
เชื่อไหมว่าทัศนคติของคนเราเป็นสิ่งที่มีพลังอย่างอัศจรรย์ มีผลของการคิด วิ จั ย ในศาสตร์ของวิชาจิตวิทยามากมาย ที่ให้บทสรุปซึ่งเชื่อถือได้ว่า
ทัศนคติของคนแต่ละคนเป็นเสมือนพลังขับเคลื่อนพลังชีวิตของคน ๆ นั้น และทัศนคติยังเป็นเสมือนขั้วด้านหนึ่งของแม่เหล็กที่จะดึงดูดให้เราไปกองรวมกับสิ่งที่ทัศนคติของเราเป็น อีกทั้งยังมีผลดึงดูดสิ่งที่เราคิดตามแง่มุมทัศนคติของเราเข้ามาหาตัวเราได้ด้วย
1) รักในงานที่ทำ
การรู้สึกรักในงานที่ทำ เป็นทัศนคติแง่บวกประการแรกที่สำคัญและจำเป็นต้องมีต่องานที่เราต้องทำอยู่ทุกวัน เพราะงาน เป็นส่วนสำคัญเกือบครึ่งหนึ่งของชีวิตคนเรา
เราคงไม่สามารถใช้ชีวิตเกินกว่าครึ่งชีวิตไปกับสิ่งที่เราไม่รักไม่ชอบได้ เพราะคงเป็นชีวิต ที่ไม่น่าสดใสเอาเสียเลย หากพบว่างานที่ทำอยู่ไม่ใช่สิ่งที่เรารัก และเราไม่ได้ชอบงานที่เราทำอยู่
ก็คงต้องมาพิจารณาตามคำพูดที่ว่า “หากไม่ได้ทำในสิ่งที่รัก ก็จงรักในสิ่งที่ทำ” แต่ถ้ายังไม่สามารถทำใจให้รักในสิ่งที่ทำได้ ก็คงต้องหาโอกาสขอผู้บังคับบัญชาปรับเปลี่ยนไปทำงานที่รัก ไม่ควรอดทนทำงานที่ตนไม่ชอบไปตลอดชีวิต เพราะคงไม่ส่งผลดีต่อทั้งการงานและตัวผู้ทำอย่างแน่นอน
2) ปรับทัศนคติเกี่ยวกับงานอยู่เสมอ
หากมีเหตุการณ์หรือสิ่งใดที่ทำให้รู้สึก แ ย่ กับงานที่ทำ ให้ลองมองหาแง่มุมที่ดีเพื่อที่จะกลับมารักและชอบในงานนั้นอีกครั้ง สำรวจความคิดและจิตใจตนเองเป็นครั้งคราว และปรับเปลี่ยนมุมมองการทำงานให้เป็นแง่บวกอยู่เสมอ
3) เห็นความสำคัญของสิ่งที่ทำ และตระหนักถึงความสำคัญที่เรามีต่องาน
คนเราจะทำสิ่งใดได้ดีนั้น ต้องเห็นถึงความสำคัญในสิ่งที่ทำอยู่ก่อน เมื่อเรามองเห็นความสำคัญในสิ่งที่ทำ เราจะมีความคิดสร้างสรรค์ที่จะทำงานนั้นให้ดียิ่งขึ้นและทำได้อย่างมีความสุข
อีกทั้งถ้าเราเห็นว่าเราสำคัญต่องานนั้นอย่างไร เราก็จะรักและเห็นคุณค่า ภูมิใจในตนเอง ทำให้การทำงานมีผลงานที่ดี ส่งผลให้หน้าที่การงานก้าวหน้า
4) มองแง่มุมที่ดีของเพื่อนร่วมงานและเจ้านายเสมอ
เจ้านายและเพื่อนร่วมงานคือกลุ่มคนที่เราต้องพบเจอและปฏิสัมพันธ์ด้วยอยู่ทุกวัน จะเป็นอย่างไรหากเรามีทัศนคติ และความคิดความรู้สึกในแง่ลบต่อพวกเขา
สิ่งนั้นคงจะทำให้เราไม่มีความสุขและส่งผลให้การงานไม่สามารถประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน ลองมองในมุมที่ดี ๆ ของพวกเขาเหล่านั้น เพราะในคนที่ แ ย่ ที่สุดก็ย่อมมีจุดดีที่น่ารักเล็ก ๆ ซ่อนอยู่
5) เชื่อว่าทุกสิ่งเป็นไปได้และเราทำได้
การมีทัศนคติแง่บวกว่าเราทำได้และทุกอย่างเป็นไปได้ จะเป็นกุญแจที่ไขประตูไปสู่ทางออกของทุกปัญหาเมื่อพบอุปสรรค ในการทำงาน เป็นการเรียกพลัง ความสามารถ
และความคิดสร้างสรรค์ในการแก้ปัญหาออกมาใช้ เพราะไม่มีงานใดที่ราบรื่นไปตลอด ไม่มีสังคมใดที่ดีไปทุกอย่าง แต่อยู่ที่มุมมองการมองปัญหา ถ้าเราเชื่อว่าเป็นไปได้ เราจะเห็นทางออกไปสู่คำตอบจนได้
การเปลี่ยนทัศนคติในการทำงานที่กล่าวมาบางประการเป็นเรื่องที่เราสามารถทำได้ง่ายโดยทันที แต่ก็มีบางเรื่องซึ่งเป็นเรื่องยากสำหรับเราที่จะปรับเปลี่ยนได้
ลองให้เวลาตัวเองคิดใคร่ครวญและค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนความคิดให้เป็นไปในทิศทางบวกให้มากขึ้น เชื่อว่าเราจะมีแต่ความสุข และความสำเร็จในการทำงานก็ไม่ยากเกินกว่าความสามารถของเราอย่างแน่นอน…
ที่มา : M o n e y H u b