
1.นิสัยรวย (เกินฐานะ)
หลายๆ คน เป็นกันมาก แต่ (แกล้ง) ไม่รู้ตัว จะอะไรซะอีก นอกซะจากการใช้เงินเกินตัว
กินอยู่เกินฐานะยังไงล่ะ ประเภท ไลฟ์สไตล์ไฮโซแต่โลว์อินคัม
รสนิยมยอดฮิตของ Gen Y ส่วนหนึ่ง
เป็นเพราะเราอยู่ในยุคที่สื่อมีอิทธิพลอย่างมาก ในโลกโซเชี่ยลจะเห็นเน็ตไอดอล
หรือผู้มีชื่อเสียงต่างๆ ใช้ชีวิตน่าอิจฉากินหรูอยู่สบาย
เกิดเป็นพฤติกรรมเลียนแบบ เช่นต้องใช้ของ แ บ ร น ด์ เนม
ซื้ อ ของเเพงๆ กินร้าน อ า ห า ร สวยๆ อัพรูปอวดเพื่อนใน I G
จนลืมประเมินเงินในบัญชีของตัวเองไปซะสนิท ไม่เอานะคะ ! ปรับความคิดใหม่
ใช้จ่ายอย่างพอเพียง อย่าหลงติดกับดัก Social เพราะจริงๆแล้ว
ภาพที่เห็นเค้าชีวิตดี๊ดีย์ บางทีก็ไม่ใช่ทั้งหมด อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของงาน
ที่ต้องอาศัยภาพลักษณ์ หรือเป็นการสร้างตัวตนในโลกโซเชี่ยล
เช่นเดียวกับที่เราพยายามทำก็ได้ จริงมั้ย ?
2.นิสัยมีเท่าไหร่ใช้หมด
ทำไมอ่ะคะ ? กลัวเงินหมดอายุเหรอ ถึงเก็บไว้กับตัวนานๆ บ้างไม่ได้เลย
ก็แหม ดูสิบางคนนะ เงินเดือนออกมาที ต้องใช้ให้หมดทันที
เช่นกัน แบบว่ายังไม่ทันจะกลางเดือนก็ต้องกิน ม า ม่ า ซะแล้ว
สุดท้ายก็เจอปัญหาเงินไม่พอใช้ เดือนชนเดือนแบบนี้อยู่เรื่อยไป จนติดเป็นนิสัย
ทำยังไงดีล่ะ ไม่ยากเลย ก็แค่ลองเก็บออมดูบ้าง จากเดิมพอเงินเดือนออกก็เอาไปใช้ให้รางวัลตัวเอง
ก็ให้ลองเปลี่ยนมาคิดว่าพอเงินเดือนออกฉันจะให้รางวัลตัวเองด้วย
“การออมเงิน” อย่างน้อย 10% ของรายได้แทน ทำไปเรื่อยๆ ค่ะ เดี๋ยวก็จะติดเป็นนิสัยเอง
เมื่อไหร่ที่คุณได้เห็นตัวเลขในบัญชีเงินเก็บ มันงอกเงยขึ้นเรื่อยๆ
มันจะทำให้เห็นคุณค่าของเงินมากขึ้น และจะทำให้รู้จักคิดให้ถี่ถ้วน
การจะใช้เงินแต่ละครั้งโดยอัตโนมัติ ถ้าไม่เชื่อ เดือนนี้ก็ลองเริ่มเลยสิ ขอท้า !
