำ

ก็อยากให้ลูกได้ทำ ใช้ลูกเป็นโอกาสแก้ไข ป ม ด้ อ ย หรือความฝังใจของตัวเอง ความรักที่ดี เด็กแต่ละคนมีความสามารถ มีความชอบในแบบของตัวเอง ไม่ควรเปลี่ยนตัวตนของลูก

แต่ควรสนับสนุน ส่งเสริมและให้กำลังใจในสิ่งที่ลูกเลือก

3. ความรักแบบที่ต้องใช้เงินซื้อ

คุณพ่อคุณแม่ไม่มีเวลาเลี้ยงลูก จึงใช้เงินเพื่อทดแทนความรัก ส่งผลให้ลูกไม่รู้จักคุณค่าของเงิน คิดว่าเงินหามาได้ง่ายๆ และเป็นเด็กขาดความรัก ความอบอุ่น ไม่พร้อมที่จะแบ่งปัน

ความรักและความอบอุ่นให้คนรอบข้าง ความรักที่ดี สิ่งที่มีค่าและอยู่ในความทรงจำของลูกตลอดชีวิตคือ การได้ใช้เวลาร่วมกันกับครอบครัว เช่น เล่นกีฬาด้วยกัน

เดินทางท่องเที่ยวด้วยกัน ให้ลูกวางแผนการทำกิจกรรมสนุกๆ ตลอดทั้งวัน เป็นการส่งเสริมให้ลูกมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ด้วย

4. ความรักแบบเห็นผิดเป็นชอบ

ไม่ว่าลูกจะมีปัญหาอะไรกับใคร คุณพ่อคุณแม่พร้อมที่จะปกป้อง และคิดอยู่เสมอว่า “ลูกฉันไม่ผิด” แม้ว่าลูกทำผิดก็มักเลือกที่จะโทษคนอื่นมากกว่าเมื่อลูกโตขึ้นจะเป็นเด็ก ก้ า ว ร้ า ว

หลงตัวเองและรู้สึกว่าตนเองดีกว่าคนอื่นเสมอ เป็นคนชอบดู ถู กคนอื่น ไม่ยอมรับว่าคนสร้างปัญหา เป็นนักเลง และนำไปสู่การไม่นับถือตนเอง ความรักที่ดี ควรเลี้ยงลูก

ด้วยทางสายกลางมอบทั้งความรักและความหวังดี ถูกผิดว่าไปตามเนื้อผ้า เมื่อลูกทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง คอยตักเตือน และชี้ทางที่ถูกต้องเพื่อให้ลูกปรับปรุงตัว อย่ากลัวลูกเสียใจ อย่ากลัวลูกไม่รัก

5. ความรักแบบขีดเส้นให้ลูกเดิน

คุณพ่อคุณแม่ขีดเส้นทางชีวิตให้กับลูก และมักเชื่อว่าสิ่งที่เลือกเป็นสิ่งที่ดีที่สุด โดยไม่ได้ดูความถนัดหรือความชอบของลูก มี ก ฏ เ ก ณ ฑ์กติกาและตารางชีวิตให้ลูกอย่างเคร่งครัด

ยกตัวอย่างเช่น อยากให้ลูกเป็นนักร้อง จึงพยายามส่งเสริมให้ลูกเรียนร้องเพลงอย่างหนัก จนลูกสูญเสียธรรมชาติของตัวเองไป กลายเป็นเด็กที่ไม่รู้เป้าหมายในชีวิตของตัวเอง

และเลือกเรียนในสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่เลือกให้ ความรักที่ดี คุณพ่อคุณแม่และลูกควร สื่ อ ส า ร กัน ให้ลูกกำหนดเป้าหมายชีวิตของตัวเอง คุณพ่อคุณแม่ควรยอมรับ เข้าใจ

และคอยให้คำชี้แนะ นอกจากนี้ความเชื่อมั่นเชื่อใจที่พ่อแม่มีให้ลูกสำคัญมาก ลูกจะพยายามรักษา และทำตัวน่ารักเพื่อให้คุณพ่อคุณแม่วางใจ

6. ความรักแบบรักนะแต่ไม่แสดงออก

ไม่แสดงความรัก คำชื่นชม หรือให้กำลังใจลูก เพราะกลัวว่าลูกจะเหลิง ส่งผลให้ลูกเป็นคนใจคอคับแคบ ยกย่องชมเชยใครไม่เป็น เมื่อเห็นคนอื่นประสบความสำเร็จ

มักจะ อิ จ ฉ า ริ ษ ย า และคิดว่าคุณพ่อคุณแม่ไม่รัก จึงออกไปหาความรักนอกบ้าน เ สี่ ย ง ต่อการเจอคนไม่ดี ความรักที่ดี คุณพ่อคุณแม่ควรแสดงความชื่นชมลูก ให้กำลังใจลูก

อย่ากลัวว่าลูกจะเหลิง ถ้าลูกทำเป็นพฤติกรรมที่น่ารัก คำชมจะเป็นกำลังใจให้ลูกทำสิ่งนั้นต่อไป

ขอบคุณที่มา : a b o u t m o m .

Load More Related Articles
Load More By jingjai
Load More In ข้อคิดสอนใจ

Check Also

วิธีบริหารเงิน ให้มีกินมีใช้ “ไม่เป็นหนี้”

การออมที่ดี คือ การออมอย่างมีความสุข ไม่ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างลำบากแต่การใช้เงินอย่างไร ให้…