
1. ทำให้ดีที่สุด (Do your best)
นั่นคือ ทำงานอย่างสุดความสามารถ ไม่เช้าชามเย็นชาม
ลูกน้องที่ดีจะไม่มองตัวเองว่าเป็นแค่ลูกจ้าง
แต่จะมองว่านี่คือโอกาสที่จะได้ใช้ความรู้ความถนัดที่ตัวเอง
มีสร้างประโยชน์ให้กับทีมและองค์กร และมองงานแต่ละชิ้นว่ามันคือเวทีให้เขาได้ “ฉายแสง”
2. กล้าแสดงความเห็นและตั้งคำถาม (Be willing to share ideas and ask questions)
ยิ่งถ้าคุณทำงานบริษัทอินเตอร์แล้วไม่กล้าแสดงความเห็นหรือถามคำถาม
รับรองโดนฝรั่งและแขก แ ย่ ง พูดหมดแน่นอน คนส่วนใหญ่ชอบคิดว่าความเห็นของตัวเองไม่ค่อยมีค่า
หรือกลัวว่าถ้าถามคำถามอะไรออกไปจะดู โ ง่ แต่เชื่อผมเถอะว่า
ถ้ามีอะไรในหัวจงพูดออกไปเถอะ ถ้าคุณพูดสิ่งที่ฉลาดออกไป
ก็ย่อมมีประโยชน์กับทีมและเจ้านายก็จะให้คะแนนคุณอยู่ในใจ
ถ้าพูดอะไรไม่เข้าท่าออกไป เขาจะได้ช่วยแก้ไขให้
3. ถกได้ แต่อย่าเถียง (Discuss, don’t argue)
สองอย่างนี้มีแค่เส้นกั้นบางๆ การถกคือการแลกเปลี่ยนข้อมูล
ความคิดเห็นเพื่อที่จะเข้าใจมุมมองของอีกฝ่ายและร่วมกันแสวงหาทางออกที่ดีที่สุด
ขณะที่การเถียงเป็นเรื่องของการรักษาหน้าและการเอาชนะ ซึ่งรังแต่จะทำให้เสียเวลาและความรู้สึก
4. ทำการบ้านมา (Do your homework)
ลูกน้องที่ดีจะรู้ว่าเจ้านายต้องการอะไร เพียงแค่คุณใช้ความช่างสังเกตสักนิด
ว่าเจ้านายเป็นคนประเภทไหน ชอบถามอะไรในที่ประชุม
แล้วก็เตรียมตัวให้ดีๆ รับรองว่าคุณจะโดดเด่นในสายตาเจ้านาย
5. ไม่คาดหวังให้ต้องดูแลใกล้ชิด (Be low-maintenance)
เคยเห็นเพื่อนพนักงานคนไหนที่ต้องการความช่วยเหลือตลอดเวลามั้ย
คนที่ติดอะไรนิดหน่อยก็วิ่งไปหาคนโน้นคนนี้หรือคนที่ต้องให้เราคอยตามงานตลอดเวลา
หรือคนที่โดนตำหนินิดเดียวก็ไปดราม่าบนเฟซบุ๊ก
ถ้าเราทำตัวแบบนี้เราก็เป็นเหมือนเด็กไม่รู้จักโต แล้วเราจะมีโอกาสโตในองค์กรได้อย่างไร
6. รักษาคำพูด (Keep your word)
ถ้าบอกว่างานชิ้นนี้จะเสร็จภายในวันศุกร์นี้ ก็จะต้องทำทุกวิถีทาง
ที่จะส่งงานชิ้นนี้ให้ได้ตามกำหนด (แม้จะต้องอยู่ดึกก็ตาม)
แต่ถ้าหัวหน้าให้เดดไลน์ที่ไม่เหมาะสมมา เราต้องกล้าที่จะบอกว่าทำไม่ทัน
พร้อมด้วยเหตุผลที่ฟังขึ้น (กลับไปดูข้อ 2 และ 3) การเป็นคนรักษา
คำพูดจะทำให้เราเป็นคนที่เชื่อถือได้และใครๆ ก็จะอยากร่วมงานด้วย
