1.ยึดติดกับความสุขในแบบของคนอื่น
การยึดติดกับคนอื่นนั้นไม่มีข้อดีอะไรเลย มีแต่ข้อเสีย เพราะคำว่า “ยึดติด” คือชัดเจนว่าคุณกำลังไม่เป็นตัวเอง หรือพย า ย า มเหมือนคนอื่น หรือตามคนอื่นตลอดเวลาจนทิ้งความเป็นตัวเอง
ซึ่งแน่นอนว่าการกระทำเช่นนี้ จะทำให้คุณนั้นไม่มีความสุขอย่างแน่นอน ยกตัวอย่างการ “ยึดติด” กับคนอื่น เช่น มีมือถือที่ดีอยู่แล้ว แต่กลับอย า กได้ใหม่ตามเพื่อน เพราะเห็นเพื่อนได้แล้วมีความสุข จึงอย า กมีความสุขบ้ า ง เป็นต้น
วิธีแก้ไข คือ เลิกสนใจสิ่งภายนอกที่หลอกให้คุณต้องการอย า กได้อย า กมี ทั้ง ๆ ที่มีอยู่แล้ว เพราะมันไม่ได้ก่อประโยชน์ให้คุณ แถมยังนำโทษมาให้อีกด้วย ทั้งคำโฆษณาชวนเชื่อ และผู้คนที่ให้วาจาล่ายล้อม ให้คุณต้องหามาซึ่งสิ่งที่คุณไม่จำเป็นต้องมีมันเลย
2.ทำตัวเหมือนเด็ก ไม่ยอมโต
การทำตัวเหมือนเด็ก ๆ นั้น ไม่ได้ส่งผลดีต่อชีวิตของคุณเลย เนื่องจาก “เด็ก” การคิดไตร่ตรองจะทำอะไร ย่อมน้อยกว่าคนโต ๆ การทำตัวเป็นเด็ก ๆ นั้นจึงเป็นผลเสียแน่นอน ยกตัวอย่างเช่น ความอิจฉาริษย า อย า กได้อย า กมีตามเพื่อน เพราะกลัวน้อยหน้า กลัวเพื่อนว่า กลัวสังคมมองไม่ดี เป็นต้น
วิธีแก้ไข คือ ออกจากกลุ่มเพื่อนที่มองกันแค่ภายนอก ดูถูกเหยียดหย า มกันจากสิ่งของที่มี แต่ไม่สนใจภายในจิตใจ คุณควรหนีให้พ้นจากคนกลุ่มนี้ เพราะนอกจากพวกเขาจะดึงตัวเองลงแล้ว ยังดึงคุณลงมาอีกด้วย
3.ปิดกั้นตนเอง อยู่แต่โลกของ “หน้าจอ”
แปลกไหมทำไมคุณถึงเหงา ทั้ง ๆ ที่มีเพื่อนเต็มเฟซบุ๊ก ท วิ ต เ ต อ ร์ หรืออินสตาแกรม และช่องทางอื่น ๆ แล้วทำไมถึงยังรู้สึกว่าตนเองโดดเดี่ยวอีก แต่รู้ไหมหากลองมาคิดดูดี ๆ มันไม่แปลกเลย เพราะเพื่อนของคุณนั้นอยู่ในหน้าจอ อยู่คนละที่กับคุณ ซึ่งก็พูดคุยกันแค่ผ่านหน้าจอเท่านั้น
วิธีแก้ไข คือ ลองนัดกันออกมาพบเจอในโลกขอชีวิตจริงให้มากขึ้น มาเจอกัน ไม่ใช่แค่พูดคุยกันผ่านหน้าจอ เพราะคนเรานั้นเวลาอย า กพูดคุย ปรึกษากับใคร การมาเจอกันต่อหน้า มองหน้ากับบางครั้งอาจจะมีความสุขกว่ามองหน้าจอเป็นไหน ๆ
4.คิดลบ มองตนเองให้แง่ลบ
