![](https://jingjai999.com/wp-content/uploads/2022/09/3-8-850x491.jpg)
1. “เปิดใจ” ยอมรับความจริง ดูว่าหนี้สินทั้งหมดของเรามีอะไรบ้าง
เมื่อรู้ตัวว่าตัวเองมีภาระหนี้สินมากเกินไป การหนีไม่ช่วยให้หนี้สินหมดไปแน่นอน
และยิ่งเราทำเป็นไม่สนใจไปเรื่อย ๆ จำนวนหนี้ก็จะขย ายใหญ่ขึ้นจนหนทางแก้ไขในที่สุด
นาทีนี้การเปิดใจยอมรับความจริงคือสิ่งที่ควรทำที่สุด เริ่มจากการหยิบใบแจ้งหนี้
ที่คุณเคยซ่อนไว้ออกมาให้หมด เปิดดูทุกรายการอย่างละเอียด หากยอดสูงติดเพดาน
ก็อย่าเพิ่งใจเสียจนไม่กล้าดูต่อ หลังจากนั้นมาพิจารณาว่าที่ผ่านมาเราค้างค่าชำ ร ะ กี่งวด
มีจำนวนเงินต้นและ ด อ ก เ บี้ ย เท่าไร ถึงกำหนดวัน ชำ ระ เมื่อไร
เพื่อจะได้ว่ารายการไหนรอได้ หรือรายการไหนต้องรีบจัดการอย่างเร่งด่วน
2. “ปิดยอดหนี้” ที่มี ด อ ก เ บี้ ย สูงที่สุดก่อน
พอเห็นยอดหนี้ที่เรามีทั้งหมดแล้วทีนี้มาวางแผนการชำ ระ อย่างเป็นระบบกันดีกว่า
โดยแยกออกเป็นหนี้ระยะสั้นยอดหนี้รวมคงเหลือน้อย อัตรา ด อ ก เ บี้ ย ต่อปีสูง มีงวดผ่อนชำ ร ะ น้อย
เช่น หนี้ บั ต ร เ ค ร ดิ ต สิ น เ ชื่ อ ส่วนบุคคล ฯลฯ และหนี้ระยะย า ว ยอดหนี้รวมคงเหลือมาก
มีอัตรา ด อ ก เ บี้ ย ต่อปีต่ำ แต่มีงวดผ่อน ชำ ร ะ มาก เช่น สิ น เ ชื่ อ บ้าน รถยนต์ ฯลฯ
ซึ่งในที่นี้ขอ แ น ะ นำ ให้ปิดยอดหนี้ระยะสั้นที่มียอดหนี้รวมคงเหลือน้อยที่สุด
อัตรา ด อ ก เ บี้ ย ต่อปีสูงที่สุด และเหลืองวดผ่อน ชำ ร ะ น้อยที่สุดเป็นอันดับแรก
เพื่อไม่ให้ ด อ ก เ บี้ ย สูงไปมากกว่านี้ หากปิดยอดหนี้แรกสำเร็จก็จะสบายใจขึ้น
และรู้สึกมีกำลังใจในการปิดยอดหนี้อื่นต่อ ๆ ไป
3. “โ ป ะ ห นี้ ” ปรับแผนการ ชำ ร ะ หนี้อย่างมีสติ ไม่สร้างหนี้ใหม่
บางคนใจร้อนไปหน่อย อ ย า ก ปลดหนี้ให้หมดไว ๆ เลยใช้ทางลัด
ไม่ว่าจะเป็นการหยิบยืมจากคนรอบข้าง ใช้บัตรกดเงินสด เปิดสิน เ ชื่ อส่วนบุคคล
หรือเลือกกู้เงิน น อ ก ร ะ บ บ มาโปะหนี้เก่าให้หมดเร็วที่สุด
ซึ่งขอบอกว่าวิธีเหล่านี้ไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นเลย แม้หนี้ก้อนเก่าจะหมดไป
แต่หนี้ก้อนใหม่ก็จะเข้ามาแทนที่ แถม ด อ ก เ บี้ ย ยังสูงมากอีกด้วย จึง อ ย า กแนะนำให้ใจเย็นสักนิด
แล้วลองหาวิธีการ ชำ ร ะ หนี้แบบง่าย ๆ แต่ไม่สร้างหนี้เพิ่ม และเป็นภาระให้ตนเองในภายหลัง
เช่น ประหยัดค่าใช้จ่ายที่จำเป็นลง หรือเปลี่ยนสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงเป็นเงินสดเพื่อมาโปะหนี้ เป็นต้น
4. “ปรึกษาธนาคาร” หรือสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้
ถ้าทำทุกวิถีทางแล้วไม่เห็นผล การติดต่อกับธนาคารหรือสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้
ของเราคือทางออกที่ดีที่สุด บอกเขาไปตรง ๆ เลยว่าหนี้สินทั้งหมดนั้น
เราไม่สามารถจ่ายไหวในระยะเวลาที่กำหนด แต่ยืนยันว่าจะไม่เบี้ยวหนี้แน่นอน
เราในฐานะลูกหนี้ก็ไม่ อ ย า ก เสียประวัติส่วนธนาคารหรือสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ก็ต้องการให้เรา
ชำ ร ะ เงินให้ครบเช่นกันฉะนั้น ทั้งเราและเขาต้องหาจุดกึ่งกลางร่วมกัน
พูดคุยถึงสถานการณ์ของเราว่าสะดวกผ่อน ชำ ร ะ ได้เมื่อไร งวดละเท่าไร
และธนาคารเองมีนโยบายใดที่ช่วยเหลือเราได้บ้างเช่น พัก ชำ ร ะ หนี้ ชั่ ว คราว
ขอจ่ายเฉพาะเงินต้นไปก่อน ปรับลดอัตรา ด อ ก เ บี้ ย หรือรีไฟแนนซ์ เป็นต้น
เพราะหนี้สินคือสิ่งที่ไม่มี อ ย าก เจอ แต่ถ้าเจอแล้วต้องวางแผนให้รอบคอบ
พร้อมลงมือทำอย่างมีวินัยนั้น เชื่อว่าเราจะเปลี่ยนจากสถานะลูกหนี้ไปสู่คนไม่มีหนี้ได้แน่นอน
และขณะเดียวกันก็ช่วยให้เราบริหารการใช้เงินในปัจจุบันและอนาคตอย่างมีสติ
เพื่อไม่ให้ความรู้สึกกังวลจากหนี้สินวนกลับมาอีกครั้ง
ที่มา : k r u n g t h a i