![](https://jingjai999.com/wp-content/uploads/2022/12/1-8-850x491.jpg)
1.ปกครองลูกน้องด้วยความเป็นธรรม
การเป็นหัวหน้างานที่ดีนั้น ต้องมีความยุติธรรม ใครทำดีเราก็ต้องชื่นชมบ้างเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจที่ดีส่วนใครทำผิด แม้จะเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็อย่ามองข้ามหรือปล่อยผ่าน
ควรเรียกมาพูดคุย ตักเตือน แต่ต้องใช้คำพูดที่ดีไม่ใช้อารมณ์ในการสื่อ ส า ร และพร้อมให้โอกาสในการแก้ตัวใหม่หากความผิดพลาดนั้นไม่ใช่เรื่อง ร้ า ย แรงจนกระทั่งต้องเลิกจ้างครับ
2.มอบหมายงานด้วยความเข้าใจ
การมอบหมายงานลูกน้อง คือ หนึ่งภารกิจของหัวหน้างาน เพราะหากหัวหน้างานทำเองทุกเรื่องย่อมไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่นอนกลับกันหากเรารู้จักมอบหมายงาน โดยเลือกใช้คนให้ถูกกับงาน หัวหน้าย่อมมีเวลาไปทำภารกิจที่ใหญ่ขึ้น
และมองภาพรวมได้ดีกว่า มาก้มหน้าก้มตาทำงานไปวัน ๆ อย่าลืมว่า วันนี้เราไม่ใช่ผู้ปฏิบัติงานหน้างานแล้วแต่เราต้องรู้จักมองภาพใหญ่ คือ เป้าหมายรวมของหน่วยงานให้ออก ควบคุมงานให้ออกมาในทิศทางของเป้าหมายที่ตั้งไว้และ ก ร ะ ตุ้ น ให้งานออกมาในทิศทางที่เป็นบวกมากกว่าเป็นลบครับ
3.สอนงานเพื่อสร้างทีม
การสอนงานนับว่าเป็นหนึ่งภารกิจที่สำคัญมาก ๆ เพราะหัวหน้างานมีประสบการณ์ในการทำงานในระดับหนึ่งแล้วดังนั้นต้องรู้จักแนะนำทั้งสิ่งที่ดี และสิ่งที่ต้องระมัดระวังในการทำงานต่อลูกน้อง อีกทั้งหัวหน้างานต้องเป็นนักพัฒนา
โดยเฉพาะการพัฒนาตนเองเพื่อให้การทำงานรวดเร็วขึ้น เพราะอย่าลืมว่า โลกหมุนทุกวัน เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาหากหัวหน้างานนิ่งเฉยไม่ยอมเปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ แบบนี้ลำบากครับ และนอกจากที่ต้องสอนงานลูกน้องแล้ว
บางครั้งหัวหน้างานก็ต้องรับฟังปัญหาหน้างานจากลูกน้องบ้าง เพื่อนำมาขบคิดในการแก้ไขปัญหาเพราะอย่าลืมว่า คนที่อยู่หน้างานย่อมรู้ปัญหาลึกซึ่งกว่าคนที่มองภาพรวมการรับฟังเยอะอาจทำให้เรามีทางออกในปัญหานั้น ๆ ครับ
4. ก ร ะ ตุ้ น จูงใจลูกน้องเป็น
หัวหน้างานที่ดีต้องรู้จักเดินเข้าหาลูกน้องบ่อย ๆ สร้างความเป็นมิตร ไม่ถือตัว ยืดหยุ่น แต่ดูน่าเคารพคำว่าน่าเคารพ ขึ้นอยู่กับการแสดงออกทั้งคำพูดและการกระทำในทุก ๆ วัน การ ก ร ะ ตุ้ น ลูกน้องนั้น
