Home ข้อคิดสอนใจ เมื่อชีวิตเริ่มเหนื่อย กำลังแย่ จะทำอย่างไรให้ดีขึ้นกว่าเดิม

เมื่อชีวิตเริ่มเหนื่อย กำลังแย่ จะทำอย่างไรให้ดีขึ้นกว่าเดิม

4 second read
0
0
106

ความทุกข์ระทมขมขื่นของชีวิตมักจะเข้ามาทักทายเราในเวลาที่คาดไม่ถึงเสมอ

บางทีก็เข้ามาในช่วงที่เรากำลังมีความสุขมากๆ เช่นกัน และปัญหามากมาย

ที่โหมกระหน่ำเข้ามานี้เองที่มักจะทำให้เกิดผลอัน เ ล ว ร้ า ย ขึ้นกับตัวเรา

เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณกำลังรู้สึกหดหู่กับชีวิต ผู้คนรอบข้างมักจะเอาแต่บอกว่า

ให้หันมามองโลกในแง่บวกบ้างล่ะ คิดถึงแต่สิ่งดีๆ บ้างล่ะ หรือไม่ก็ให้ลองเปรียบเทียบตัวเอง

กับผู้ที่ด้อยกว่าบ้างล่ะ ซึ่งในความเป็นจริง คำปลอบใจเหล่านี้นอกจากจะช่วยอะไร

ไม่ได้มากแล้ว บางครั้งก็ยิ่งทำให้รู้สึก แ ย่ ลงไปอีก

ปล่อยให้ตัวเองได้สัมผัสกับความรู้สึก แ ย่ ๆ เหล่านั้น

นานๆ ทีการปล่อยให้ตัวเองได้รู้สึก แ ย่ บ้างก็เป็นเรื่องที่ไม่ เ ล ว ให้คุณคิดว่า

อะไรก็ตามที่ทำให้ชีวิตคุณย่ำ แ ย่ นั้น มันต้องมีเหตุผลที่แท้จริงแฝงอยู่เสมอ

ไม่ว่าจะเป็นการ เ จ็ บ ป่ ว ย อย่างกะทันหัน หรือการตกงาน

ที่นำไปสู่ปัญหาทางการเงิน รวมถึงข่าว ร้ า ย อื่นๆ ที่ไม่ทันตั้งตัว

แน่นอนว่าคนเราย่อมมีสิทธิ์ที่จะบ่นหรือตัดพ้อในสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะการคิดในแง่ลบบ้าง

ย่อมไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรอยู่แล้ว ในทางตรงกันข้าม บางครั้งการคิดในแง่ลบ

ก็ช่วยทำให้เกิดผลดีได้เช่นกัน มันสามารถช่วยให้คุณข้ามพ้นปัญหา

และนำคุณไปสู่การฟื้นฟูจิตใจตนเองและกลับไปสู่วิถีชีวิตแบบปกติสุขได้

รับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วเดินหน้าต่อไป

สิ่งสำคัญที่สุดที่คุณสามารถทำได้ก็คือ การทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่าง

‘การโทษตัวเอง’ กับ ‘การรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น’ ไม่ว่าความผิดพลาดทั้งหมด

จะเกิดจากการตัดสินใจพลาด หรือจะเป็นการที่ไม่สามารถควบคุมต้นเหตุของปัญหาได้ก็ตาม

การยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นให้ได้และเรียนรู้จากมันย่อมเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุด

การโทษตัวเองไม่สามารถช่วยให้อะไรๆ ดีขึ้นได้เลย เพราะฉะนั้นเราจึงควรหัน

มาทำความเข้าใจกับการกระทำของตัวเองเสียใหม่ แล้วคิดทบทวนให้ดีว่า

ถ้าหากคุณได้รับโอกาสเดิมเป็นครั้งที่สอง คุณจะยังคงทำสิ่งต่าง ๆ แบบเดิมอยู่หรือไม่

และเมื่อได้บทเรียนจากการคิดใคร่ครวญครั้งนั้นแล้ว ก็จงลุกขึ้นแล้วก้าวเดินต่อไปข้างหน้า

ทำเพื่อตัวเอง

อีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้ความ ร้ า ย แรงของสิ่งที่เกิดขึ้นเบาบางลงได้ก็คือ

ต้องใจกว้างและใจดีกับตัวเองเป็นพิเศษ ช่วงเวลาแบบนี้แหละ

ที่คุณควรจะตามใจตัวเองให้มาก แต่ก็ต้องอยู่ภายในขอบเขตที่เหมาะสม

ลองหยุดพักและถอยห่างจาก “การจริงจังกับชีวิต” เพื่อตั้งหลักให้มั่นและรวบรวมความคิดเสียใหม่

