![](https://jingjai999.com/wp-content/uploads/2022/12/1-20-850x491.jpg)
1. พวกเขากรั่นกรองความคิดอย่างรอบคอบแล้วก่อนตัดสินใจใดๆเสมอ
พวกคนเก่งและฉลาด จะเข้าใจเรื่องเหล่านี้อยู่เสมอ ว่าทุกๆการกระทำจะนำมาสู่ผลที่ตามมา ฉะนั้นพวกเขาจะสร้างกระบวนการทางความคิดอย่างรอบคอบก่อน ว่าการกระทำในสิ่งหนึ่งนั้นอย่างจะนำไปสู่ผลลัพธ์อะไร
การตัดสินใจในท้ายที่สุดจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีซึ่งเมื่อต่อยอดไปเรื่อยๆ จนได้รับผลสรุปที่ยอดเยี่ยมในที่สุด สิ่งที่เราควรเริ่มทำวันนี้คือการคิดให้ถี่ถ้วน
ทบทวนให้รอบคอบถึงสิ่งที่เราต้องตัดสินใจว่ามันถูกหรือผิด ดีที่สุดแล้วหรือไม่ ซึ่งการสร้าง”กระบวนการทางความคิด”ทั้งหมดนี้มันจะเป็นประโยชน์กับเราในอนาคตที่ดีที่สุดในตอนนั้นแล้วนั่นเอง
2. พวกเขามักกลับไปเรียนรู้จากความผิดพลาดที่ผ่านมาเสมอ
พวกคนเก่งและฉลาด จริงๆก็ผิดพลาดได้ นักธุรกิจหลายคนเคยล้มเหลว ไม่ก็อาจถึงขั้นล้มละลายมีหนี้สินท่วมตัวกันมาก่อน แต่เหตุการณ์เหล่านั้นได้ให้บทเรียนกับพวกเขา
บ้างได้กลับมานั่งตรึกตรองดูจนรู้ว่าจะต้องคิดและทำสิ่งใหม่อย่างไรในอนาคตเพื่อแก้ไขหรือมองหาโอกาสที่ดีกว่า ที่พวกเขาได้พบพานมาและเห็นแจ้งจากความผิดพลาดที่เคยเกิดขึ้น และนั่นเป็นสิ่งที่เราควรจะทำตามเช่นกัน
3. พวกเขาไม่ได้รู้คำตอบไปซะทุกอย่างหรอก
พวกคนเก่งและฉลาด ไม่ได้ปราดเปรื่องในทุกๆเรืองเสมอไป และการที่จะมีใครสักคนบอกว่าตัวเองรู้ไปทุกอย่าง สังเกตได้เลยว่าคนนั้นจะมีอีโก้และพร้อมจะโต้เถียงออกมาด้วยเหตุผลอันเป็นส่วนตัวไร้ความชัดเจนซะส่วนใหญ่ บางทีสิ่งที่สำคัญกว่าการแสดงตัวว่าคุณเป็นผู้รู้แจ้ง นั่นคือการแสดงตัวว่าเป็นผู้ที่สามารถรับรู้สิ่งใหม่ได้ไม่รู้จบซะมากกว่า
4. พวกเขามักจะชอบถูกห้อมล้อมด้วยคนเก่งๆ ด้วยกันเสมอ
พวกคนเก่งและฉลาด มักชอบถูกห้อมห้อมไปด้วยผู้คนที่เก่งๆ ซึ่งในสังคมรอบข้างจะมีส่วนสำคัญกับตัวเราไม่มากก็น้อย ฉะนั้นถ้าหากคุณได้อยู่ในท่ามกลางของคนเก่งๆแล้ว
นั่นก็จะสร้างโอกาสและแรงจูงใจให้คุณได้เรียนรู้หรือได้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดกับคนเก่งๆด้วยกัน ซึ่งการเรียนรู้ที่ดีที่สุดคือได้ทั้งแสดงออกและรับสิ่งใหม่เข้ามา พนักงานเก่งๆจึงมักจะอยากทำงานในบริษัทที่มีคนเก่งๆ เพราะนั่นจะมีผลต่อทัศนคติและความคิดของพวกเขาให้กว้างมากขึ้นตามนั่นเอง
5. พวกเขามักจะใช้สิ่งที่มีอยู่ ได้คุ้มค่ากว่าเสมอ
พวกคนเก่งและฉลาด อาจจะไม่ใช่คนที่มีของหรืออุปกรณ์เยอะแยะมากมาย แต่เขาคือคนที่รู้ว่าสิ่งของรอบตัวรวมไปถึงทรัพยากรที่มีอยู่สามารถนำมาใช้ให้คุ้มค่าที่สุดได้อย่างไร จะทำอย่างไรให้สิ่งที่มีอยู่เหล่านั้นถูกรีดเร้นประสิทธิภาพออกมาได้มากที่สุดหรือสามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆมากที่สุดได้อย่างไรด้วย
ซึ่งมันคงจะดีมากทีเดียวถ้าเราเริ่มสังเกตและมองออกว่าของที่เรามีอยู่นั้นสามารถทำอะไรได้บ้าง ที่จะเพิ่มประสิทธิภาพให้กับตัวมันเองและกับตัวเราได้มากขึ้น
