Home ข้อคิดสอนใจ 12 นิสัยของคนไทย ที่มักเจอในที่ทำงาน (กรุณาอย่าทำตาม)

12 นิสัยของคนไทย ที่มักเจอในที่ทำงาน (กรุณาอย่าทำตาม)

10 second read
0
0
97

1. เป็นคนสบาย ๆ

แต่ก็ไม่ควรสบายในเรื่องการนัดหมาย ไม่ว่าจะนัดหมายให้มาถึงที่ทำงาน, นัดหมายส่งงาน หรือนัดพบตามธรรมดาก็ตาม มารย าทที่พึงมีคือ การมาก่อนเวลาหรือมาตรงเวลา แบบ “นัดสากล” อย่าเลทแล้วพย าย ามหาข้อแก้ตัว ทำตัวสบาย ๆ แบบ “นัดไทย” ถึงแม้คุณและอีกฝ่ายจะยิ้มต่อกัน ก็ไม่ช่วยให้ความรู้สึกและความน่าเชื่อถือดีขึ้นมา

2. นอบน้อม ตกปากรับคำอย่างดี

แต่ไม่ตั้งข้อสงสัยก่อนทำหรือทำไม่ได้ วัฒนธรรมการนอบน้อมต่อผู้ที่สูงกว่าด้วยวัยวุฒิหรือคุณวุฒิก็ตามเป็นสิ่งที่ดี แต่ไม่ควรลามมาถึงระบบการทำงาน

อย่าเอาหน้าไว้ก่อนแล้วต้องมาบ่นอุบทีหลัง จงซื่อสัตย์กับตัวเองและคนอื่น มีข้อสงสัยอะไร หรือขัดข้องตรงไหน ให้รีบถามโดยทันที เพราะการทำงานต้องอาศัย teamwork ทุกคนล้วนแต่มีสิทธิมีเสียงเท่ากัน

3. นินทาเพื่อนร่วมงาน

เก่งแต่วิพากษ์วิจารณ์อย่างลับ ๆ คันปากแค่ไหน อย ากเม้าท์เพียงใด ขอให้มันเป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนือสถานที่และเวลาในการทำงาน การจับกลุ่มนินทานอกจากจะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลยต่อหน้าที่การงาน

ยังเป็นการสร้างศั ต รูโดยไม่จำเป็นอีกด้วย ถึงแม้คน ๆ นั้นจะต่างภาษา ต่างวัฒนธรรม ไม่สามารถเดาได้ว่ากำลังพูดอะไรอยู่ แต่อย่าลืมว่าสีหน้าและท่าทาง เป็นภาษาสากลที่ฟ้องได้ชัดเจน ในทางกลับกัน ถ้าแน่ใจว่าไอเดียของตัวเองดีกว่าจริง ก็อย่าเจ๋งในที่ลับด้วยการแอบวิพากษ์วิจารณ์อยู่ข้างหลัง เสนอความเห็นกันตรง ๆ ซึ่งหน้าไปเลย ให้พย านคนอื่นช่วยตัดสินให้รู้ดำรู้แดงไปเลยว่าใครเจ๋งจริง ใครแค่โม้

4. ยิ้มหรือหัวเราะไปงั้น ๆ

ไม่รู้จะพูดอะไร ถึงเมืองไทยจะเป็นสย ามเมืองยิ้ม แต่ในบริบทการสนทนากันโดยเฉพาะเรื่องงานที่ต้องการแ ช ร์ไอเดีย เสนอความคิดเห็น

ถ้าถูกจี้ให้ตอบก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายที่จะตอบไปตรง ๆ เลยว่าตอนนั้นคุณคิดอะไรหรือไม่มีไอเดีย มันดีกว่ายิ้มหรือหัวเราะไปงั้น ๆ ที่เป็นท่าทีดูไม่ออกว่าคุณเห็นดีเห็นงามด้วยหรือกำลังหัวเราะเย าะกลบเกลื่อนอยู่ เลือกทำอะไรสักอย่างที่ชัดเจนจะดีกว่า

