Home ข้อคิดสอนใจ 7 วิธีปลดหนี้ แม้การเงินจะแย่ “หมุนเงินไม่ทัน”

7 วิธีปลดหนี้ แม้การเงินจะแย่ “หมุนเงินไม่ทัน”

7 second read
0
0
30

หลายคนอาจจะกำลังเผชิญปัญหาเป็นหนี้ ซึ่งรายได้ที่เข้ามาก็ไม่พอใช้สักเท่าไหร่ แล้วไหนจะต้องแบ่งไปชำระหนี้อีก ยังไม่รวมถึงภาระอื่นๆอีกมากมาย หากกำลังมองหาวิธีการที่จะมาช่วยหมุนเงินให้ทันเวลาละก็ มาถูกทางแล้วครับ วันนี้เรามาดู 7 วิธี ใช้หนี้ แม้หมุนเงินไม่ทัน จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลยครับ

1.ลดค่าใช้จ่าย

หากสังเกตุได้ว่ารายได้เริ่มจะไม่พอใช้ได้อย่างชัดเจน เราต้องรีบหาทางแก้ไขแล้วแหละครับ โดยการลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

ใช้ทุกอย่างเท่าที่จำเป็นต้องใช้ เช่น ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำ ค่าของอุปโภคบริโภคต่างๆ เราไม่สามารถลดส่วนนี้ได้มาก จึงถึงเวลาที่ต้องลดค่าใช้จ่ายด้านบันเทิง อ า ห า ร หรูหรา ท่องเที่ยว ให้ด่วนที่สุดครับ

2.สร้างรายได้มากขึ้น

ในเมื่อรายได้เริ่มไม่พอใช้ขึ้นเรื่อยๆ ก็ต้องหาอะไรทำสักอย่างเพื่อเพิ่มพูนรายได้สักหน่อย อาจจะหางาน Part-time ทำ อาชีพเสริม หรือทำงานนอกเวลาที่ไม่ส่งผลกระทบต่องานประจำ

เพื่อหารายได้เข้ามาให้มากที่สุด โดยมีหลายช่องทางมากมาย เช่น ขายของตามเทศกาลต่างๆ หากไม่สะดวกก็หาสินค้ามาขายออนไลน์ได้อีกด้วยนะครับ

3.หยุดก่อหนี้เพิ่ม

นี่คือสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเลยครับ ในเมื่อเราเป็นหนี้อยู่แล้ว ก็ต้องหยุดก่อหนี้เพิ่ม เพราะถ้าต้องจ่ายทั้งเจ้าหนี้เก่า และเจ้าหนี้ใหม่ รับรองเลยว่า แ ย่ แน่ๆ!!

บางคนอาจจะใช้วิธีการกดเงินสดจาก บั ต ร เ ค ร ดิ ต ใบหนึ่งไปเพื่อไปจ่ายหนี้อีกใบ ซึ่ืงดอกเบี้ยสูงมากแน่ และพวกหนี้นอกระบบลืมไปได้เลย จะกลายเป็นหนี้ก้อนโตที่ยากจะชำระคืนอีกด้วย ทางที่ดีชำระหนี้เจ้าเดิมให้หมดก่อนดีที่สุดครับ

4.งดใช้ บั ต ร เ ค ร ดิ ต

ปกติหากเราใช้ บั ต ร เ ค ร ดิ ต ในการจ่ายค่าสินค้าและบริการต่างๆ เพราะสะดวกสบาย ไม่ต้องพกเงินให้หนักกระเป๋า แต่ถ้าเราไม่สามารถชำระบิลเรียกเก็บเงินได้เต็มจำนวน แบบนี้ก็เท่ากับสร้างหนี้ บั ต ร เ ค ร ดิ ต

ทำให้ตัวเองมีหนี้มากกว่าเดิม ถ้าเทียบกับการใช้เงินสด เวลาเราจ่าย จะทำให้รู้ว่าเงินในกระเป๋ามันหายไปในทันที เห็นกับตาเลยว่า เราใช้เงินไปแล้วเท่าไหร และเราจะรู้สึกว่าไม่ค่อยอยากจะจ่ายอะไรที่ไม่จำเป็น ทำให้ต้องคิดเยอะกว่าเดิม แบบนี้แหละจะได้ระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น

5.รีไฟแนนซ์ช่วยได้

หากเราใช้หนี้ไม่ไหวจริงๆ มันมีมากเหลือเกิน การรีไฟแนนซ์ช่วยได้ โดยการเจรจากับผู้ให้กู้รายใหม่ หรือรายเดิม ทำการรวมยอดหนี้ทั้งหมดไว้ในก้อนเดียว

จะมีหลักทรัพย์ค้ำประกันหรือไม่ก็ได้ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของผู้กู้ แต่เราต้องพิจารณาค่าใช้จ่ายและค่าเสียเวลาในการขอรีไฟแนนซ์ด้วยว่า คุ้มค่ามากน้อยแค่ไหน ดอกเบี้ยถูกลงหรือไม่

6.เจรจาขอผ่อนผันกับเจ้าหน้าที่

จริงๆ แล้วสถาบันการเงินหรือเจ้าหนี้ไหนๆ ก็อยากให้เราคืนเงินจนครบจำนวนกันทั้งนั้น ถ้าเราเข้าไปเจรจาโดยขอลดดอกเบี้ยลง ขอลดอัตราการชำระหนี้ขึ้นต่ำต่อเดือน ยืดอายุหนี้

ยังไงเขาก็ประนีประนอม อย่างน้อยๆ เราก็ได้แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจะชดใช้หนี้ให้เห็นจริงๆ เจ้าหนี้เองก็ไม่อยากให้หนี้เราเป็นหนี้เสีย หรือหนี้สูญ ภาระจะได้เบาลงบ้างครับ

7.วางแผนการเงิน

พอลองคิดๆ ดูแล้ว ที่เราเป็นหนี้ อาจเป็นเพราะเราไม่เคยวางแผนการเงินหรือเปล่า? ที่ต้องทำก็ไม่ได้ยากเลยนะครับ แค่เราต้องแบ่งเงินรายได้ของเราเป็นส่วนๆ โดยแบ่งเป็น

-เงินสำหรับการใช้จ่าย

-เงินสำหรับการออม

เงินสำหรับการใช้จ่ายก็สามารถแบ่งออกเป็น ค่าใช้จ่ายจำเป็น กับ ค่าใช้จ่ายยืดหยุ่น ซึ่งถ้างบประมาณตรงนี้เราใช้ไม่หมด เราก็สามารถ

เอาไปไว้ตรงส่วนเงินออมได้อีกด้วยครับ หากใครกำลังเป็นหนี้ก็อย่าเพิ่งท้อกันนะครับ ลองนำวิธีเหล่านี้ไปใช้ รับรองปลดหนี้ได้รวดเร็วและสบายใจอย่างแน่นอนครับ

ที่มา : t e r r a b k k

Load More Related Articles
Load More By adminjing
Load More In ข้อคิดสอนใจ

Check Also

8 วิธีทำให้คนนับถือคุณ หลักๆ อยู่ที่การวางตัว

ไม่ใช่แค่กลุ่มคนทำงาน แต่พวกเราทุกคนต่างต้องอยู่ในสังคมร่วมกับผู้อื่นไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ทุ…