1. มีเป้าที่ชัดเจน
การที่คนคนหนึ่งจะร่ำรวยได้ไม่ใช่เพราะพวกเขาวางเป้าหมายไว้หลายสิบอย่าง แต่เป็นเพราะการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน ผ่านการคิดวิเคราะห์มาแล้วว่า ต้องเป็นเป้าหมายที่ทำได้และสำเร็จจริง
ยกตัวอย่างเช่น หากคุณกำลังเบื่อกับการเป็นมนุษย์เงินเดือน และคิดอยากจะลาออกมาเป็นเจ้านายตัวเอง คุณต้องมีแผนรองรับสำหรับสิ่งนี้ก่อน ทั้งในกรณีที่ในช่วงแรก
ธุรกิจอาจจะยังไม่ประสบผลสำเร็จ ยังไม่สามารถทำกำไรได้มาก แบบนี้แปลว่า คุณต้องมีเงินสดสำรองเผื่อไว้ใช้จ่ายให้มากๆ ก่อนที่จะตัดสินใจลาออกมาด้วยนั่นเอง
2. โอกาสจะมาเมื่อเราพร้อม
โอกาสที่ดีในที่นี้ หมายถึง คุณต้องเตรียมความพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ที่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นเสมอ ซึ่งถ้าเตรียมตัวให้พร้อมตลอด คุณก็จะสามารถสร้างโอกาสที่ดีจากตรงนั้นได้ไม่ยาก
ยกตัวอย่างเช่น คุณได้รับมอบหมายให้ดูแลโปรเจกต์ใหญ่แบบไม่ทันตั้งตัว หากคุณเป็นคนแอคทีฟและเตรียมพร้อมตลอด คุณก็จะคว้าโอกาสในการแสดงให้ความสามารถให้บริษัทเห็นได้ว่า คุณเป็นคนเก่ง และพร้อมรับมือกับทุกโอกาสที่เข้ามาได้
3. บันทึก ‘To-do list’
ก่อนนอนทุกคืนแนะนำว่า ให้จดบันทึกสิ่งที่ต้องทำในวันพรุ่งนี้ให้เป็นกิจวัตรเลย การจดบันทึก ‘To-do list’ จะช่วยให้เราตัดสิ่งไม่จำเป็นออกไปจากหัว และเลือกโฟกัสเพียงเรื่องที่เฉพาะจำเป็นในแต่ละวันเท่านั้น เคล็ดลับอีกอย่างคือ ลองเขียนสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ลงไปเพื่อเตือนสติตัวเองในวันรุ่งขึ้นด้วยก็ได้
4. การมี ‘connection’ ที่ดี จะช่วยส่งเสริมชีวิตให้ดียิ่งขึ้น
เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่า อนาคตข้างหน้าจะต้องเปลี่ยนย้ายงานไปที่ไหน หรือต้องได้พบเจอสถานการณ์อะไร ต้องพึ่งพาคนแบบไหนบ้าง ฉะนั้น การโฟกัสกับงานที่ทำอยู่เป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว
แต่ลองเจียดเวลาว่างในช่วงหลังเลิกงาน หรือวันหยุด เ ส า ร ์อาทิตย์ ออกไปพบปะผู้คนสักหน่อยก็จะช่วยให้คุณมีความสัมพันธ์ในวงโคจรอื่นๆ นอกจากกลุ่มเพื่อนสนิทได้ เผื่อว่า อนาคตข้างหน้า เราอาจจะต้องพึ่งพาหรือขอความช่วยเหลือใคร คอนเนคชั่นเป็นสิ่งที่ควรมีให้มากๆ เลยล่ะ
5. ไม่หยุดที่จะเรียนรู้
การเรียนไม่ได้จบแค่ในรั้วมหาวิทยาลัยเท่านั้น แต่คนรวยยังเชื่อว่า เราต้องไม่หยุดเรียนรู้ไปตลอดชีวิต ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานการณ์แบบไหนอย่าหยุดที่จะเรียนรู้ ยังมีศาสตร์อีกหลายแขนงให้เราได้จดได้จำไปทั้งชีวิต
