
การเป็นหนี้นั้นไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นการทุ่มเททุกอย่างที่มีในชีวิตไปกับมัน เพราะในการใช้ชีวิตนั้นมีเรื่องอื่นอีกมากมายที่จะต้องใคร่ครวญและไตร่ตรองนอกเหนือจากเรื่องหนี้สิน
ซึ่งในความเป็นจริงแล้วคนส่วนใหญ่มักไม่ได้มีความคิดแบบนี้ คนส่วนใหญ่ชอบเอาความ เ ค รี ย ด ที่เกิดขึ้นจากทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตมาขมวดเป็นปมเดียวกัน ทำให้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาใดๆได้
ทำให้ตัวเองไม่มีความสุข ตัวอย่างเช่น เกิดอารมณ์หงุดหงิดเพราะมีเงินไม่พอในการชำระหนี้ แล้วพาลไปหาเรื่องถึงคนอื่น ๆ ในครอบครัว ต่อว่าสมาชิกครอบครัวว่าเป็นต้นเหตุของการก่อหนี้
ทำให้ครอบครัวกลายเป็นครอบครัวที่มีปัญหา ทุกคนในบ้านไม่มีความสุข คุณคงไม่อยากให้ความสุขในครอบครัวต้องหมดไปเพราะการมีหนี้ใช่ไหม? ถ้าเช่นนั้น เรามาดูกันว่าเราควรมีวิธีการบริหารหนี้อย่างไรให้มีความสุข
-แยกแยะเรื่องหนี้สินกับเรื่องครอบครัวออกจากกัน
ถึงแม้ว่าคุณจะตกอยู่ในฐานะมีหนี้สินรุมเร้า ควรคิดคำนวณเกี่ยวกับวิธีการแก้ไขปัญหาหนี้ เมื่อกลับมาบ้าน ไม่ควรนำอารมณ์ความ เ ค รี ย ด จากหนี้มาพาลคนในครอบครัว
เพราะการใช้อารมณ์จะก่อให้เกิดความไม่เข้าใจกันในครอบครัว ทำให้เกิดความรู้สึกแตกแยก หากคุณแสดงความ เ ค รี ย ด สมาชิกคนอื่น ๆ ในครอบครัวก็จะ เ ค รี ย ด ตามไปด้วย ดังนั้นเพื่อการกระชับความสัมพันธ์ของครอบครัวให้แน่นแฟ้น ปรองดอง คือ ต้องแยกแยะปัญหาหนี้สินออกจากครอบครัว
-บอกเรื่องราวการเป็นหนี้ของตัวเองให้คู่สมรสได้รู้
เพื่อได้หาวิธีการแก้ปัญหาไปด้วยกัน การเป็นหนี้ก่อให้เกิดความ เ ค รี ย ด การคิดและแก้ปัญหาเพียงลำพังอาจจะทำให้ผู้ที่มีหนี้อยู่นั้น เ ค รี ย ด มากกว่าเดิม
การนำปัญหาหนี้ไปปรึกษากับภรรยาหรือคนในครอบครัวจะช่วยให้เห็นทางออกหรือมุมมองในการแก้ไขปัญหาหนี้ได้มากขึ้น เมื่อสมาชิกในบ้านรู้ถึงสภาพปัญหาหนี้ ทุกคนจะช่วยกันประหยัดเพื่อไม่ก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายที่มากล้นและจะได้นำเงินไปใช้หนี้เพื่อปลดภาระหนี้ให้เร็วที่สุด
-หาความสุขให้กับตัวเองและครอบครัวบ้าง
เรื่องนี้หลายคนอาจจะมองว่าไม่ใช่เรื่องจำเป็นหรือไม่คิดว่าการพาคนในครอบครัวไปท่องเที่ยวเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะคนเป็นหนี้มักจะคิดว่าตัวเองมีหนี้จะให้มานั่งคิดเรื่องการพักผ่อนอยู่ได้อย่างไร
