1. มีรอยยิ้มพิมพ์ใจ “จริงใจ” อยู่เสมอ
ต้องให้ความสำคัญกับรอยยิ้มที่ จริงใจ เพราะการยิ้มออกจากใจนั้น จะยิ้มทั้งดวงตาและริมฝีปาก
ไม่ใช่แค่ยกมุมปากตามมารย าท ซึ่งการยิ้มอย่ างจริงใจนี้จะทำให้อีกฝ่ายสัมผัสได้ถึงความเป็นมิตร
และรู้สึกถูกชะตากับคุณตั้งแต่แรกเห็น ที่สำคัญยังทำให้สมองหลั่งสารแห่งความสุขออกมา
ทำให้คุณมองชีวิตในแง่บวก โลกสวยและรวยสุข
2. ตั้งใจรับฟังมากกว่าพูด กับทุกๆคน
การรับฟังผู้อื่น คือวิธีแสดงออกว่าเราแคร์เขามากแค่ไหน ไม่ควรพูดขัดจังหวะขณะที่ผู้อื่นยังพูดไม่จบ
หรือแสดงความคิดเห็นทั้งๆที่เขาไม่ได้ร้องขอ เราอาจพลาดโอกาสได้รู้จักความคิด จิตใจ
นิสัยของเขา รวมถึงอาจทำให้เขาเบื่อหน่ายที่จะคุยกับเรา ในทางกลับกัน การใช้ภาษากาย เช่น การสบตา
พยักหน้ารับคำ หรือตอบรับเกี่ยวกับเรื่องที่กำลังคุยไม่ว่าอีกฝ่ายเป็นใครก็ตาม จะทำให้ใครๆ
ก็เปิดใจกับเรา และรู้สึกสบายใจที่จะคุยกับเรา
3. อย่ าคิดถึงแต่เรื่องของตัวเอง ขณะอยู่กับคนอื่น
อย่ ามัวก้มหน้าอยู่กับมือถือและแทบเลตในมือ ยิ่งเราตัดขาดจากโลกภายนอกออกไปมากเท่าไหร่
เราก็จะยิ่งโดดเดี่ยวในส่วนลึกมากเท่านั้น ลองเงยหน้าและใช้เวลาทำสิ่งที่ชอบกับคนที่เรารัก
ชีวิตจะมีความหมายขึ้นอีกเยอะ ต่อให้เราอยู่คนเดียว แล้วเราใช้เวลาลงมือทำกิจก ร ร มอะไรซักอย่ างที่เรารัก
ไม่ว่าจะเป็นการปลูกต้นไม้สักต้น เล่นกับสัตว์เลี้ยงแสนรัก ก็จะทำให้เรารู้สึกอิ่มใจมากกว่าการสไลด์หน้าจออย่ างไร้จุดหมายแน่นอน
4. แบ่งเวลาชีวิตให้ดีและเหมาะสม
หากมัวแต่ทำงานตลอดเวลา หน้านิ่วคิ้วขมวดตลอดเวลา จะไม่มีใครอย ากเข้าใกล้
ใครใครก็คงกลัวขย าดและไม่กล้าเข้าใกล้ แถมพอวันนึงที่เราทำงาน ได้ไม่ดีหรือทำงานไม่ได้
หรือเกิดความไม่มั่นคงทางการงานขึ้นมา เราจะรู้สึกไม่เหลืออะไรเลย
ดังนั้นจงให้ความสำคัญกับคนในครอบครัว เพื่อนร่วมงาน และกิจก ร ร มดีๆกับคนดีๆในวันว่างบ้าง มันจะทำให้ทุกวันมีค่าเสมอ
5.รู้จักวางเป้าหมายที่ดีอย่ างชัดเจน
การมีเป้าหมายที่ดีในชีวิต จะทำให้เรารู้ว่าจะมีชีวิตเพื่ออะไร เราอาจลองตั้งเป้าเล็กๆ ก่อน เช่น
ยิ้มพิมพ์ใจที่ออกมาจากใจให้คนอื่นก่อนไม่น้อยกว่าวันละ3 คนให้ได้ จะ ดูแลต้นไม้ให้ออกดอกออกผลสักครั้ง
หรือจะมีธุรกิจเล็กๆ อะไรซักอย่ าง หลังเลิกงานเพื่อทำสิ่งที่ชอบ นอกจากเราจะรู้สึกดีแล้ว
คนรอบข้างจะรู้สึกว่าเรามีคุณค่าและมีเสน่ห์มากขึ้น เรียกว่าเนื้อหอมเลยล่ะ
6.ดูแลตัวเองให้ดูดีอยู่เสมอ
การละเลย ไม่เอาใจใส่ดูแลตัวเอง จะบั่นทอนความมั่นใจตัวเองลงเรื่อยๆ
ทำให้เกิดการเปรียบเทียบว่าตัวเองด้อยค่าเมื่อเห็นคนอื่นดีกว่า ลองเริ่มต้นออกกำลังกายบ้าง แต่งหน้าบ้าง
