สิ่งที่ต้องเกิดขึ้นกับเราทุกคนเวลาหางานใหม่ก็คือ การสัมภาษณ์งาน
เพื่อที่ทางบริษัทจะได้วัดผลว่าเราเหมาะสมกับตำแหน่งหรือบริษัทของเขาหรือไม่ ซึ่งถ้าเราอยากได้งาน
นั้นๆ แน่นอนเลยว่าเราต้องมีการเตรียมตัวที่ดี เหมือนกับก่อนสอบ
เราจะต้อง อ่ า น หนังสือให้มีข้อมูลเพียงพอสำหรับสอบก่อน การสัมภาษณ์ก็เช่นกัน เราต้องมีการฝึกซ้อมและเตรียม
ตัวก่อนสัมภาษณ์จริง เพื่อที่จะได้ตอบได้ตรงใจกับที่ผู้สัมภาษณ์ต้องการ
ก่อนฝึกซ้อม เรามาดูกันดีกว่าว่ามีคำถามอะไรบ้างที่บริษัทส่วนใหญ่มักจะใช้ถาม
1. ขอให้คุณลองแนะนำตัวเองหน่อย
คำถามนี้ไม่ใช่ว่าเราอยากตอบอะไรก็ตอบ ตอบเกี่ยวกับประวัติส่วนตัวเองเรา เ
ช่นมีพ่อแม่พี่น้องกี่คน แต่ก็ไม่ถึงขนาดที่เราจะต้องอธิบายเชิงลึกเกี่ยวกับงานทุกงานของเรา
เพราะจริงๆแล้วผู้สัมภาษณ์มีข้อมูลของเราอยู่ในมือแล้วซึ่งนั่นก็คือ Resume
ที่เราส่งให้ แต่ควรเน้นตอบในสิ่งที่ผู้สัมภาษณ์อยากได้ยิน เช่น ปัจจุบันนี้เราทำงานตำแหน่งนี้
งานหลักๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานที่สมัครมีอะไรบ้าง แล้วสามารถเอามาปรับใช้ได้อย่างไรในอนาคต
2.ทำไมคุณถึงลาออกจากที่ทำงานเก่า ?
สิ่งที่ผู้สัมภาษณ์ต้องการทราบก็คือ ความสัมพันธ์ของเราเองกับเจ้านายเก่า
หรือที่ทำงานเก่า ว่าเป็นอย่างไร สิ่งที่ไม่ควรตอบคือการคร่ำครวญว่า หัวหน้าไม่ดี เพื่อน แ ย่ งานเยอะ
เพราะจะทำให้เราดูจัดการปัญหาไม่ได้ ดังนั้นสิ่งที่เราควรตอบ อาจจะเป็นแนวทางที่ว่า
บริษัทใหม่ดูน่าสนใจ ตรงกับที่มองหาและเคยทำงานมา หรือ อยากมีความก้าวหน้าทางสายงานนี้ เป็นต้น
3. ทำไมเราถึงควรรับคุณเข้าทำงาน ?
สิ่งที่ผู้สัมภาษณ์อยากได้ยินจากคำถามนี้คือ
เขาอยากให้คุณแสดงให้เห็นว่าคุณจะทำงานได้ผลลัพธ์ตามที่เขาต้องการ
การจ้างคุณจะทำให้บริษัททำงานได้สะดวกขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ดังนั้น ให้ตอบเป็นประสบการณ์หรือความรู้ที่เกี่ยวข้องที่ตรงกับงานนี้ซึ่งเราดูได้จาก Job Description
ตอนที่เราหางานในเว็บไซต์ หรือ อาจจะตอบในเชิงว่าเคยทำงานบริษัทรูปแบบนี้
แต่สิ่งหนึ่งที่ห้ามทำคือการเปรียบเทียบตัวเองกับผู้สมัครคนอื่นว่าเราดีกว่ายังไง
4.จุดแข็งในตัวคุณคืออะไร ?
พยายามตอบจุดแข็งที่เกี่ยวข้องกับงาน พร้อมยกตัวอย่างให้ชัดเจน ไม่ใช่แค่บอกว่า
คุณเป็นคนขยัน แต่ไม่มีหลักฐานมาสนับสนุนก็ทำให้ยากแก่การเชื่อได้
ต้องเล่าเหตุการณ์ด้วยเช่น คุณเป็นคนมีความรับผิดชอบสูง ทำให้หัวหน้ามักจะสั่งงานทิ้งไว้
และไม่เคยทำให้เขาต้องตามงานเพราะคุณจะเป็นคนนำเสนองานนั้นก่อนโดนทวงงานเสมอ
5.จุดด้อยในตัวคุณมีอะไรบ้าง ?
ห้ามตอบเด็ดขาดว่า ขี้เกียจ ไม่รับผิดชอบ เบื่อง่าย แนวทางในการตอบที่ดีคือ
ให้ตอบจุดด้อยที่ไม่เกี่ยวข้องกับงาน หรือให้ตอบจุดด้อยที่เรามีการปรับปรุงอยู่
หรือพัฒนาแล้วเช่น เป็นคนขี้อาย ไม่กล้าพูด ไม่ชอบคนเยอะๆ แต่ตอนนี้แก้ไขด้วยการทำกิจกรรม
พาตัวเองไปแลกเปลี่ยนความรู้ ไปเป็นอาสาสมัครบ่อยๆ ทำให้กล้าแสดงออกมากขึ้น
6. คุณรู้อะไรเกี่ยวกับบริษัทนี้บ้าง ?
