
เรื่องเงินทองและความสำเร็จคือเป้าหมายสูงสุดของทุกคนเป็นเรื่องธรรมดา
แต่สิ่งที่แตกต่างคือทำไมบางคนคิดแล้วทำได้ ในขณะที่บางคนคิดเหมือนกันแต่กลับทำไม่ได้
สิ่งแตกต่างไม่ใช่โชคชะตาหรือฐานะทางบ้านเป็นตัวกำหนด
คนที่เกิดมาเพียบพร้อมก็ไม่ใช่คำตอบว่าเขาจะถึงความสำเร็จในชีวิตได้
เรา มี 15 ข้อที่ขอบอกก่อนเลยว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพื้นเพฐานะทางครอบครัว
จุดเริ่มที่ไม่เท่ากันไม่ใช่ตัวกำหนดเส้นชัยของชีวิต นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จหลายคน
ก้าวมาจากครอบครัวที่ยากจน บางคนเริ่มต้นจากศูนย์แต่สิ่งที่เขาคิด
กับสิ่งที่เขาทำ คือไฮไลท์สำคัญที่ทำให้เขาเหล่านั้น “รวยได้”
1.อยากรวยต้องเชื่อมั่นว่าเราสร้างฐานะเองได้
พูดให้เข้าใจง่ายคือ คนที่จะรวยได้ต้องเริ่มคิดสร้างเนื้อสร้างตัวด้วยตัวเองไม่คิดพึ่งพิงคนอื่น
สำหรับคนที่มีเงินทองกองอยู่ตรงหน้าเกิดมาก็สุขสบายในทางพฤตินัยคือเขารวย
แต่ในความเป็นจริงแล้วเขาไม่ได้สร้างอะไรขึ้นมาเองแม้แต่น้อย
เศรษฐีเมืองไทยหลายคนไม่ว่าจะเป็นคุณเจริญ สิริวัฒนภักดี หรือ คุณ เฉลียว อยู่วิทยา
ก็ล้วนแต่สร้างและสั่งสมความร่ำรวยมาด้วยตัวเองแทบทั้งสิ้น
กว่าจะนอนเกลือกกลิ้งบนกองเงินกองทองเขาต้องเริ่มต้นจากศูนย์และสองมือเปล่า
และมาจากพื้นฐานของครอบครัวที่ไม่รวย แต่สิ่งที่พวกเขาทำคือ “งานหนัก”
และทำทุกอย่างเพื่อสร้างฐานะของตัวเองให้ดีขึ้นมาได้
2.จำเป็นต้องมีหัวการค้า
นักธุรกิจระดับโลกทุกคนล้วนมีหัวทางการค้าที่ต่างกันไป
ธุรกิจสินค้าแนวหน้าของเมืองไทยหลายอย่างเจ้าของกิจการก็เป็นผู้มีหัวการค้า
และมองการณ์ไกลมาตั้งแต่เด็ก แม้กระทั่ง บิล เกตส์ เจ้าพ่อไมโครซอฟ
เขาก็มองหาช่องทางทำกินตั้งแต่สมัยเรียนด้วยการรับเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์
และสร้างรายได้ให้ตัวเองขณะนั้นได้ไม่น้อย หรือแม้แต่เจ้าพ่อการเงินอย่างวอร์เรน บัฟเฟตต์
ก็เคยเดินขายของไปตามบ้านรวมถึงเป็นเด็กส่งหนังสือพิมพ์มาก่อน
และนั่นก็ทำให้คนเหล่านี้เริ่มมองเห็นช่องทางทำมาหากินที่เปิดกว้างมากขึ้น
3.คิด ล ง ทุ น เพื่อชนะเท่านั้น
ในขณะที่การ ล ง ทุ น ด้านการเงินอย่างพอร์ทหุ้นนั้นหลายคนคิดว่าเป็นการ ล ง ทุ น
เพื่อให้เสมอตัวหรือเพื่อไม่ให้แพ้ แต่ถ้าเราคิดจะมีฐานะการ ล ง ทุ น ด้านการเงินนี้
เราต้องมองที่ผลกำไรและชัยชนะเพียงอย่างเดียว
และนั่นจะนำมาซึ่งวิธีที่จะทำให้เราเดินถูกทางว่าต้องทำแบบไหนอย่างไร
เพื่อให้ถึงเป้าหมายที่วางไว้ คนรวยต้องยึดติดกับการแข่งขันที่สำคัญต้องชนะด้วย
4.ต้องคิดการณ์ใหญ่ไม่มองเรื่องเล็กน้อย
จงอย่าพอใจกับกิจการเล็กๆ นั้นคือวาทะที่พร้อมจะทำให้เราเติบโตได้
