
1. ไม่รู้ว่าตัวเองมีเงินสดเท่าไหร่
ได้เงินมาเท่าไหร่ ก็ใช้ไปเท่าที่มี เงินหมดก็เบิกธนาคาร ออกมาใช้อยู่เรื่อย ๆ
ไม่มีการกันเงินไว้เป็นก้อนเป็นประเภทว่าประเภทไหนใช้ได้เมื่อไร
พูดง่าย ๆคือ ไม่เคยทำบัญชีรายรับรายจ่าย ของตนเองอย่างเป็นกิจจะลักษณะ
2. รายได้ต่ำแต่มีรสนิยมสูง
คนประเภทนี้คือพวกที่ชอบใช้จ่ายเงินเกินตัว จนแต่ไม่เจียมเวลาได้เงินมา
ก็คิดถึงแต่เรื่องจะใช้เงินอย่างไรจนหมดไม่เหลือเก็บแถมยังเหนียวหนี้
โดยเฉพาะหนี้บั ต ร เ ค ร ดิ ต ที่มักประวิงเวลาตัวเองด้วยการทยอยจ่าย
แต่จ่ายหนี้ขั้นต่ำทำให้ต้องเสียค่าด อ ก เ บี้ ยและค่าธรรมเนียม
ทบต้นหลายตลบกว่าจะรู้ตัว ก็หมดทั้งบัญชี ไม่มีเหลือให้เบิก
คราวนี้ละต้องกู้หนี้ยืมสินให้เสียด อ ก เ บี้ ยหนักขึ้นไปอีก
3. บริหารเงินแบบไม่มีความรู้
เห็นใครเขาฮิตอะไร ก็แห่ไปล ง ทุ นตามเขา ซื้ อทองซื้ อหุ้นแบบไม่เคยทำการบ้ านวัน ๆ
ก็เอาแต่ตามกระแสโดยไม่สนใจศึกษาหาความรู้ด้วยตนเองรวมทั้งไม่มีการจัดสรรสินทรัพย์ที่ดีพอ
ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการเพิ่มพูนความมั่งคั่งสำหรับใครที่มีพฤติกรร มการใช้จ่ายเงินแบบข้างต้นอยู่
ควรเปลี่ยนพฤติกรร มแ ย่ ๆ ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป และหันมาใส่ใจในเรื่องของการใช้เงินอย่างมีสติ
ชาญฉลาดจะทำให้เรามีเงินเก็บไว้ใช้ใยย ามจำเป็นอย่างแน่นอน
และนี่คือวิถีแห่ง กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต
4. ไม่วางแผนการเงิน
การมีเป้าหมาย ทางการเงิน จำเป็นต้องวางไว้ทั้งเป้าหมาย
ในระยะสั้นและระยะย าวคนที่ไม่วางแผนจึงมักจะพบว่า
ตัวเองมักมีเรื่องเร่งด่วนอื่นโผล่มาก่อนถึงเป้าหมายเป็นระยะ ๆ ระหว่างการออม
เช่น อย ากซื้ อรถเพราะต้องย้าย ที่ทำงานใหม่ เดินทางไกล และเดินทางลำบากกว่าเดิม ,
อย ากได้สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ที่เห็นใน โ ฆ ษ ณ า หรือแม้แต่อย ากต่อเติมห้องนอน ฯลฯ
สิ่งเหล่านี้ที่ไม่ได้อยู่ในแผนจะทำให้เราหยุดออม
สำหรับเป้าหมายวัยเกษียณแล้วหันไปจ่ายเพื่อเรื่องอื่น ๆ
ที่คิดว่าสำคัญกว่า และไม่ได้อยู่ในแผนไว้แต่แรกจนทำให้การออม
สำหรับเป้าหมายหลักลดระดับความเข้มข้นลงไปจากความต้องการ
5. ใช้จ่ายแบบไม่รอบคอบ
บางคนประมาทเพราะคิดว่าตัวเองมีหลักประกั น ในอนาคต
เช่นคิดว่ายังมีเงินจากกองทุนประกันสังคม
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพหรือกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ฯลฯ
สำรองอยู่เสมอ โดยหลงลืมไปว่า รายได้จากกองทุนเหล่านี้ พอถึงเวลาเข้าจริง ๆ
ก็ไม่เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายหลังเกษียณหรือเหตุฉุ ก เ ฉิ น
ที่อาจจะเกิดขึ้นได้จากความเ จ็ บ ไ ข้ ได้ ป่ ว ย ที่ไม่ได้คาดคิดไว้ก่อน
6. ก่อหนี้ไว้จนเกินตัว
เพราะเป็นหนี้ จึงเป็นเหตุให้ต้องเอาเงิน ที่จะได้มาในอนาคตไปหักหนี้ที่ก่อไว้
เช่นปล่อยให้ตัวเองเป็นหนี้บั ต ร เ ค ร ดิ ตทับถม จนต้องกู้เงินจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
หรือเงินจากกองทุนบำเหน็จบำนาญ เงินจากประกั น ชีวิต
จนท้ายที่สุดไม่มีเงินเหลือไว้ใช้จ่ายเมื่อเกษียณ
ที่มา : บ ท คั ด ย่ อ จ า ก ห นั ง สื อ ยิ่ ง จ่ า ย ยิ่ ง ร ว ย