5. ขี้เกรงใจ ขี้อาย สงบเสงี่ยมเจียมตัว

พอใจในสิ่งที่มีอยู่ ถึงแม้การทำตัวเรียบร้อยจะทำให้เราดูน่ารักและความพอใจในสิ่งที่มีอยู่จะเป็นเรื่องดีต่อชีวิต

แต่อย่าลืมว่าในการทำงานที่อาศัย teamwork ก็ต้องการผู้กล้าหลายคนเพื่อผลักดันงานให้ก้าวหน้า เก็บนิสัยรัก comfort zone นี้ไว้ในเรื่องส่วนตัวเถอะ เรื่องงานยังต้องการความทะเยอะทะย าน ต้องการความสามารถมาแ ช ร์กันอีกเยอะ

6. อย ากรู้อย ากเห็นเรื่องคนอื่น สักนิดนึงก็ยังดี เวลางานก็คือเวลางาน สิ่งที่ควรโฟกัสก็คือจะทำอย่างไรให้งานเสร็จไว ตรงเป้าหมาย ได้คุณภาพ อะไรที่เป็นเรื่องส่วนตัวค่อยไว้หลังเลิกงานก็ได้ อย่าสร้างนิสัยเสียด้วยการแอบเปิดโซเชียลเช็คข่าวสักนิดนึงก็ยังดี ถึงจะอัพเดทมากขึ้นมันก็เท่านั้น ไม่ช่วยให้ชีวิตก้าวหน้าขึ้นแต่อย่างใด

7. สนใจแต่ความบันเทิง รื่นเริง ถ้าสนใจแต่เรื่องสนุก ชีวิตก็จะมีมิติอยู่แค่ความสนุกแค่นั้น แต่ถ้าเปิดตาเปิดใจรับฟังข่าวส า รบ้ านเมืองบ้ าง หาบทความดี ๆ อ่ า นบ้ าง นอกจากจะได้ไอเดียดี ๆ มาปรับใช้ในการทำงานให้พัฒนามากขึ้น ชีวิตส่วนตัวก็จะดูดีขึ้นเยอะจากการสนใจใฝ่รู้แต่เรื่องมีคุณภาพอีกด้วย

8. หวงสูตร หวงความรู้ ย้ำอีกทีว่าการทำงานต้องอาศัย teamwork นั่นก็แปลว่า แม้จะถูกมอบหมายให้เป็นหัวหน้างาน ก็ไม่ได้แปลว่าคุณจะต้องทำทุกอย่างเองด้วยตัวคุณเพียงคนเดียว ใครที่ด้อยกว่าเราก็ฉุดให้เขาไปด้วยกัน จับมือกันทำงานด้วย บางทีความคิดเราเพียงคนเดียวก็ใช่ว่าจะวิเศษที่สุดเสมอไปก็ได้

9. ก่อ ด ร า ม่ า เรียกคะแนนความเห็นใจ

ความสงส า ร เห็นใจเป็นนิสัยหนึ่งที่มนุษย์คนไหนก็มีเป็นธรรมดาเมื่อต้องเจอเรื่องที่สะเทือนใจสุด ๆ แต่ในการทำงานที่ต้องอาศัยความเด็ดขาด ตรงไปตรงมา น้ำตาไม่สามารถช่วยอะไรให้ดีขึ้นได้ ต่อให้คุณรู้สึกว่าไม่เป็นธรรมจริง ๆ ก็ต้องมีวิธีพิสูจน์ที่ชัดเจน

สอดคล้องกับกติกาของการทำงานมากที่สุด ในทางกลับกัน หากมีใครมาขอความเห็นใจในการทำงานก็อย่าเพิ่งใจอ่อนเด็ดขาด กฎต้องเป็นกฎ ถ้าไม่รั ก ษ าอย่างเคร่งครัดก็เตรียมรับผิดชอบความเสียหายที่จะตามมาในภายหลังให้ได้ละกัน