ไม่ว่าเราจะเริ่มต้นธุรกิจจากแฟรนไชส์แบบไหน ถ้าเป็นร้านข้างทางก็ต้องมองหาโอกาส
ที่จะสร้างร้านขนาดใหญ่ ถ้ามีสาขาเดียวก็ต้องมองโอกาสที่จะขยายสาขามากขึ้น
แม้ขณะนั้นธุรกิจของเราจะทำเงินได้แม้มีสาขาเดียวร้านเดียวก็ตามที
เช่นบิลเกตส์ที่เป็นคนทำโปรแกรมในบริษัทเอกชนมีเงินเดือนมากมาย
แต่เขามองว่าอนาคตคอมพิวเตอร์เป็นสิ่งสำคัญและเขาก็ก้าวออกจากตรงนั้นเพื่อทำในสิ่งที่ต้องการ
5.คนจะรวยมองหาแต่โอกาสไม่สนใจเรื่องอุปสรรค
ในขณะที่หลายคนมัวแต่โฟกัสเรื่องธุรกิจไปที่อุปสรรคและจมดิ่งอยู่กับปัญหา
แต่คนที่จะรวยแม้จะถูกรุมเร้าด้วยอุปสรรคและปัญหา
แต่พวกเขาจะมักจะมองหาโอกาสโดยไม่สนใจกับอุปสรรค พูดให้ชัดขึ้นคือ
คนรวยมองปัญหาเป็นเรื่องเล็ก แต่คนจนมักจะมองปัญหาเป็นเรื่องใหญ่
ยิ่งกว่านั้นคือคนรวยมักจะเป็นพวกตื่นตัวและความกลัวหยุดพวกเขาไม่ได้
6.คิดที่จะชื่นชมผู้ที่ประสบความสำเร็จ
ถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่าคนที่ร่ำรวยมักจะยินดีกับผู้ที่ประสบความสำเร็จในชีวิต
แต่ในทางกลับกันบางคนเห็นคนที่รวยกว่ากลับเกิดอาการไม่พอใจ
เนื่องด้วยการเปิดใจนับถือกันและกันก็จะทำให้มองเห็นอีกด้านที่ทำให้เขามีวันนี้ขึ้นมา
การชื่นชมไม่ใช่การทำตามแต่เป็นการเข้าถึงพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์
อย่างเปิดใจตรงไหนปรับใช้ได้ก็นำมาเส้นทางคนรวยก็จะเริ่มต้นขึ้นได้
7.การเข้าร่วมสังคมกับคนที่ประสบความสำเร็จ
คนที่ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริงต้องรู้จักการเข้าสังคมไม่ใช่คิดเพียงว่าฉันมีเงินฉันคือผู้สำเร็จ
การคิดแค่นั้นคือการปิดกั้นโอกาสของอนาคตบางครั้งสิ่งสำคัญทางธุรกิจคือพันธมิตร
ที่เราได้จากการเข้าสังคม นักธุรกิจจำนวนไม่น้อยจึงดูเหมือนว่าเขามีสังคมหลากหลายมากมาย
แต่นั่นคือโอกาสที่เขาจะเปิดการค้าได้มากขึ้นด้วยเช่นกัน
8.คนรวยเลือกทำเงินโดยไม่รอเวลา
อาจจะเป็นเพราะคนรวยมักจะคิดแล้วทำเลย ไม่ผัดวันประกันพรุ่ง ไม่รอเวลา
เมื่อจังหวะมีโอกาสมา พวกเขาก็จะลงมือทำงานทำเงินทันทีไม่ใช่ว่านี่
คือการทำอะไรแบบไม่คิดเพราะบางทีมัวแต่คิดก็ไม่เจอปัญหา
และก็ไม่สามารถก้าวผ่านขั้นแรกของการเริ่มต้นได้
9.คนรวยคิดแบบควบคู่ไม่ใช่แค่เรื่องใดเรื่องหนึ่ง
นักธุรกิจหลายคนมักจะมีระบบคิดที่ไม่ใช่คิดแค่เรื่องใดเรื่องหนึ่ง
แต่พวกเขาจะคิดควบคู่หลายเรื่องในเวลาเดียวกัน เศรษฐีหลายคน
อาจจะเริ่มต้นจากธุรกิจแขนงใดแขนงหนึ่งแต่เมื่อเริ่มตั้งตัวได้พวกเขาก็จะแตกไลน์
ทำธุรกิจหลายๆอย่างในเวลาเดียวกัน เช่นการแตกแขนงของสาขาแฟรนไชส์
ที่เมื่อมองเห็นโอกาสก็ควรลงมือทันทีอย่ากลัวกับสิ่งที่ยังไม่เกิด