ในความเป็นจริงแล้ว หากเราแยกแยะปัญหาต่างๆออกและมีบทสรุปกับวิธีแก้ไขปัญหาหนี้แล้ว เราสามารถมีช่วงเวลาสำหรับการพักผ่อนได้ การไปเที่ยวยังเป็นข้อดี เพราะการไปเที่ยวช่วยผ่อนคลายความ เ ค รี ย ด ช่วยให้มีพลังในการทำงานและความคิดต่อสู้กับหนี้ก้อนนี้ได้มากขึ้น
-พูดคุยกับคนสนิทเพื่อปรึกษาปัญหาหนี้
หลายคนที่มีหนี้จำนวนมากแล้วเกิดความ เ ค รี ย ด บางครั้งก็ไม่อยากพูดคุยกับคนในครอบครัว เพราะกลัวว่าเขาเหล่านั้นจะมาพลอย เ ค รี ย ด ไปกับเราด้วย วิธีการที่ดีที่สุดคือการหาที่ปรึกษาสักคนหนึ่ง
อาจจะเป็นเพื่อนสนิท ผู้มีความชำนาญด้านการเงิน ผู้ใหญ่ที่เคารพ เพื่อมารับฟังปัญหาของเรา เพราะการได้ระบายกับคนอื่นเป็นวิธีการคลาย เ ค รี ย ด ปัญหาหนี้และปัญหาต่างๆได้ดี และไม่ทำให้คนในครอบครัว เ ค รี ย ด เพราะเราไปด้วย
-ไม่ก่อหนี้เพิ่มเติม
หากรู้แล้วว่าตัวเองนั้นเป็นหนี้ สิ่งหนึ่งช่วยให้ภาระเหล่านี้หมดเร็วคือการไม่ก่อหนี้เพิ่ม และควรอธิบายเรื่องการใช้จ่ายให้ครอบครัวรับรู้ เพื่อที่ทุกคนจะได้ช่วยกันประหยัด และไม่สร้างภาระหนี้เพิ่ม
-ควบคุมอารมณ์ตัวเองให้ได้
คนเป็นหนี้บางคนเมื่อได้รับการทวงจากเจ้าหนี้บ่อย ๆ ก็อาจจะเกิดอาการ เ ค รี ย ด และโมโห เมื่อกลับมาบ้านอารมณ์โมโหนั้นยังค้างอยู่ ส่งผลให้รู้สึก เ ค รี ย ด ใครทำอะไรก็ดูขัดหูขัดตาไปเสียหมด
ซึ่งหากปล่อยไว้อย่างนี้ต่อไป ครอบครัวอาจจะเกิดปัญหาด้านความสัมพันธ์ได้ ดังนั้นควรควบคุมอารมณ์ของตัวเองให้ดี หากหงุดหงิดมาก ๆ
อาจจะหาวิธีการระบายด้วยรูปแบบอื่น ๆ เช่น การออกกำลังกาย การรับประทาน อ า ห า ร หรือการฟังเพลง เป็นต้น เพื่อให้อารมณ์เหล่านั้นหมดไป และไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับคนในครอบครัวอีกด้วย
-ไม่เอาหนี้สินที่มีมาฉุดรั้งความเจริญก้าวหน้าในชีวิต
คือระหว่างเป็นหนี้ หากอยากทำธุรกิจอะไรเพิ่มเติม หรืออยากจะเปลี่ยนงานเพื่อได้มีเงินเดือนเพิ่มขึ้น เมื่อคิดไตร่ตรองดีแล้วก็สามารถทำได้เลย
เพราะหากเรามัวแต่กังวลกับภาระหนี้ที่มีอยู่ก็จะฉุดรั้งความคิดที่จะขยับขยายเรี่องความเจริญก้าวหน้าของตัวเอง ทำให้ตกอยู่ในวังวนเดิม ๆ ต่อไปจนไม่สามารถถอนตัวจากวงจรการเป็นหนี้ได้
การเป็นหนี้ไม่ใช่ตัว ทำ ล า ย ทุกอย่างของชีวิต หากคุณสามารถแยกแยะปัญหาหนี้ออกจากการใช้ชีวิตและ บริหารหนี้ ให้เป็นระบบ ก็จะช่วยให้ตัวคุณและคนในครอบครัวนั้นมีความสุขถึงแม้ต้องแบกรับภาระหนี้ไปด้วยก็ตาม
การจัดการระบบหนี้ที่ดี ไม่นำเอาอารมณ์ เ ค รี ย ด จากการเป็นหนี้มาสร้างความทุกข์ใจให้กับปัญหาครอบครัว จะช่วยให้คุณสามารถฝ่า ฟั น วิ ก ฤ ต ิการเป็นหนี้ให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
ที่มา : m o n e y h u b