บางคนอาจจะไม่ชอบการ อ่ า น คุณลองเลือกเป็นการฟังแทนก็ได้ อย่างการฟังพอดแคสต์ รวมไปถึงการฟังตามงานสัมมนาวิชาการก็เป็นอีกทางที่มีผู้เชี่ยวชาญมาย่อยข้อมูลให้เสร็จสมบูรณ์แล้วแบบครบถ้วน
6. ตื่นเช้าเพื่อเตรียมพร้อม
การตื่นเช้าก่อนเวลาทำงานเผื่อๆ ไว้หลาย ชั่ ว โมงทำให้เรามีเวลาได้เตรียมตัวค่อนข้างมาก ทั้งรับประทาน อ า ห า ร เช้า กินกาแฟ ออกกำลังกาย การเริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยความไม่เร่งรีบ เงียบสงบ มีส่วนช่วยให้การทำงานตลอดทั้งวันนั้นเต็มไปด้วยความสดชื่นมากขึ้น
7. เลือกรับประทาน อ า ห า ร ที่มีคุณค่าทางโภชนาการ
อาจจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยแต่ถ้าคุณไม่ให้ความสำคัญกับการรับประทาน อ า ห า ร และการสร้าง สุ ข ภ า พ ที่ดี ทั้งหมดนี้ ก็อาจจะทำให้ได้รับ ส า ร อ า ห า ร ที่ไม่ครบถ้วนไปด้วย
พยายามหลีกเลี่ยง อ า ห า ร ขยะ กิน อ า ห า ร จำพวกมังสวิรัติหรือวีแกนให้มากขึ้น ทานผักผลไม้และเลือกกินโปรตีนดีแทนของหวานอย่างเค้กและ อ า ห า ร ที่มีไขมัน เ ล ว ซะเยอะ
8. หาเวลาไปทำงานอาสาสมัคร
จากสถิติมีการเปิดเผยว่า ครอบครัวที่ร่ำรวยกว่า 70% จะให้ลูกทำงานอาสาสมัครมากกว่า 10 ชั่ ว โมงต่อเดือน การได้ช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทนนอกจากจะทำให้เรามีความสุขในฐานะผู้ให้แล้ว
อาสาสมัครยังเป็นวิธีที่ดีในการสร้างความสัมพันธ์ สร้างทักษะ และมองเห็นปัญหารอบๆ ตัวได้กว้างและชัดเจนขึ้น จากการลงไปเห็นและปฏิบัติจริง ทั้งงานอาสามูลนิธิ อาสาในโรงพยาบาล รวมถึงสถานสงเคราะห์ ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจโลกได้ดีมากยิ่งขึ้น
9. ออกกำลังกาย
การออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยปรับอารมณ์และพลังงานใน ร่ า ง ก า ย ให้สมดุลยิ่งขึ้น ช่วยควบคุมน้ำหนัก ระบบเผาผลาญ และทำให้สดชื่นด้วย
การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง เพราะคนทำงานต้องอยู่กับสภาพการนั่งติดเก้าอี้ทั้งวันตลอดหลาย ชั่ ว โมง สุ ข ภ า พ คุณจะยิ่ง แ ย่ ลงไปอีกหากไม่เคยออกกำลังกายเลย
10. ดูทีวีให้น้อยลง อ่ า น หนังสือให้มากขึ้น
67% ของคนรวยดูทีวีวันละ 1 ชั่ ว โมงหรือน้อยกว่านั้น เพราะการดูทีวีนับว่าเป็นกิจกรรมที่ไปลดเวลาการทำอย่างอื่นที่เป็นประโยชน์มากกว่า คุณสามารถใช้เวลาตรงนั้นไป อ่ า น หนังสือ
ออกกำลังกาย ทำความสะอาดบ้าน หรือเติม อ า ห า ร ส ม อ ง ด้วยกิจกรรมอื่นๆ ได้ มากกว่าใช้เวลากว่าครึ่งค่อนวันไปกับการดูทีวี ไม่ได้จะบอกว่า รายการนั้นไม่มีประโยชน์ แต่คุณอาจจะเริ่มต้นด้วยการใช้เวลากับหน้าจอให้น้อยลง และแบ่งเวลาไปทำอย่างอื่นให้ชัดเจนขึ้นนั่นเอง
ที่มา : k r u n g t h a i