คำเราทุกคนเกิดมาต้องมีทั้งความสุข และความทุกข์ ชีวิตหนึ่งอาจต้องโดนนินทาจากเพื่อน โดนดุจากครู หรือโดนตีจากพ่อแม่ แต่อย่างไรก็ตาม มันเป็นเพียงสีสันที่มาแต่งเติมชีวิตคุณ
และทำให้คุณโตขึ้นเท่านั้น คุณควรมองสิ่งเหล่านี้ และคิดว่าควรแก้ไขอย่างไร หรือรู้จักปล่อยวางบ้ า งหากกรณีไหนที่คุณอาจจะควบคุมไม่ได้ เช่น การโดนนินทา เป็นต้น
วิธีแก้ไข คือ คุณควรให้คุณค่ากับตัวเอง เราทุกคนย่อมมีสิ่งดี และไม่ดี แตกต่างกัน คุณควรมองเห็น หรือพย า ย า มหาข้อดีของตนเองให้เจอ และใช้มันไปในทางที่ถูกที่ควร เช่น
หากคุณเป็นคนหน้าตาไม่ดี แต่คุณเสียงดี คุณก็ยังสามารถใช้เสียงคุณในการหาเลี้ยงชีวิตได้ ไม่ต้องเก็บมาเป็นปมด้อยของตนเอง เพราะคนหน้าตาดี ๆ ทั้งหลาย อาจจะมีเสียงที่ไม่น่าฟังเท่าคุณเลยก็ได้
5.ยึดติดอยู่ในกรอบ ที่ตัวเองขีดไว้มากไป
การยึดติดอยู่ในกรอบนั้น ไม่ใช่เรื่องที่เ ล ว ร้ า ย แต่หากเข็งข้อกับมันมากเกินไป อาจจะเป็นการทำร้ า ย ตัวคุณเอง ยกตัวอย่างเช่น ในบางกรณีที่คุณอาจต้องการความช่วยเหลือ ต้องการคำปรึกษาจากใคร แต่อีกใจหนึ่งคุณตีกรอบตรงนั้นไว้ว่าจะไม่เล่าเรื่องส่วนตัว หรือจะไม่ปรึกษาใคร และหาทางออกด้วยตนเอง
ในกรณีนี้หากคุณหาทางออกได้จริง ก็ถือเป็นเรื่องดี แต่หากคุณหาไม่ได้แล้วเลือกใช้วิธีหนีปัญหา เช่น ออกไปดื่มอย่างหนักหน่วงเพื่อจะได้หายเ ค รี ย ด หรือเลือกจบชีวิตตนเองด้วยการฆ่ า ตัวต า ย แน่นอนว่าถึงเวลานี้แล้วการตีกรอบของคุณนั้น ถือว่ามีผลเสียเ ล ว ร้ า ย จริง ๆ
วิธีแก้ไข คือ คุณไม่ควรตึงเกินไปกับกรอบของตนเอง เช่นกรณีข้างต้น หากคุณหาทางออกไม่ได้ ควรหาตัวช่วย เช่น ปรึกษาครอบครัว ปรึกษาเพื่อนสนิท
หรือในปัจจุบันมีช่องทางมากมายให้คุณปรึกษาแบบไม่แสดงตัวตน เช่น ทางรายการวิทยุ เป็นต้น ซึ่งนั่นอาจจะเป็นทางที่คุณจะพบทางออกของปัญหา ที่พย า ย า มแก้ไขมานานก็ได้
6.การเ ส พ ติ ด บางอย่างมากเกินไป
การเ ส พ ติ ด นั้น แค่พูดก็ฟังดูแ ย่ แล้ว เพราะนั้นหมายถึงอาการของคำว่า “เกินไป” หรือ “ฝืน” นั่นเอง อาการเ ส พ ติ ด นี้คือการที่คุณไม่สามารถออกมาจากตรงนั้นได้ เช่นการ