7. มีอะไรผิดพลาดให้รีบบอก (Tell bad news early)
จะได้ช่วยกันหาทางออก บางทีลูกน้องไม่กล้านำข่าว ร้ า ย ไปบอกเจ้านาย
เพราะกลัวโดนเจ้านายด่า กว่าเจ้านายจะรู้อีกทีเรื่องราวก็สายเกินแก้แล้ว
พึงระลึกไว้เสมอว่า ยอมโดนด่าแต่งานเดินยังดีกว่าโดนด่าแล้วงานเจ้งด้วยนะครับ
8. พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ (Keep getting better)
ลองถามตัวเองว่า ตัวเราวันนี้กับตัวเราเมื่อ 365 วันที่แล้วมีพัฒนาการอะไรบ้างมั้ย
ถ้าพัฒนาการน้อยมากก็จงอย่าแปลกใจที่เงินเดือนตอนนี้กับเงินเดือนเมื่อปีที่แล้วจะเพิ่มขึ้นน้อยมากเช่นกัน
9. มีความอ่อนน้อม (Have humility)
เพราะเรายังเป็นคนไทย และความอ่อนน้อมทำให้เราเป็นคนน่ารัก
และเป็นที่รักแต่ก็ต้องแยกให้ออกระหว่างอ่อนน้อมกับพินอบพิเทา
ความอ่อนน้อมเกิดจากความเชื่อที่ว่าเราไม่ได้อยู่เหนือคนอื่น
ขณะที่ความพินอบพิเทาเป็นเพียงการแสดงละครเพื่อแลกกับอะไรบางอย่าง
10. มีความคิดริเริ่ม (Be proactive)
ถ้าเรามีไอเดียอะไรใหม่ๆ ที่คิดว่ามีประโยชน์ต่อทีม ให้เอาไปเสนอกับหัวหน้าเลยครับ
ถ้าหัวหน้าเห็นดีเห็นงามเขาอาจจะให้เราเป็นคนทำโปรเจ็กต์นี้เลยก็ได้
อาจจะเหนื่อยเพิ่มขึ้นมาหน่อย แต่เชื่อผมเถอะว่ามันคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม
11. ช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีม (Support your colleagues)
เพราะมันแสดงให้หัวหน้าเห็นว่า นอกจากเราจะดูแลงานของตัวเองได้แล้ว
เรายังมีกำลังและน้ำใจที่จะช่วยคนรอบข้างได้ สำหรับสองข้อสุดท้าย
อาจจะดูเหมือนต้องเหนื่อยเพิ่มแต่ถ้าเราทำได้มันจะเป็นการส่งสัญญาณ
บอกให้หัวหน้ารู้ว่าเราไม่ได้ทำอะไรแค่เพื่อให้งานตัวเองเสร็จเท่านั้น
แต่เรายังมีแก่ใจที่จะช่วยให้ทีมดีขึ้นด้วย ดังนั้นหากเจ้านายคิดจะโปรโมตใครในทีมขึ้นมา
เขาต้องมองคนประเภทนี้ไว้ก่อน เพราะคนที่ทำงานเก่งด้วย
และช่วยเพื่อนร่วมทีมได้ด้วยนั้นหากันไม่ได้ง่ายๆนะดรับ
เป็นยังไงกันบ้างครับพอจะเห็นภาพแล้วใช่ไหมว่า เจ้านายชอบลูกน้องแบบไหน
หากได้ทำตามเคล็ดลับ 11 วิธีนี้ จะทำให้เจ้านายรักและเอ็นดูคุณมากขึ้นแน่นอนครับ
หวังว่าบทความนี้เพื่อนๆจะได้รับประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับ
ที่มา : b o o k i n t e l l i g e n t