6. พวกเขาสามารถให้เหตุผลต่างๆ ได้ดีเสมอ
สิ่งที่เราเรียนรู้ได้จากพวกคนเก่งๆ คือพวกเขาไม่ได้มีแค่ความสามารถส่วนตัวเพียงอย่างเดียว แต่พวกเขาสามารถจะอธิบายถึงสิ่งต่างๆอย่างเป็นเหตุเป็นผลได้
ส่วนหนึ่งเพราะการที่เขาสามารถเข้าถึงเหตุผลได้ดีกว่าด้วยกระบวนการคิดของพวกเขาที่รอบคอบเป็นระบบระเบียบ จนสามารถเข้าถึงหลักการและบรรยายมันออกมาได้อย่างสร้างสรรค์มากกว่าคนทั่วๆ ไป
7. พวกเขามักจะไม่ตามกระแสจนเกินไป
พวกคนเก่งและฉลาด อาจจะไม่ต่อต้านการเห่อตามกระแสของเทรนด์หรือกระแสสังคมที่สุดขั้ว ในหลายๆครั้งกระแสเหล่านั้นจะทำให้คนเราหลุดโฟกัสไปจากที่ควรจะมี
มันจึงจะดีกว่าถ้าเรารู้ได้ว่าอะไรบ้างที่ควรจะเป็นสิ่งที่ตัวเราควรให้ความสำคัญมากที่สุด จริงอยู่การรับรู้กระแสเป็นเรื่องที่ดี แต่ก็ไม่ได้จำเป็นที่จะต้องโยนตัวเราเองเข้าไปโดยไม่ได้รู้เท่าทันถึงที่มาที่ไป
เพราะหลายๆครั้งกระแสที่เกิดจากความคิดจากคนหมู่มากหรือการทำตามๆกันไป ก็อาจจะเป็นการเสียเวลาและเสียความเป็นตัวของตัวเอง เมื่อกระแสเหล่านั้นเปลี่ยนหรือจางหายไปจากความนิยมในสังคมนั่นเอง
8. พวกเขามักจะใช้ชีวิตแบบพอเพียงเป็นส่วนใหญ่
พวกคนเก่งและฉลาด เรียนรู้ถึงความต้องการที่จำเป็นจากตัวเขาเอง คำว่าพอเพียงตรงนี้จึงไม่ได้แปลว่าจะต้องประหยัดหรือถึงขั้นกินอยู่อย่างอัตคัด พวกเขาเหล่านี้มักมีหน้าที่การงานที่ดี มีฐานะการเงินสูงกว่าคนทั่วๆไปด้วยซ้ำ
แต่นั่นก็ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะใช้ชีวิตประเภทสุรุ่ยสุร่ายเกินตัว แต่พวกเขารู้จักใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางสิ่งของอุปโภคบริโภคที่เขาได้คัดสรรมาได้เหมาะสมกับราคาแล้วซะมากกว่า
9. พวกเขาคือมักจะมี ศั ต รู เป็นตัวของเขาเองเสมอ
พวกคนเก่งและฉลาด มักจะสร้างตัวตนทางความคิดอีกด้านหนึ่งของพวกเขาไว้ซึ่งกำหนดเอาเองว่าเป็น ศั ต รู ตัวฉกาจ บ้างก็เป็นเพราะความสุดขั้วในเรื่องบางเรื่อง หรือบ้างก็เจตนาที่จะท้าทายตัวเองให้คิดแตกต่างไปจากความคิดเดิมของตัวเขาเอง
แต่ก็นั่นแหละที่สิ่งเหล่านี้ทำให้พวกเขาเป็นคนสุดขั้ว ย้ำคิดย้ำทำจนหลุดจากความคิดเดิมๆ(ถ้าหลุดโลกมากๆบางคนอาจจะคุยถาม-ตอบกับตัวเอง)
แต่ในอีกทางหนึ่งนี่แหละที่ทำให้พวกเขาเก่งเช่นเดียวกัน อย่างในกรณีของ Steve Jobs ก็ได้ครับ หรืออย่าง John Forbes Nash, Jr. จากหนังที่สร้างจากเรื่องจริงจองเขาในเรื่อง A Beautiful Mind นั่นก็ด้วยเช่นกัน
10. พวกเขาอาจไม่ได้จำเป็นต้องดำเนินการใดๆสำเร็จเสมอไป
พวกคนเก่งและฉลาด ที่อยู่ในโลกของการทำธุรกิจ มักจะใช้เวลาดำเนินการอันยาวนานและต่อเนื่อง ซึ่งมันไม่ได้เป็นตัววัดกันแค่การตัดสินใจเพียงแค่ครั้งสองครั้งของธุรกิจที่ผ่านมาแล้ว
ซึ่งแน่นอนว่าตลอดเส้นทางก็ย่อมมีขึ้นมีลงบ้างเป็นธรรมดา ซึ่งนั่นก็จะเหมือนกับข้อข้างต้นว่าพวกเขาก็มีถูกมีผิดและต้องเป็นคนที่เหมั่นเรียนรู้และสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆให้เกิดขึ้นได้อย่างน่าติดตามอย่างต่อเนื่องนั่นเอง
ที่มา : r e u a n g d e d . b l o g s p o t