
1. มีอะไรให้ทำเยอะ แต่ผลลัพธ์กลับไม่มากตาม
การที่คนเราพยายามจะทำตัวให้ยุ่งเนี่ยไม่ได้ช่วยให้ชีวิตของเรามีประสิทธิภาพมากขึ้นเลยแม้แต่น้อยครับ ไม่เชื่อคุณก็ลองไปดูเด็กสมัยนี้ เรียนตั้งเยอะ ทั้งในโรงเรียนและนอกโรงเรียน มันเก่งขึ้นกันบ้างขนาดไหน? ..ผมเห็นก็มีแต่ความ เ ค รี ย ด ที่เพิ่มขึ้น
ประสิทธิภาพกลับถดถอย คือมันขาดโฟกัสนะครับการทำแบบนี้ เรื่องมากมายที่ต้องทำเนี่ยมันไม่ได้หมายความว่าทุกเรื่องที่คุณทำมันสำคัญนะ สิ่งที่สำคัญจริงๆ
จะมีอยู่สัก 10-20% ในทั้งหมดเท่านั้นแหละ คุณต้องแยกกลุ่มสำคัญนี้ออกมาก่อน ลงมือทำให้เสร็จก่อน แล้วค่อยว่ากันกับส่วนที่เหลือ ไม่งั้นผลลัพธ์มันก็ได้เท่านั้นแหละ
2. ขี้อิจฉา เบือนหน้าหนีให้กับความสำเร็จของคนอื่น
ความอิจฉาเป็นความรู้สึกทางลบหรือทางบวกครับ? ..ถึงแม้ว่าคนมันจะฉลาดก็จริง แต่สุดท้าย ส ม อ ง เราก็จัดระเบียบสิ่งต่างๆ จากความเหมือนอยู่ดีครับ
ขี้อิจฉาก็เป็นลบ เหมือนกับขี้โกง ..คุณชอบคนขี้โกงมั้ยล่ะ? นั่นแหละครับ จะมีใครสามารถทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบจนประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่ได้บ้าง มันดูขัดแย้งกันว่ามั้ยครับ?
3. มักจะกล่าวโทษคนอื่น
คนส่วนใหญ่ที่ชอบโทษคนอื่นเป็นพวกกลัวความผิด กลัวความผิดพลาด และก็กลัวการเติบโตด้วยครับ เพราะเขาไม่ต้องการอะไรเลยนอกจากความเรียบง่าย เหมือนเดิม
ไม่ต้องการความเปลี่ยนแปลงใดๆ แม้มันจะเป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตเขาดีขึ้นก็ตาม ..ถ้าจะรักษานิสัยนี้ก็ต้องมีความอดทนนิดนึงครับ ต้องมีสติรู้ตัวทุกครั้งทีเผลอกล่าวโทษ
และต้องรายล้อมด้วยคนที่มีทัศนคติที่ดีและพร้อมที่จะช่วยเหลือคุณได้ด้วย คำพูดของคนรอบข้างจะมีผลต่อการกระทำของคุณมากเลยล่ะ ทราบแล้วเปลี่ยน!..
4. มักจะคิดว่าตัวเองทำไม่ได้
อะไรๆ ก็ดูเกินเอื้อม ..ทุกอย่างในโลกนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่ของเรา สำหรับคนที่มีทัศนคติแบบนี้ คุณจะรู้สึกตัวเล็กมาก ซึ่งนั่นไม่ใช่ผลดีเลยครับเพราะมันส่งผลต่อความสำเร็จในชีวิตของคุณ
ผมแนะนำให้คุณลงมือทำมากขึ้น โดยเลือกทำเฉพาะสิ่งเล็กสิ่งน้อยและง่ายต่อความสำเร็จ เก็บเกี่ยวความรู้สึกของชัยชนะให้มากพอแล้วค่อยๆ ผลักดันตัวเองเข้าสู้สนามที่ยากขึ้น ไม่ต้องรีบและไม่ต้องพยายามกดดันตัวเองเพื่อทำให้มันเร็วขึ้น เพราะมันไม่ได้มีผลอะไรหรอกครับ คุณต้องมีความอดทนกับเรื่องนี้ด้วย
5. มักจะพูดว่า เอาไว้ทีหลังละกัน
ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม ความหมายเดียวของการ เอาไว้ทีหลังละกัน ก็คือ คุณยังไม่รู้สึกว่ามันสำคัญหรือเร่งด่วนมากพอ ..ครั้นจะบอกให้จินตนาการว่าวันนี้คือวันสุดท้ายในชีวิต มันก็อาจดูจะเว่อร์เกินไป เอางี้ครับ
ผมแนะนำให้คุณจินตนาการใหม่ว่า ถ้าพรุ่งนี้คุณตื่นมาในฐานะที่เปลี่ยนไป อาชีพการงานและความรับผิดชอบเปลี่ยนไปเป็นไลฟ์สไตล์ที่คุณต้องการเป๊ะๆ คุณคนใหม่คนนี้จะทำสิ่งใดบ้างในหนึ่งวัน
จะทำอะไรเป็นสิ่งแรกและสิ่งสุดท้ายของวัน ของเดือนและของปี นึกภาพนี้แม้กระทั่งก่อนนอนเสมอ มันจะช่วยให้คุณฮึกเฮิม ..ผมก็ไม่ได้ยกอะไรเว่อร์วังนะ ก็คุณอยากได้อยู่แล้วหนิ คุณต้องการจะทำมันให้เป็นจริงไม่ใช่หรอ เราก็แค่ร่นระยะเวลามาเข้ามาเท่านั้นเอง!
6. ใช้ชีวิตแบบเนือยๆ เบื่อง่าย
สิ่งที่วิเศษที่สุดสำหรับคนเนือยๆ ก็คงหนีไม่พ้นการนอนกลิ้งไปมาในวันที่อากาศเย็นสบาย ส่วนใหญ่มักจะรู้สึกว่าชีวิตไม่มีอะไรที่น่าสนใจให้ทำเลย ..เหตุผลเดียวเลยครับ ก็ตัวคุณเองยังหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ
ให้ชีวิตไม่เจอ แค่นั้นเลยครับ ไม่ยุ่งยาก ไม่ซับซ้อน คุณแค่ยังไม่รู้ว่าจะผลักดันชีวิตตัวเองยังไง สาเหตุหลักของความรู้สึกประเภทนี้ คือ ชีวิตคุณสบายเกินไป ผม แนะนำให้ลองหาอะไรใหม่ๆ
ที่มันท้าทายตัวเองหน่อยทำดูครับ โดยเริ่มจากสิ่งที่คุณไม่เคยคิดจะทำมาก่อนเลยแล้วให้ฝืนทำจนสำเร็จ พอความมั่นใจเริ่มกลับมา คุณจะเริ่มมองหาความท้าทายใหม่ๆ ให้ตัวเองเอง
และเมื่อคุณลงมือทำมากพอ คุณก็จะเจอว่าชีวิตคุณถูกผลักดันด้วยอะไรกันแน่ ซึ่งบอกได้เลยครับว่า บางทีก็เป็นเรื่องใกล้ตัวมากๆ อย่างเช่น คนในครอบครัวคุณนั่นแหละ
ที่มา : w c i