10. โ ช ค ล า ง

ความเชื่อสูงกว่าตรรกะความเป็นจริง ความเชื่อส่วนบุคคลถึงแม้จะเป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่เสียหาย ไม่ทำคนอื่นเดือดร้อน แต่การเชื่ออะไรมากไปก็ส่งผลต่อการทำงานได้

เพราะจิตเราดันไปเชื่อมั่นกับสิ่งที่มองไม่เห็น แทนที่จะโฟกัสที่สิ่งที่ทำอยู่ในปัจจุบันตามความเป็นจริง ไม่มีใครว่าคุณหรอกถ้าคุณจะนับถือองค์เทพอะไร เชื่อในดวงแค่ไหน แต่ขอให้อยู่ในกรอบของความพอดีก็แล้วกัน

11.พย าย ามหาช่องทางซิกแซก

ทางลัดเป็นสิ่งที่ใครหลายคนชอบเพราะมันไม่ต้องเหนื่อยมาก ทางลัดที่เป็นวิธีที่ไม่เอาเปรียบใคร ไม่เบียดเบียนใครยังพอจะเรียกว่าเทคนิคได้

ยกเว้นการพย าย ามหาช่องทางซิกแซ็ก เช่น การหาช่องโหว่ทางก ฎ ห ม า ย, หัวห ม อในกฎของบริษัท โดยลืมนึกถึงผลกระทบ แบบนี้เขาเรียกกว่า “เห็นแก่ตัว” เพื่อเซฟตัวเอง และเซฟคนอื่น ควรทำให้ทุกอย่างโปร่งใส ตรงไปตรงมา ตรวจสอบได้จะดีที่สุด ถึงบางอย่างจะเหนื่อยหน่อยที่หาทางลัดไม่ได้ แต่ผลลัพธ์มันก็น่าภูมิใจและใสสะอาดเสมอ

12. เต็มที่กับวันหยุดและสวัสดิการ มากกว่าวันทำงานและการทำหน้าที่

ถึงเวลาทำงานเมื่อใดก็แอบเข้าสายนิด ๆ ทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม ทำงานแบบผัดวันประกันพรุ่ง ชะล่าใจว่าเดี๋ยวเงินเดือนก็ออก เดี๋ยวก็เลิกงานแล้ว แต่วันหยุดหรือเวลาเลิกงานกลับร่าเริงเต็มที่ ดึกเท่าไหร่ไม่ว่าขอให้ได้สนุกไว้ก่อน ถ้าคุณใช้ชีวิตเต็มที่แบบ play hard, work hard ไม่มีส่วนใดมากกว่าส่วนใดเกินไป ปัญหางานค้างหรือเวลาพักผ่ อ นน้อยแทบจะไม่มีในชีวิตเลย และไม่ต้องมาหัวเสียกับการบ่นแต่เรื่องงานซ้ำ ๆ เดิม ๆ อีกด้วย

อย่าทะนงตัวว่าเราดีกว่าคนอื่นเสมอไป ตราบใดที่เรายังต้องอยู่ร่วมกับคนอื่น เราก็เป็นเพียงแค่หน่วยหนึ่งในสังคมอันกว้างใหญ่เท่านั้น โลกนี้ใครก็มีสิทธิมีเสียงเท่ากันหมด แต่ใครจะมีคุณค่าเพียงใด สำคัญที่การสร้างด้วยตัวเอง ไม่ใช่เสียงตอบรับจากคนอื่นเป็นหลัก

ขอขอบคุณ  j e e b.m e

Load More Related Articles
Load More By adminjing
Load More In ข้อคิดสอนใจ

Check Also

8 วิธีทำให้คนนับถือคุณ หลักๆ อยู่ที่การวางตัว

ไม่ใช่แค่กลุ่มคนทำงาน แต่พวกเราทุกคนต่างต้องอยู่ในสังคมร่วมกับผู้อื่นไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ทุ…