เ ส พ ติ ด การพนัน เ ส พ ติ ด การดื่มเหล้า เ ส พ ติ ด การช้อปปิ้ง เป็นต้น ซึ่งหากคุณยังไม่พย า ย า มที่จะออกมาจากสิ่งเหล่านี้นั้น แน่นอนว่าชีวิตของคุณนั้นจะพังทลายลงอย่างแน่นอน
วิธีแก้ไข คือ ขอคำปรึกษาจากที่ปรึกษาเฉพาะทาง ที่สามารถช่วยให้คำแนะนำต่อการวางแผนชีวิตที่สมดุล ให้กับคุณได้ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องทนอยู่กับอาการเ ส พ ติ ด นั้น ๆ เพียวตัวคนเดียว
7.ใช้ชีวิตบนคำนิย า มความสุขแบบผิด ๆ
หรือพูดอีกแบบก็คือเอาความสุขไปผูกติดกับอะไรผิด ๆ เช่น ถ้ารวยจะมีความสุข ถ้าสวยจะมีคนชอบ ถ้าเกิดมาฉลาดชีวิตจะดีกว่านี้ เป็นต้น ซึ่งในข้อนี้ มีหลายคนที่เป็นแต่ไม่รู้ตัว
เนื่องจากคนอื่น ๆ รอบตัวก็เป็นแบบนี้กันทั้งนั้น จึงทำให้คุณมองว่าอาการนี้ของคุณนั้น “ปกติ” แต่จริง ๆ แล้วการคิดแบบนี้นั้นจะทำให้คุณรู้สึกแ ย่ กับตนเองไม่พอ ยังทำให้คุณนั้นฝืนตนเองจนไม่มีความสุขอีกด้วย
วิธีแก้ไข คือ หยุดเอาความสุขไปผูกกับอะไร ลองหาความสุขจากสิ่งที่คุณมี ดี เช่น คำว่า “หากรวยจะมีความสุข” คุณลองหันกลับมามองตนเองว่าคุณ คือ คนที่จนที่สุดในโลกไหน ณ ตอนนี้ ยังมีคนอีกมากมายที่ไม่ได้มีเท่าคุณ แล้วทำไมคุณถึงต้องกดตัวเองลง แล้วบอกว่าถ้าตัวเองรวยจะมีความสุข
ทำไมไม่มองว่าตอนนี้คุณก็มีความสุข และพย า ย า มหาทางพัฒนาตนเองไปในอนาคตซิ ในระหว่างทางก่อนคุณจะ “รวย” นั่นคุณจะได้มีความสุขไปด้วย ไม่ใช่ทนทุกข์ทรมาณไประหว่างทางแบบนี้
8.ไม่รักตัวเอง
ข้อนี้จะเป็นข้อสรุปจากทุกข้อ และหากใครเป็นนั้นจะผิดอย่างมหันต์ เพราะคุณเกิดมาใช้ชีวิตนี้ บนร่ า ง ก า ยนี้ ก็ควรที่จะรัก หรือภูมิใจกับตนเอง ถึงแม้ว่าคุณจะไม่สวย หรือไม่เก่งแบบใคร ๆ
แต่คุณก็ควรภูมิใจที่คุณได้เกิดมา ได้มองเห็นโลกกว้าง ได้หายใจ ได้มีเพื่อน ได้พูดคุยกับทุกคน หูคุณก็ได้ยิน เวลาไปทานอะไรลิ้นคุณก็ยังรับรู้รสชาติ คุณควรรักตัวเองให้มาก ๆ
และดูแลร่ายกายนี้ไว้ให้ดีที่สุด ใช้ชีวิตให้มีคุณค่า สร้างบุญสร้างประโยชน์ให้กับโลกนี้มาก ๆ พัฒนาตนเองและใช้ข้อดีของตนเอง เพื่อช่วยเหลือผู้อื่นด้วยละ
ที่มา : chiangmainews
