Home ข้อคิดสอนใจ 5 เหตุผล ที่คนทำงานประจำ “ไม่ควรมีรายได้ทางเดียว”

5 เหตุผล ที่คนทำงานประจำ “ไม่ควรมีรายได้ทางเดียว”

20 second read
0
0
128

1.เรามองเห็นความไม่แน่นอน

การโฟกัสที่สิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างตั้งใจ และทุ่มเทให้กับมันเป็นเรื่องที่ดีค่ะ อย่างการตั้งใจทำงานประจำอย่างเต็มที่ก็เช่นกัน ดีงามสนับสนุนค่ะ แต่คุณคะ ! เติบโตใช้ชีวิตกันมาถึงจุดนี้แล้ว

อีกไม่นานผมหงอกกำลังจะมา ตีนกาจะถามหา ยอมรับเถอะค่ะ ว่าต้องเห็นภาพ “สัจธรรม” ของชีวิตอย่าง “ความไม่แน่นอน” กันมาหลายเคส ไม่พ้นแม้เต่เรื่อง “เงินเดือน” ที่คุณๆคิดกันว่าเป็นรายได้ที่มั่นคง

คิดแบบนี้ คุณคิดผิดนะคะ ! ไม่มีอะไรแน่นอนและมั่นคงหรอก อย่าลืมนะว่าทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ทั้งปัจจัยจากตัวคุณเอง อย่างเรื่องสุ ข ภ า พ ถ้าวันหนึ่งคุณเกิดล้มป่ ว ย ขึ้นมา ไม่สามารถทำงานได้ล่ะ ? หรือปัจจัยภายนอก อย่างเรื่องเศรษฐกิจ การเมือง หรือหนักสุดก็เรื่องภัยธรรมชาติที่คาดการณ์ไม่ได้ ตัวอย่างเช่น เหตุการณ์

น้ำท่วมใหญ่ปี 2554 ทั้งรัฐและเอกชนต่างเสียหายกันถ้วนหน้า แบบย ากที่จะตั้งตัวทัน เรียกได้ว่าพังกันเป็นแถวๆ ซึ่งสำหรับเจ้าของธุรกิจแล้ว การจะทำให้กิจการคงอยู่ได้

วิธีลดค่าใช้จ่ายก็เป็นเรื่องจำเป็น แล้วรู้มั้ยคะ รายจ่ายที่ถือว่าหนักที่สุดในหลายๆธุรกิจคืออะไร ? คำตอบคือ “พนักงาน หรือ ลูกจ้าง” ดังนั้นถ้าสถานการณ์บีบบังคับ คุณคิดว่าเจ้าของธุรกิจเค้าจะทำยังไงล่ะ ? ลองทายดูนะ

2.เรามีทางเลือกได้มากกว่าหนึ่ง

จะทำอะไรก็เป็นเงินเป็นทองไปหมด ทั้งค่าเดินทาง ค่าอ า ห า ร ค่าของกินเล่นแถวออฟฟิศ ค่ากาแฟลาเต้หวานน้อย ค่าชาไข่มุก ค่าที่พัก ค่าอินเตอร์เน็ต ค่าโทรศัพท์ ค่าสังสรรค์ ค่าช้อปปิ้งออนไลน์

ค่างวดบัตรเครดิต ค่าบุฟเฟ่ต์ที่ต้องไปกินทุกอาทิตย์ กรี๊ดดดดดดด ถ้าเป็นคนที่มีรายได้ทางเดียว แล้วยิ่งไม่มีเงินเก็บด้วยอย่างมนุษย์เงินเดือนส่วนใหญ่แล้วละก็ เรียกได้ว่า “งานหมุน”

ต้องมาค่ะ หมุนกันชนิดคาดิโอทวิสต์สิบตลบ พอบ้ าง ไม่พอบ้ าง ต้องลุ้นเอาอีกที บางทีฉุ ก เ ฉิ นจำเป็นต้องใช้จริงๆ ก็อาจจะต้องหยิบยืมเพื่อนฝูงคนใกล้ตัว หรือขอผ่ อ นผันเลื่อนไปก่อนด้วยประโยคใสๆ

จะดีกว่ามั้ยถ้าคุณไม่ต้องเฝ้ารอวันที่ 30 / 31 อย่างใจจดใจจ่อ มือสั่นพร้อมพุ่งตัวไปที่ ATM ทุกสิ้นเดือน ปัญหานี้น่าจะคลี่คลายหากคุณมีรายได้จาก “หลายทาง” ซึ่งจะมาจากทางไหนก็แล้วแต่ จะเป็นงานฟรีเเลนซ์ ธุรกิจส่วนตัว

