
เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนเราที่ต้องมีทั้งเวลาอารมณ์ดีและเวลาอารมณ์ไม่ดี หงุดหงิด ตึงเ ค รี ย ด แล้วแต่ช่วงเวลาที่เราได้พบเจอกับอุปสรรคและปัญหาใดๆ บ้ าง ซึ่งอารมณ์ของเรานี่แหละ
ที่จะส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของเราได้เยอะเลยทีเดียว ถ้าหากว่าเราอารมณ์ดี เราก็มีความสุข มีรอยยิ้ม มีเสียงหัวเราะ แต่เวลาที่เรารู้สึกไม่ดี เช่น เ ค รี ย ด โกรธ ไม่พอใจ หงุดหงิด กังวลใจ
ไม่สบายใจ หากไม่รู้วิธีจัดการและรับมือกับอารมณ์ไม่ดีเหล่านั้น ก็จะบั่ น ท อ น ความสุข ความสดใสในชีวิตไป วันนี้ มีวิธีการที่จะช่วยเปลี่ยนอารมณ์หงุดหงิดเหล่านั้น ให้เป็นอารมณ์ที่ดีขึ้นได้ ดังนี้ค่ะ
1. นอนหลับอย่างเพียงพอ
การนอนหลับที่ไม่เพียงพอเป็นสาเหตุ ที่ทำให้กลายเป็นคนขี้หงุดหงิดได้ และถ้ายิ่งนอนไม่เพียงพอติดต่อกันหลายวัน ก็จะยิ่งทำให้หงุดหงิดมากขึ้นกว่าเดิม เพราะช่วงเวลาการนอนช่วยฟื้นฟู
และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่ า ง ก า ย อ วั ย ว ะทุกส่วน ส ม อ ง รวมถึวอารมณ์ของเราด้วย ดังนั้นจึงควรนอนหลับพักผ่ อ น ในตอนกลางคืนให้เพียงพออย่างน้อย 8 ชั่ วโมงต่อคืน และจะต้องเป็นเวลานอนที่ติดต่อกันด้วยนะ
2. คลายความเ ค รี ย ด
ความเ ค รี ย ด เป็นสาเหตุหลักของอารมณ์หงุดหงิด เพราะความเ ค รี ย ดส่วนใหญ่แล้วก็มักจะเกิดจากปัญหาต่างๆ ที่เข้ามา ดังนั้นแทนที่คุณจะไปเคร่งเ ค รี ย ดกับปัญหานั้น คุณก็แค่ทำใจให้เย็นลงแล้วหันกลับไปมองปัญหา
ลองดูสิว่าปัญหาของคุณมีอะไรบ้ าง และปัญหาใดที่คุณสามารถแก้ไขได้ ปัญหาใดที่คุณต้องยอมรับและร้องขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นบ้ าง อย่าโทษตัวเองในสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ให้บอกกับตัวเองว่าควรทำให้ดีที่สุด แก้ไขให้สุดกำลัง ผลจะออกมาอย่างไรก็ควรยอมรับ เมื่อคุณสามารถใจเย็นลงได้ อาการหงุดหงิดของคุณก็จะลดลงตามไปด้วย
3. ดูแลตัวเองให้ดีกว่าเดิม
การมีรูปลักษณ์ที่ดูไม่ดี เช่นอ้วน เป็นสิวเขรอะหรือผิวพรรณที่ไม่สดใส ทำให้ดูโทรม เมื่อส่องกระจกก็จะรู้สึกหงุดหงิดอารมณ์เสีย ไม่พอใจในตัวเอง เป็นเช่นนี้ได้เวลาแก้ไขกันแล้ว แค่เพียงคุณหันกลับมาดูแลรูปร่าง
ผิวพรรณของตัวเอง โดยการเลือกรับประทานอ า ห า ร ที่มีประโยชน์และออกกำลังกายให้มากขึ้น เมื่อคุณมีร่ า ง ก า ยที่แข็งแรงแล้วคุณก็จะมีอารมณ์ที่ดีขึ้น นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงบุคลิกและภาพลักษณ์ตัวเอง ก็จะสามารถช่วยทำให้คุณรู้สึกพึงพอใจในตัวเองได้อีกด้วย
4. บอกเล่าออกมา
หลายคนมักกลายเป็นคนขี้หงุดหงิด ก็เพราะมีเรื่องวุ่นวายอยู่ในใจมากมาย วิธีที่ดีจะช่วยลดความหงุดหงิด ก็คือการได้พูดออกมา ลองหันไปหาเพื่อนสักคนที่ไว้วางใจ ผลัดกันระบายถึงปัญหาที่พบเจอ
ถึงแม้จะช่วยอะไรไม่ได้ แต่ก็จะทำให้คุณรู้สึกสบายใจมากขึ้น แต่ถ้าหากปัญหาเหล่านั้นเป็นเรื่องที่คุณไม่สามารถบอกกับเพื่อนของคุณได้ ในปัจจุบันก็มีนักจิตบำบัดมากมายที่พร้อมจะช่วยรับฟังปัญหาของคุณ และเมื่อคุณได้ระบายออกมาจนสบายใจแล้ว ก็จะช่วยทำให้อารมณ์ที่ขุ่นมัวในใจของคุณดีขึ้น ลดความหงุดหงิดไปได้เยอะเลย
5. เดินออกจากเหตุการณ์
ในเหตุการณ์ที่บางครั้งบางเวลาเราอาจถูกคนในครอบครัว เพื่อน คนในที่ทำงาน คนบนท้องถนน คนรอบข้าง ทำอะไรให้เรารู้สึกไม่พอใจหรือโกรธ เราอาจจะไม่สามารถตอบโต้กลับไปได้ดั่งใจ วิธีการที่ดีคือเลือกที่จะเดินหนีไปจะดีกว่า