เพราะนั่นคือการปิดกั้นเส้นทางของคำว่าเศรษฐีในอนาคต
10.คนรวยเน้นหาความมั่งคั่งอื่นไม่ใช่แค่รายได้ประจำ
ข้อนี้อาจจะต่อเนื่องจากข้อที่แล้ว
อย่างที่บอกว่าคนรวยไม่ได้หวังแค่รายได้จากเงินเดือนประจำ
แต่พวกเขาจะมองหาอย่างอื่นที่มาเติมความมั่งคั่งให้ตัวเองด้วย
ในขณะที่บางคนพอใจกับรายได้ที่มีอยู่ในปัจจุบันเท่านั้น
11.สร้างความคิดและความเชื่อในเชิงบวก
ถ้าเรายังไม่ใช่คนรวยความคิดในแง่ลบคือคุณไม่เชื่อว่าคุณจะรวยได้
เช่นเดียวกับการอ้างโชคชะตาว่าไม่เข้าข้างตัวเอง ความคิดดังกล่าวเราคิดได้
แต่ถามว่าได้ประโยชน์อะไรบ้างนอกจาก บั่ น ท อ น กำลังใจให้น้อยลง
คนรวยหลายคนก็เริ่มต้นจากไม่มีอะไรเหมือนกันแต่สิ่งที่ไม่เหมือนกัน
คือเขาเชื่อว่าเขาจะมั่งมีเงินทองขึ้นมาได้ พลังของความคิดเป็นรากฐาน
ของการกระทำถ้าคุณยังคิดไม่ได้คุณก็ทำไม่ได้เช่นกัน
12.คนรวยบริหารเงินได้ดี-ใช้เงินเป็น
นักธุรกิจทั้งหลายมักจะบริหารเงินได้ดี รวมถึงการรู้จักใช้เงินต่อเงินได้อย่างชาญฉลาด
เช่นการบริหารพอร์ทหุ้น แบบบัฟเฟตต์ที่เขาบริหารด้วยการกระจายไปในหุ้นหลายกลุ่ม
ที่เขามองแล้วว่าดีก็เพื่อประกันความเสี่ยงและสร้างรายได้ที่มาจากหลากหลายทางด้วย
13.คนรวยมีเงินช่วยทำงานไม่ใช่ทำงานหนักเพื่อเก็บเงิน
เราอาจถูกปลูกฝังให้คิดว่าทำงานเก็บเงินแต่นักธุรกิจจะคิดว่าจะทำอย่างไรให้เงินช่วยทำงานได้
เช่นบัฟเฟตต์ที่เริ่ม ซื้ อ หุ้นครั้งแรกเมื่ออายุ 11 ขวบ นั้นคือตัวอย่างที่ดีในการใช้เงินทำงานที่ได้ผลเป็นอย่างมาก
14. คิดจะรวยต้องเรียนรู้ตลอดเวลา
ความรู้เป็นสิ่งที่ไม่สิ้นสุด คนที่ร่ำรวยคือคนที่ขยันหาความรู้ใหม่ๆอยู่เสมอๆ
เพราะเทคโนโลยีและกระแสการเปลี่ยนแปลงที่เคลื่อนไหวแม้เพียงเล็กน้อย
แต่ถ้าเรารู้ก่อนจับทางได้ก่อนโอกาสขยับตัวก่อนรวยก่อนก็มีมากด้วยเช่นกัน
15.อยู่อย่างง่ายๆไม่ต้องหรูหรา
นี่คือปรัชญาชีวิตคนรวยอยู่อย่างคนจนก็จะยิ่งรวย แต่คำว่าสมถะในที่นี้ก็ต้องรู้จักการเข้าสังคม
การเข้าหาบุคคลที่สำคัญๆ รวมถึงต้องรู้จักการให้เพื่อให้อนาคตกลายเป็นผู้รับที่ดี
เช่นการให้ของขวัญผู้หลักผู้ใหญ่ตามเทศกาล เพื่อในสักวันเราอาจต้องพึ่งพาคนเหล่านั้นบ้างก็เป็นได้
ข้อคิดเหล่านี้แม้เป็นเพียงรูปธรรมที่การ อ่ า น เป็นเพียงโครงสร้างที่ไม่อาจทำให้ประสบความสำเร็จได้
การลงมือทำคือการเดินที่แท้จริงเพื่อไปสู่เป้าหมายนั้นและสำหรับใครที่อยากประสบความสำเร็จ
และต้องการแรงบันดาลใจดีๆ เรามีคำคมจากนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จม
าเป็นแรง ก ร ะ ตุ้ น ให้ทุกคนรู้สึกมีแรงผลักดันและเดินไปข้างหน้า
ที่มา : t h a i f r a n c h i s e c e n t e r