หรือการล ง ทุ น ต่างๆ จะมากหรือน้อยก็ไม่สำคัญ บางงานถึงจะให้ผลตอบแทนเป็นรายได้ต่อเดือนเพียง 500-1,000 บาท คิดเป็นติ่งอันน้อยนิดของเงินเดือน แต่มันก็ช่วยเเบ่งเบาค่าใช่จ่ายต่างๆได้ แบบไม่ต้องนั่งรอความหวังตอนสิ้นเดือนอย่างเดียว โดยเราอาจจะกำหนดไปเลยว่าเงินรายได้เสริมส่วนนี้จะเก็บไว้จ่ายค่าโทรศัพท์นะ ค่าไฟนะ

หรือ แบ่งเป็นเงินเก็บเลยทันที สรุปว่ามีรายได้หลายทาง มันดีกว่าทางเดียวแน่นอน เผลอๆ ทำไปทำมาอาชีพเสริมเหล่านี้อาจจะให้รายได้พอๆกับเงินเดือน หรือมากกว่าไปเลยก็ได้ ใครจะไปรู้

3.เราอยู่ในยุคที่ทุกอย่างเอื้ออำนวย

เหล่ามนุษย์เงินเดือนคะ สมัยนี้การจะมีรายได้หลายทางพร้อมทำงานประจำไปด้วย ไม่ใช่เรื่องในความฝันและจินตนาการอีกต่อไปค่ะ เพราะด้วยช่องทาง และเทคโนโลยีต่างๆที่พัฒนาไปมาก แม้แต่ลูกเล็กเด็กแดง น้องๆหนูๆวัยมัธยม วัยมหาลัย เค้ายังหารายได้กันตั้งแต่เรียนอยู่ได้เลยนะคะ ด้วยช่องทางออนไลน์นี่แหละ

อย่างที่เห็นกันก็มีตั้งแต่ขายของออนไลน์ เป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆ หรือสายวิชาการหน่อยเค้าก็มีการทำชีทสรุป เ นื้ อหาวิชาต่างๆออกมาขาย ได้ทั้งทบทวนความรู้ แถมยังสร้างรายได้อีก อันนี้ดีเว่อร์ ขอสนับสนุนค่ะ ดังนั้นสำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างเรา อย่ามีข้ออ้างนะคะว่าไม่มีเวลาทำ หรือทำไม่ได้ มันยุ่งย าก

มันต้องใช้เงินทุนเยอะอะไรงี้ สติค่ะ ! แค่มีมือถือเครื่องเดียว ก็เป็นเจ้าของกิจการได้แล้ว จะขายของทางออนไลน์ ขายออกงานตามแฟร์ต่างๆที่มีจัดกันอยู่แทบจะทุกเส า ร์อาทิตย์

เดี๋ยวนี้ช่องทางหารายได้ใหม่ๆที่สนับสนุนให้มนุษย์เงินเดือนมีรายได้พิเศษก็มีผุดขึ้นมามากมาย อย่างทำงานออฟฟิศตอนกลางวัน ขากลับแอบแว๊บไปขับ Uber ( ขอกระซิบเลยว่ารายได้งามนะจ๊ะ) นอกจากนี้ยังมีเว็บไซต์หรือ F a c e b o o k Group ต่างๆที่เป็นศูนย์รวมงานฟรีแลนซ์ อย่างจ๊อบสอนพิเศษ งานแปลภาษา

หรือจะไปในสายงานที่มีค่าลิขสิทธิ์ กิน Passive Income ได้ย าวๆ อย่างการแต่งเพลง การเขียนหนังสือ แต่ถ้าชอบความเ สี่ ย ง หน่อย อาจจะล ง ทุ น ในหุ้นก็เท่ไม่เบา หรือจะผันตัวเองไปเป็น Blogger / Online Influencer (ในด้านดีๆ) นำเสนอไลฟ์สไตล์ของตัวเอง หรือเรื่องที่คุณเชี่ยวชาญ ผ่านทาง Youtube หรือโซเชี่ยลมีเดียต่างๆ ก็เป็นไอเดียที่ดี สร้างรายได้ได้อย่างงาม คุณก็ทำได้ค่ะ ถ้ามุ่งมั่นตั้งใจ และมีเป้าหมายที่แน่นอน ไฟท์ติ้งค่ะ