เพราะบางครั้งการเดินออกจากปัญหามาก่อน ก็ดีกว่าการที่จะมานั่งโต้เถียงกันแบบไม่รู้จักจบ เพราะขณะที่อารมณ์ยังไม่ปกตินั้น คนเรามักขาดสติและการคิดใคร่ครวญถึงสิ่งที่ถูกต้อง
การย้ายตัวของเราออกจากปัญหา บางทีช่วยให้ความรู้สึกที่ไม่ดีหายไปได้ ทั้งยังช่วยลดความเ ค รี ย ดและสามารถทำให้เรากลับมาเผชิญ และแก้ปัญหาได้อย่างฉลาดและมีสติอีกครั้ง
6. เล่นกับสัตว์เลี้ยง
สัตว์เลี้ยงเป็นเหมือนเพื่อนผู้ซื่อสัตย์ของเรา ไม่ทำร้ า ยเรา ช่วยให้คุณคลายอารมณ์หงุดหงิด ลดความเ ค รี ย ด และทำให้เกิดความรู้สึกที่ผ่ อ น คลาย ไม่ว่าจะเป็นแมว สุนัข หรือสัตว์อื่นๆ เช่น นก
กระรอก หนู การได้เห็นสัตว์เหล่านี้เคลื่อนไหวและการได้จับ ได้ลูบ ได้กอด หรือให้พวกมันมาคลอเคลียอยู่ใกล้ๆ จะทำให้เรามีความสุข รู้สึกผ่ อ น คลายและอารมณ์ปลอดโปร่งมากขึ้น
7. ออกกำลังกาย
การได้ขยับเคลื่อนไหวร่ า ง ก า ย ไม่ว่าจะเป็นการได้เดินไปเรื่อยๆ ช้าๆ หรือวิ่งเหย าะๆ หรือเต้น ฮูลาฮูป หรือเล่นกีฬาที่โปรดปราน จะช่วยให้ความเ ค รี ย ดที่มีอยู่หมดลงไป เพราะคนที่เ ค รี ย ด กล้ามเ นื้ อส่วนต่างๆ
ของร่ า ง ก า ยมักจะตึง เมื่อเราได้เคลื่อนไหวร่ า ง ก า ยอย่างอิสระจะทำให้กล้ามเ นื้ อนั้นคลายความตึงลง ซึ่งจะทำให้เรารู้สึกผ่ อ น คลายขึ้นด้วย ดังนั้น จึงควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอกจากสุ ข ภ า พ จะแข็งแรงแล้ว ยังทำให้คลายควาเ ค รี ย ดความหงุดหงิดไปได้เยอะเลย
8. กอดคนที่ร้ก
การได้กอดหรือได้รับการกอดจากคนที่เรารักและรักเรา ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อ คุณแม่ ญาติพี่น้อง เพื่อน หรือคนรัก จะช่วยให้เรามีความรู้สึกที่ดีขึ้นทันทีและช่วยลดความเ ค รี ย ดลงได้ในเวลาเดียวกัน
เพราะการกอดเป็นสัมผัสที่สามารถถ่ายทอดความรู้สึกรัก อบอุ่นใจ ห่วงใยและเข้าใจระหว่างกันและกันได้ เมื่อเราได้รับการถ่ายทอดความรู้สึกดีๆ มาจะทำให้เรามั่นคงในจิตใจมากขึ้น และพร้อมที่จะก้าวข้ามปัญหาหรืออุปสรรคไปได้อย่างมีสติและใจเย็น
9. คิดบวก
เปลี่ยนความคิดในแง่ลบต่างๆ แล้วเปลี่ยนเป็นคิดในแง่บวก คือ คิดถึงแต่สิ่งที่ทำให้มีความสุขและสบายใจ เช่น คิดถึงเรื่องการไปเที่ยวในสถานที่ๆ ชื่นชอบ คิดถึงอ า ห า ร ที่อร่อยๆ คิดถึงของที่อย ากซื้ อ
หรือเมื่อมีงานยุ่งย ากแทนที่จะเ ค รี ย ด กลุ้ม อกกลุ้มใจ ก็พย าย ามหาทางแก้ไขจัดการให้เป็นไปได้ คิดเสียว่าเราเป็นคนเก่งต้องทำงานนี้ให้สำเร็จ การที่เรามีความคิดที่ไม่สบายใจอยู่ภายใน
ทำให้เราส ม อ งไม่แจ่มใส ไม่สามารถคิดสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ ได้ ดังนั้น ให้เราลองใช้วิธีเปลี่ยนความคิดดู คิดทางบวก มีความสุขสดชื่นจะทำให้เรามีความรู้สึกที่ดีขึ้นและผ่ อ น คลายมากขึ้น
หากว่าคุณกำลังมีปัญหากับนิสัยขี้หงุดหงิดของตนเองอยู่แล้วล่ะก็ จำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแปลงให้เร็วที่สุด เพราะยิ่งนิสัยนี้อยู่กับเรานานมากเท่าใด ก็จะยิ่งสร้างแต่ปัญหา
จนเป็นเหตุทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสุ ข ภ า พ จิต และบุคลิกภาพไปในทางที่ไม่ดีได้ เริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ หันมาใส่ใจตนเองให้มากขึ้น เลือกสิ่งที่ดีๆ ให้ตนเอง มองโลกในแง่ดี คิดบวกให้มาก รั ก ษ าสุ ข ภ า พ ให้แข็งแรงเสมอ เพียงเท่านี้ก็จะสามารถเป็นคนใหม่ที่สุ ข ภ า พ ร่ า ง ก า ยและจิตใจดี มีความสุขได้ในคราวเดียวกันค่ะ
ที่มา : k a i j e a w