แน่นอนว่าเราควรหาข้อมูลให้พร้อมก่อนว่า บริษัทที่เราสมัครทำเกี่ยวกับอะไร
ธุรกิจใหญ่หรือเล็กแค่ไหน อาจจะหาได้จากเว็บไซต์ของบริษัท
หรือโทรไปสอบถาม เพื่อแสดงให้เห็นถึงการเตรียมตัวที่ดี
7. เวลาคุณเจอปัญหาหรือเรื่องที่ท้าทาย คุณจัดการกับมันอย่างไร ?
จากคำถามนี้ ผู้สัมภาษณ์อยากเห็นวิธีการแก้ปัญหาของคุณว่าสามารถจัดการกับปัญหาได้มั้ย
ใช้อารมณ์มั้ย ซึ่งคุณต้องเตรียมเหตุการณ์ที่คุณจัดการกับปัญหานั้นได้มา พร้อม
บอกข้อคิดที่ได้ว่า คุณจะป้องกันมันอย่างไรในอนาคตไม่ให้เกิดขึ้นอีก
เช่น หัวหน้าไม่อยากให้ทำงานแบบนี้ อยากทำอีกแบบนหนึ่งซึ่งมันไม่สามารถทำได้ สิ่งที่คุณทำคือตั้งสติก่อน
แล้วเตรียมข้อมูลเป็นตัวเลขชัดเจนมาให้ ว่าไม่สามารถทำได้เพราะอะไร
จนหัวหน้าอีกฝ่ายเข้าใจ สิ่งที่ได้เรียนรู้คือ เราต้องคิดจำลองเหตุการณ์ล่วงหน้า
เตรียมข้อมูลให้พร้อมก่อนพูดคุยกับหัวหน้าทุกครั้ง เป็นต้น
8.คุณมองตัวเองยังไงในอีก 5 ปีข้างหน้า ?
ผู้สัมภาษณ์ถามคำถามนี้เพราะอยากรู้ว่า เป้าหมายในการทำงานในอนาคตของเรา
ตรงกับตำแหน่งที่มีอยู่หรือไม่ รวมถึงดูความทะเยอทะยานของเราว่าเราอยากจะพยายาม
ก้าวหน้าไปมั้ย ซึ่งบางคนอาจตั้งเป้าหมายที่ออกจะเกินความเป็นจริงไปหน่อย
เช่น บางคนตอบว่า อยากเป็น Director ในอีก 5 ปีข้างหน้า
ทั้งๆที่ตอนนี้สมัครตำแหน่งเริ่มต้นอยู่ ก็อาจจะดูเกินความจริงไป
9. คุณคิดว่าเจ้านายหรือเพื่อนร่วมงาน มองว่าคุณเป็นคนอย่างไร ?
สิ่งที่ผู้สัมภาษณ์ต้องการทราบจากข้อนี้คือ ความสัมพันธ์ของคุณกับที่ทำงานเก่าของคุณ
เพราะแน่นอนว่า เขาคงไม่อยากได้คนที่จะมาสร้างปัญหาให้กับที่ทำงานของเขา ดังนั้น
ให้ตอบกลางๆไป หรือตอบข้อดีของเราไป เช่น มักทำให้เพื่อนหาย เ ค รี ย ด
ได้ด้วยการโน้มน้าวให้เพื่อนคิดบวก หรือเป็นคนขยัน เพราะ เวลาว่างงานก็จะถามหัวหน้าตลอดว่ามีอะไรให้
ช่วยมั้ย เป็นต้น ส่วนเรื่องที่คุณเคยขัดแย้งกับเพื่อนก็อย่าไปพูดถึงเพราะจะทำให้เกิดผลเสียกับคุณมากกว่า
10. คุณมีข้อสงสัยอะไรเพิ่มเติมอีกมั้ย ?
ควรมีคำถามกลับเพื่อแสดงให้เห็นว่าเรามีความสนใจในบริษัทนี้เช่น
เป้าหมายของบริษัทคืออะไร เพื่อที่จะได้รู้ทิศทางว่าบริษัทกำลังจะพัฒนาตัวเองไปด้านไหน เราทำอะไรให้
บริษัทได้บ้าง หรืออาจจะถามข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทเพิ่มเติมเช่น ประเภทธุรกิจของบริษัทเอง
แต่ต้องไม่เน้นเรื่องตัวเงินหรือสวัสดิการมากเกินไป
ถ้าเราเตรียมพร้อมเป็นอย่างดีแล้ว ก็จะทำให้เราได้เปรียบคนอื่นเพราะดูชำนาญกว่า
และทำให้เรามีโอกาสได้งานมากกว่าคนอื่นด้วย
เพราะการสัมภาษณ์งานก็เหมือนกับการขายตัวเองให้ผู้สัมภาษณ์สนใจเราให้ได้นั่นเอง
ที่มา : s t o u