4.เรามีตัวอย่างดีๆ

ช่วงนี้ถ้าใครได้ลองแวะไปเดินเล่นที่ร้านหนังสือ จะเห็นว่ามีหนังสือประเภทชี้แนะ ชักจูงให้คนลาออกจากงานประจำ จำพวกสนับสนุนการใช้ชีวิตแบบอิสระ สนับสนุนให้คนลาออกมาเป็นฟรีแลนซ์ เรียงรายอยู่เต็มแผง เรียกว่าเป็นเทรนด์ที่กำลังฮอตมากๆ

แต่ถ้าสังเกตดีๆ ก็จะเห็นว่าไม่ใช่ทั้งหมดที่สนับสนุนแนวคิดนี้ หนังสือที่เห็นว่าการทำงานประจำ ไปพร้อมกับหารายได้จากช่องทางอื่นไปพร้อมกันด้วย เป็นวิธีที่มั่นคงกว่า ก็มีอยู่ไม่น้อย อย่างตัวอย่างของพนักงานประจำที่ เป็นเจ้าของโรงแรมไปด้วย ครีเอทีฟโฆษณา ที่รับงานวาดภาพประกอบไปด้วยจนมีชื่อเสียง

หรือสาวออฟฟิศที่รวยพอร์ตหุ้น เป็นต้น อันนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละคน ต้องศึกษาแล้วตัดสินใจกันเองว่าอย ากไปในแนวทางไหน แต่ถ้าไม่ถนัดอ่ า น อาจจะลองเสิร์ชทาง Youtube ก็จะมีคลิปมาทั้งภาพและเสียง บอกเล่าเรื่องราวจากผู้มีประสบการณ์โดยตรง เรียกว่ามีตัวอย่างให้เห็นแล้ว ก็เลือกปรับใช้ ให้เหมาะสมกับตัวเองนะคะ

5.เราต้องไม่หยุดนิ่ง

เป็นธรรมดาถ้าคุณมีชั่ วโมงการทำงานและประสบการณ์การทำงานประจำมาไปเป็นเวลานานๆหลายปี คุณย่อมได้เงินเดือนหรือโบนัสเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ หรือได้คอมมิชชั่นอะไรก็ว่าไป ถูกต้องค่ะ ใช่ค่ะใช่

แต่อย่าลืมนะคะทุกอย่างมีวัฐจักรค่ะ เก่าไปใหม่มา หลายอย่างถูกแทนที่ได้ ธุรกิจบางอย่างในอนาคตบางทีอาจจะไม่จำเป็นต้องใช้คนในการทำงานมากมายเหมือนในตอนนี้ อาจจะเป็นการจ้างงานฟรีแลนซ์ มากกว่าจ้างพนักงานประจำ ไม่ต้องวุ่นวายเรื่องการบริหารทรัพย ากรบุคคล หรือการเข้ามาแทนที่ตำแหน่งต่างๆด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ

ที่สามารถทำงานได้แม่นยำและเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่า ช่วยลดต้นทุนของธุรกิจได้ หรือในบางครั้งองค์กรก็ต้องการคนรุ่นใหม่ ที่มีความคิดสร้างสรรค์ มีไฟ เพื่อเข้ามาพัฒนาธุรกิจ ซึ่งในบางครั้งเด็กรุ่นใหม่ก็มีความรู้ ความสามารถไม่แพ้คนที่อยู่มานาน (หรือมากกว่าเสียด้วยซ้ำ) ในมูลค่าเงินเดือนที่น้อยกว่าเกินครึ่งเมื่อเทียบกับมนุษย์เงินเดือนรุ่นเก๋าๆที่สะสมประสบการณ์มาค่อนชีวิต

ถ้าคุณไม่ตระหนักถึงจุดนี้ มัวคิดว่าทำมานาน ตัวเองเก่งที่สุด ดีที่สุด ทุกอย่างมั่นคงแล้ว จนลืมพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา ตามไม่ทันความก้าวหน้า และสิ่งรอบตัวที่เปลี่ยนไป และไม่เคยมองหาช่องทางรายได้ทางอื่นพร้อมๆกันไปด้วยกับการเป็นมนุษย์เงินเดือนก็บอกได้เลยว่า เ สี่ ย ง ค่ะ

ที่มา : b e a u t y h u n t e r

Load More Related Articles
Load More By adminjing
Load More In ข้อคิดสอนใจ

Check Also

8 วิธีทำให้คนนับถือคุณ หลักๆ อยู่ที่การวางตัว

ไม่ใช่แค่กลุ่มคนทำงาน แต่พวกเราทุกคนต่างต้องอยู่ในสังคมร่วมกับผู้อื่นไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ทุ…