3.นิสัยขยันสร้างหนี้
นิสัยนี้เป็นบ่อเกิดของความล้มเหลว ทางการเงินที่แท้จริงค่ะ
เคยได้ยินกันมั้ยคะว่า “การไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ”
บอกเลยว่าไม่ได้เว่อร์ ความจริงล้วนๆ พอเถอะค่ะ
นิสัยที่ชอบเอาเงินในอนาคตมาใช้ อย่างการรูดปรื๊ดๆ เก็บแต้ม บั ต ร เ ค ร ดิ ต กันระรัว
สุดท้ายลมจับ ล้มตึงตอนสิ้นเดือนเมื่อเห็นใบแจ้งหนี้
ต้องลำบากไปรูดใบนู้น มาโปะใบหนี้ เป็นหนี้วนไปวนมา ไม่รู้จบ
หรือต้องไปหยิบยืม เงินจากครอบครัว หรือคนใกล้ตัวให้คนอื่นเค้าลำบากใจ
พอถึงเวลาใช้คืนไม่ได้ พาลจะเสียมิตรภาพและความรู้สึกดีๆ ที่สะสมมานาน
เป็นแบบนี้มีแต่พังกับพัง ได้ไม่คุ้มเสียหรอกค่ะ ฉะนั้นก่อนจะเป็นหนี้
คิดทบทวนให้ดีๆ ก่อน ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ก็ห้ามเป็นหนี้จะดีที่สุด ด้วยความปรารถนาดีค่ะ
4.นิสัยไร้สติ
เข้าใจค่ะ ว่าเดี๋ยวนี้เงินมันหลุดลอยออกจากกระเป๋าง่ายขนาดไหนคิดดู
ขนาดนอนเล่นมือถืออยู่ บ น เ ตี ย ง เพลินๆ ก็มี โ ฆ ษ ณ า เด้งขึ้นมา
เผลอแป๊ปเดียวก็เสียเงินให้ร้านค้าออนไลน์ไปซะอย่างงั้น
ก็ยุคนี้จะ ซื้ อ จะขายอะไรก็ง่ายไปหมด สั่งปุ๊ป โ อ น ปั๊ป พรุ่งนี้ก็รอของมาส่งหน้าประตูบ้าน
เรียกได้ว่ามีเรื่องชวนเสียเงินได้ทุกที่ ทุกเวลา ดังนั้นสิ่งที่เราทำได้ก็คือ ต้องพก “สติ”
เอาไว้ทุกที่ ทุกเวลาเช่นเดียวกันค่ะ จะเสียเงินให้กับอะไรถามตัวเองก่อนว่าสิ่งนี้แค่
“ต้องการ (Want)” หรือ “จำเป็น (Need)” ถ้ายังตัดสินใจไม่ได้อีก
ก็ให้ลองขั้นต่อไปด้วยการใช้ “กฏ 48 ชั่ ว โมง” วิธีก็คือเมื่อเราคิดจะเสียเงินกับอะไรก็ตาม
ให้ปล่อยเวลาผ่านไปอย่างน้อย 48 ชั่ ว โมงเสียก่อน หลังจากนั้นค่อยกลับมาถามตัวเอง
อีกครั้งว่าเราอยากได้มันจริงๆหรือไม่ ถ้าคำตอบคือ “ใช่” ก็ลุยได้เลยค่ะ ไม่ว่ากัน
แต่ก็จัดระดับความสำคัญด้วยว่าเงินส่วนไหน ควรใช้ก่อน ใช้หลัง
จะได้ไม่ต้องมาพังเอาตอนปลายเดือนน้อ อิอิ
5.นิสัยไม่วางแผน
ทุกๆเรื่องจะง่ายขึ้นเมื่อมีการ “วางแผน” ค่ะ ไม่เว้นแม้แต่เรื่องการใช้เงิน
หากเราวางแผนการใช้เงินที่เหมาะสม กับตัวเราไว้ก่อนแล้ว
และพยายามทำตามเเผนอย่างมีวินัย เต็มความสามารถ
เชื่อสิว่า สุ ข ภ า พ ทางการเงินของคุณต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน ลองดูนะคะ
หาเวลาสักพัก นั่งวางแผนจริงจัง ทั้งแผนการเงินระยะสั้น ระยะยาว
จะช่วยทำให้เรามองเห็นภาพการใช้ชีวิตได้ชัดขึ้น เช่น ต้องเก็บเงินเท่าไหร่
ต้อง ล ง ทุ น หรือหารายได้เพิ่มอีกมั้ย อะไรแบบนี้
ที่สำคัญขาดไม่ได้ เป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่หลายคนพร่ำสอนกันมา
ตั้งแต่เรายังเป็นเด็กน้อย ( แต่ปัจจุบันผู้ใหญ่หลายคนก็ยังไม่ทำ )
นั่นก็คือ “การทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย” เพราะมันจะทำให้เข้าใจถึงสภาพการเงิน
ของเรามากขึ้น ทำให้สามารถวางแผนการเงินได้ง่ายขึ้นด้วยนั่นเองค่ะ ขอให้โชคดีนะคะ
ที่มา : b e a u t y h u n t e r