อาจจะลองออกไปเดินเล่นข้างนอกท่ามกลางธรรมชาติ หรือที่ไหนก็ตามที่ทำให้คุณสบายใจขึ้น

ก็เป็นวิธีง่ายๆ รูปแบบหนึ่งในการปลอบประโลมตัวเองได้

สิ่งสำคัญก็คือ คุณควรเอาใจใส่กับ สุ ข ภ า พ กายและ สุ ข ภ า พ จิต ทำได้โดยการกิน อ า ห า ร ดีๆ

ดื่มน้ำเยอะๆ หรือออกกำลังกาย ก็ถือได้ว่าเป็นวิธีคลายความซึมเศร้าตามธรรมชาติ

หรืออาจจะให้เวลากับสิ่งที่ชอบมากขึ้น ไม่ก็ใช้เวลากับเพื่อนหรือคนที่คุณรัก

ต่อมาคุณต้องยอมรับความรู้สึกของตัวเองให้ได้ ยามที่เกิดอารมณ์เศร้าหรือโกรธ

ซึ่งทางที่ดีก็คือ ระบายมันออกมาด้วยการพูดหรือการเขียน พยายามปลดปล่อยสิ่ง

ที่ค้างคาอยู่ในใจออกมาให้หมด อาจจะฟังเพลง เล่นดนตรี หรืออะไรก็ได้

ทั้งหมดนี้คือวิธีที่จะช่วยให้คุณได้เรียนรู้ความรู้สึก แ ย่ ๆ

ของตัวเอง และสามารถนำความรู้สึกดีๆ เข้ามาทดแทนได้

เผชิญหน้ากับสิ่งที่เกิดขึ้น

ท้ายที่สุดแล้ว ให้ลองมองไปข้างหน้าเพื่อหาทางแก้ไข คอยปลอบใจตัวเองว่า สิ่งต่างๆ

ผ่านเข้ามาแล้วย่อมผ่านไปเสมอ แล้วความรู้สึก แ ย่ ๆ เหล่านี้ย่อมหายไปเมื่อถึงเวลาของมัน

บางครั้งสิ่งเดียวที่คุณจะทำได้ก็คือ “การรอคอย” โดยเฉพาะเมื่อกำลังรู้สึกเศร้าหรือ แ ย่ ถึงขีดสุด

ไม่ว่าจะเป็นเพราะความสัมพันธ์ที่ร้าวฉาน หรือการสูญเสียคนใกล้ชิด

การสูญเสียอะไรบางอย่างย่อมนำไปสู่ความเศร้าโศกและใจสลาย

ซึ่งการปฏิเสธความรู้สึกเหล่านี้ หรือฝังมันเอาไว้ในส่วนลึกของจิตใจ

ด้วยการทำเป็นไม่รู้สึกรู้สาอะไร ล้วนเป็นพฤติกรรมที่ไม่ดีต่อ สุ ข ภ า พ

และอาจส่งผลเสีย ร้ า ย แรงในระยะยาวได้

จำไว้ว่าปัญหาจะทำให้คุณเข้มแข็งขึ้น

ประสบการณ์จะช่วยให้คุณได้เรียนรู้และเข้มแข็งขึ้นกว่าที่เคยเป็น

เราทุกคนล้วนผ่านเหตุการณ์ที่ย่ำ แ ย่ ในชีวิตกันมาบ้าง บางคนอาจต้องเผชิญกับมันมากกว่าคนอื่นด้วยซ้ำไป

ซึ่งวิธีเดียวที่จะทำให้เราเติบโตขึ้นได้ก็คือ การเรียนรู้ที่จะเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ต่างๆ ทั้งดีและ ร้ า ย

เมื่อคุณรู้ว่ามีเรื่อง แ ย่ ๆ เกิดขึ้น คุณอาจจะมีความรู้สึกหดหู่ใจ แต่ประเด็นก็คือ

อย่างน้อยคนเราก็ควรมีวันที่เศร้าบ้าง มีอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ บ้าง หรือรู้สึกหดหู่ใจบ้าง

ขอเพียงคุณกล้าเผชิญหน้ากับความรู้สึกเหล่านั้นอย่างตรงไปตรงมา

ไม่แน่ว่ามันอาจกลายมาเป็นแรงผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในชีวิตของคุณก็ได้นะ

ที่มา : s u m r e j

Load More Related Articles
Load More By adminjing
Load More In ข้อคิดสอนใจ

Check Also

8 วิธีทำให้คนนับถือคุณ หลักๆ อยู่ที่การวางตัว

ไม่ใช่แค่กลุ่มคนทำงาน แต่พวกเราทุกคนต่างต้องอยู่ในสังคมร่วมกับผู้อื่นไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ทุ…