นับว่าเป็นสิ่งที่หัวหน้างานไม่ควรมองข้ามครับ อย่างที่บอก ขึ้นชื่อว่าคนมีความรู้สึก มีความคิดที่แตกต่างกันการที่ทำให้คนหมู่มากคล้อยตาม และปฏิบัติในทิศทางเดียวกันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินไป
โดยเฉพาะในบางวันที่ลูกน้องมีอาการท้อ มีปัญหาชีวิตและส่งผลชิ่งมาสู่การทำงานประจำวันหัวหน้าควรเรียกมาพูดคุย รับฟังปัญหา และให้กำลังใจลูกน้อง เพราะหากคนมีความคิดที่ดี มีใจที่สู้พร้อมปฏิบัติงาน
ผลลัพธ์ย่อมออกมาดี กลับกัน หากวันนั้นใจไม่สู้การทำงานย่อมมีโอกาสผิดพลาดมากกว่าสำเร็จดังนั้น อย่าไปมองที่กระบวนการทำงานอย่างเดียว ต้องมองที่ความคิดและสภาพจิตใจของคนวันนั้นให้ได้
อีกทั้งทุกเช้าก่อนเริ่มต้นทำงาน หัวหน้างานที่ดีควรปลุกใจลูกน้อง สร้างความเข้าใจ และ ก ร ะ ตุ้ น ให้ทุกคนพร้อมในการทำงานของตนเอง เพื่อจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือ ความสำเร็จของทีม
5.รู้จักหาทางแก้ไขมากกว่าโทษคนอื่น
เมื่อทำงาน ย่อมต้องมีปัญหาเป็นของคู่กัน เพราะต่อให้เราวางแผนดีแค่ไหน แผนก็ไม่ได้การันตีความสำเร็จครับการวางแผนช่วยในเรื่องการลดข้อผิดพลาดจากการทำงานให้น้อยที่สุด ก็เท่านั้น ดังนั้นเมื่อเจอปัญหาสิ่งแรกที่หัวหน้างาน
ที่ดีควรทำ คือ การหาแนวทางแก้ไขปัญหาจากทุก ๆ คนในทีมมากกว่าโทษว่าเป็นความผิดของคนอื่นเพราะอย่าลืมว่า เราทำงานแข่งขันกับเวลาในทุก ๆ วัน การใช้ทุกวินาทีให้คุ้มค่า คือ สิ่งที่สำคัญที่สุดครับ
เมื่อเจอปัญหา จงช่วยกันระดม ส ม อ ง แ ช ร์ ไอเดียโดยไม่ตัดสินว่าใครถูกผิด และหัวหน้าจงคิด วิเคราะห์ แยกแยะในการตัดสินใจแก้ไขปัญหาให้สำเร็จลุล่วง และแจ้งให้ทุกคนทราบเพื่อเป็นบทเรียนสำคัญในการทำงานต่อไปในอนาคตที่จะไม่ก่อให้เกิดความผิดพลาดในเรื่องเดิม ๆ
6.มีวิสัยทัศน์ที่ยาวและวางแผนให้เป็น
เมื่อขึ้นชื่อว่าเป็น ผู้นำคนหนึ่งขององค์กรแล้ว ต้องคิดเหมือนผู้นำที่อยากให้องค์กรก้าวไปข้างหน้ามากกว่าย่ำอยู่กับที่ถึงแม้อนาคตเราอาจไม่ได้อยู่กับองค์กรไปตลอด แต่นั่นคือ อนาคต ควันจาง ๆ ที่มองไม่เห็น
กลับกันจงใส่ใจที่ปัจจุบันที่เรากำลังทำงานที่องค์กรแห่งนี้ กินเงินเดือนทุก ๆ เดือน แถมปี ๆ หนึ่งก็มีเงินโบนัสเป็นของแถมเราควรตั้งใจ มุ่งมั่น และบางครั้งก็ควรเข้าใจสถานการณ์ขององค์กรว่าตอนนี้อยู่ในทิศทางแบบไหน
เพราะการเปลี่ยนแปลงกำลังวิ่งชนทุก ๆ องค์กรที่ไม่ยอมรับไม่ปรับเปลี่ยนตนเอง ฝืนทำแต่สิ่งเดิมๆ ที่ไม่เกิดการพัฒนาดังนั้นเมื่อองค์กรจำเป็นต้องปรับวิธีคิดปรับปรุงกระบวนการทำงานเพื่อความอยู่รอด