ซื้อเสื้อผ้าที่เข้ากับบุคลิก หรือทดลองสีสันสไตล์ใหม่ๆ ที่ดูสดใสขึ้น เหมาะสมเข้ากับบุคลิกเราให้มากขึ้น
เอาชนิดที่ว่าใส่แล้วดูดีมีสถิติเดินไปไหนมีแต่คนชม มันจะช่วยให้เรารู้สึกสดชื่น
มั่นใจในตัวเอง และมีพลังทำอะไรดีๆ อีกมากมาย เชื่อเถอะ
7.ให้โดยไม่หวังผลตอบแทน
บางครั้งการให้เพราะคิดจะให้ ก็ทำให้เรารู้สึกดีอย่ างไม่น่าเชื่อ เพราะเราจะไม่ต้องมาเสียเวลาคิดว่าเค้าจะ
ตอบแทนอะไรเราบ้าง เค้าจะตอบแทนเราแบบไหน คุ้มไม่คุ้ม พาลจะทำให้เราคิดว่าตัวเองไม่มีค่าเค้าถึงไม่เห็นความดี
ในทางตรงกันข้าม การให้จากใจนั่นล่ะที่มีค่าที่สุด หากให้แล้วเราไม่เดือดร้อนตัวเองก็จงให้ไปเถอะ
ขอแค่สบายใจที่ได้ให้ก็พอ แล้วมันจะเป็นพลังดีๆ ที่ดึงดูดสิ่งดีๆ เข้ามาหาชีวิตเราแน่นอน
8. ชื่นชมคนอื่นและตัวเองอย่ างเสมอภาค
การได้รับการยอมรับและการชื่นชมยกย่อง ใครใครก็ชอบทั้งนั้น เวลาที่เราชื่นชมยกย่องใครก็ตาม มันทำให้
คนที่ได้รับการชื่นชมยกย่องและคนอื่นๆ มองเห็นความใจกว้างของเรารู้สึกดีกับเรา
ผลที่ตามมาคือ คำชมเหล่านั้นก็จะย้อนกลับมาหาเราด้วยเช่นกัน โดยที่เราไม่ต้องร้องขอจากใครๆ เลย
9. ยอมรับความผิดพลาด ความล้มเหลว แต่ไม่ยึดติด
การพูดถึง ความผิดพลาด ความล้มเหลวของคนอื่น หรือของตัวเราเอง บ่อยบ่อย ซ้ำไปซ้ำมา
ไม่ได้ช่วยให้เกิดประโยชน์อะไรเลย นอกจากบั่นทอนกำลังใจ ทำให้รู้สึกไร้ค่ามากขึ้น
เพราะความผิดพลาดมันเป็นเรื่องปกติธรรมดาของมนุษย์ ไม่มีใครไม่เคยผิดพลาดหรือล้มเหลว
เราควรเก็บความผิดพลาดความล้มเหลวที่ผ่านมาในชีวิตไว้เป็นบทเรียน
เป็นประสบการณ์ และก้าวผ่านมันไปอย่ างมีกำลังใจมากกว่า
10. คิดถึงเรื่องดีๆ ที่มีความสุข ทุกเช้าและก่อนนอน
การมองโลกในแง่บวก มีประสบการณ์ดีๆกับสิ่งดีๆ เช่น การมีความสุข ที่ได้กินอิ่มนอนหลับ การมีความรัก
การมีอารมณ์สนุกสนาน จะทำให้เรารู้สึกถึงคำว่า “เราทำได้” “เป็นไปได้” มากกว่าคนที่เห็นหรือมองอะไรชวนหดหู่ห่อเหี่ยวอยู่เสมอ
ดังนั้นก่อนนอนและทุกเช้า ลองจินตนาการถึงความสุขและความสำเร็จที่ผ่านมา และที่เราอย ากให้เกิด
ราวกับมันได้เกิดขึ้นแล้วจริงๆดู ผลลัพธ์จากการที่นึกถึงแต่เรื่องที่ดีมีความสุข เรื่องที่ทำให้เรายิ้มนั่นแหละ คือเรื่องที่ทำให้เรามีความ
สุข ไม่ว่าจะอมยิ้ม หรือยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ยิ้มมากยิ้มปากกว้าง ไม่ใช่แค่ดีต่อตัวเอง
แต่มันยังเป็นพลังที่คนรอบข้างสัมผัสได้ และทำให้พวกเขารู้สึกดีตามไปด้วย
ถ้าเราทำได้ตามหลัก คาถามหาเสน่ห์นี้ รับรองมีแต่คนรัก คนเมตตา
คนอย ากเข้าใกล้ อย ากให้ความช่วยเหลือ เราจะเป็นคนทรงเสน่ห์ที่มีอิทธิพลต่อผู้อื่นที่สุด