หัวหน้างานที่ดีก็ควรน้อมรับการเปลี่ยนแปลงนั้น และสร้างความเข้าใจไปสู่คนปฏิบัติงานให้เกิดความเข้าใจในมุมมองที่กว้างกว่าเดิม และช่วยกันวางแผนการทำงานลดข้อผิดพลาดในการทำงาน หรือ ของเสียจากการทำงานให้น้อยที่สุดเพื่อผลลัพธ์ที่ดีของงาน และหากผลงานดี องค์กรมีกำไรที่มากพอ โบนัสที่เราอยากได้ ก็ไม่ไกลครับ
7. มีภาวะผู้นำใช้ใจมากกว่าอำนาจ
การจูงใจคน หรือ การครองใจคนนั้น สิ่งสำคัญที่ต้องคิดอยู่เสมอ คือ หากเราอยากได้สิ่งใด เราก็ควรทำสิ่งนั้นก่อนทว่า หากเราไม่อยากได้สิ่งใด ก็ไม่ควรทำสิ่งนั้นต่อผู้อื่น เช่น อยากให้ลูกน้องเคารพในตัวหัวหน้างาน
แต่หัวหน้างานกลับ “ด่า” เวลาที่ไม่พอใจในเรื่องการทำงานต่อลูกน้องคนนั้นตลอดเวลาแบบนี้ก็คงยากครับที่จะได้ใจคนทำงานและหากเป็นแบบนี้ต่อไป อัตราการลาออกของลูกน้องก็จะสูงขึ้นต่อไปเรื่อย ๆแบบนี้ขาดตอนการทำงานแน่นอนครับ เราลองมาทบทวนคำว่า “ภาวะผู้นำที่หัวหน้างานที่ดีควรมี” เพื่อใช้ในการจูงใจลูกน้อง นั่นคือ
7.1 เวลาเจอปัญหาหัวหน้างานควรรับฟังลูกน้องให้มากขึ้น มากกว่าคิดเองคนเดียว คำนึงเรื่องทีมเข้าไว้
7.2 ไม่โทษคนอื่น แต่พร้อมรับความผิดก่อนลูกน้อง และหาทางแก้ไขร่วมกันกับลูกน้อง
7.2 กล้าสื่อ ส า ร อย่างตรงไปตรงมา แต่อ่อนน้อม ไม่ดุด่า ให้เสียความรู้สึกต่อกัน
7.3 ตำหนิในที่ลับ ชมในที่แจ้งต่อหน้าคนอื่น
7.4 ให้เครดิตกับคนทำงานอยู่เสมอ อย่ารับความดีเข้าตัว
7.5 รู้จักสอนงาน แนะนำในสิ่งที่เป็นการพัฒนาตนเองเพื่อความก้าวหน้าในอนาคตโดยผ่านคำพูด
และการกระทำของหัวหน้างานในทุก ๆ วัน
7.6 มองการณ์ไกลมากกว่าทำงานไปวัน ๆ
7.7 ใส่ใจความรู้สึกของคนสร้างความพร้อมก่อนเริ่มต้นทำงานในทุก ๆ วัน
7.8 วางแผนให้รอบด้านเพื่อลดข้อผิดพลาดในการทำงานร่วมกัน
7.9 รู้จักสร้างบรรยากาศในการทำงาน ไม่ตึงเกินไป ไม่หย่อนเกินไป
และพร้อม แ ช ร์ ไอเดียซึ่งกันและกันโดยไม่ตัดสินการเป็นหัวหน้างานนั้น ไม่ยากเลยครับ หากเราเข้าใจในบทบาท และพร้อมปรับเปลี่ยนตนเองให้สมกับคำว่า
หัวหน้างาน ที่ผู้บริหารได้มอบความไว้เนื้อเชื่อใจในการชวยผลักดันงานที่ได้รับมอบหมายให้ไปถึงจุดมุ่งหมายดังนั้น ฝากคุณผู้ อ่ า น ทุกท่านที่เป็นหัวหน้างานแล้ว หรือยังไม่ได้เป็น แต่กำลังจะได้ขึ้นในอนาคต
ลองนำข้อคิดในบทความนี้ไปทบทวนและฝึกปฏิบัติกันดูนะครับ หวังว่าความรู้ในบทความนี้จะเป็นประโยชน์ในการสร้างหัวหน้างานที่ดีต่อไปครับ
ที่มา : d r f i s h .t r a i n i n g