
อาจมีบางวันที่คุณตื่นขึ้นมาด้วยอารมณ์แจ่มใส และหมายมั่นปั้นมือว่าวันนี้จะเป็นวันดี ๆ ของคุณ แต่แล้วคุณก็ถูกดับฝัน
ด้วยคำพูดที่บั่ น ท อ น กำลังใจของใครบางคน ซึ่งหลังจากนั้น วันดี ๆ ของคุณก็กลับตาลปัตรกลายเป็นวันแ ย่ ๆ ไปทันที
สุภาษิตโบราณก็บอกอยู่แล้วว่าอาวุธที่อั น ต ร า ย ที่สุดของมนุษย์คือคำพูด
(ลิ้น) นั่นแสดงว่าคนเรามักถูกทำร้ า ย และทำร้ า ย กันและกัน
เสมอด้วยคำพูด โดยเฉพาะในวิถีชีวิตทุกวันนี้ นอกจากการพูดคุยกันต่อหน้าแล้ว
ยังมีโอกาสที่จะเจอการ B u l l y และ h a t e s p e e c h ในโลกออนไลน์ได้อีกด้วย
คนเป็นจำนวนมากกำลังเผชิญกับภาวะ (ความภูมิใจในตัวเอง การรักตัวเอง) และ
(ความมั่นใจในตัวเอง) ต่ำเกินปกติ จนมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตในสังคมได้อย่ างปกติสุข
ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการถูกกระทบกระแทกด้วยคำพูดจากคนอื่น ประกอบกับการไร้กำ
แพงปราการจะปิดกั้นหรือมีภูมิต้านทาน อิทธิพลจากคำพูดเหล่านั้นเลยเข้าไปทำร้ า ย จิตใจได้เต็ม ๆ
ข่าวร้ า ย คือคุณหลีกเลี่ยงคำพูดแ ย่ ๆ จากคนอื่นไม่ได้ และตราบใดที่คุณยังเป็นคนธรรมดาที่มีรัก โลภ โกรธ หลง
ซึ่งยังไม่บรรลุธรรมอยู่เหนืออิทธิพลคำพูดทั้งปวงแล้ว คุณก็ยังจะรู้สึกไม่มากก็น้อยจากสิ่งเหล่านั้น
อย่ างไรก็ตาม แวนมีคำแนะนำในการรับมือกับคำพูดที่ไม่ดีจากคนอื่นมาให้คุณลองนำไปใช้ดูค่ะ
1. วิเคราะห์จิตของเจ้าของคำพูดแ ย่ ๆ นั้น
คนบางคนชอบร ะ ร า น และป า ก เ สี ย กับคนอื่นเป็นนิสัยและกิจวัตรปกติอยู่แล้ว
ครั้งต่อไปหากคุณพบเจอคนที่ชอบพูดบั่ น ท อ น คุณเป็นประจำ ลองใช้เวลาวิเคราะห์ในมุมมองของบุคคลที่สามว่า
อะไรที่ทำให้คนคนนั้นมีนิสัยแบบนั้น เขาถูกเลี้ยงมาแบบไหน เติบโตท่ามกลางสภาพแวดล้อมแบบไหน ครอบครัวเป็นอย่ างไร
คนหลายคนชอบพูดจาทำร้ า ย คนอื่น อันเนื่องมาจากการพย าย ามปกป้องตัวเองไม่ให้คนอื่นเข้ามาทำร้ า ย ตนเอง ที่เรียนรู้มาจาก
ประสบการณ์วัยเด็กที่เติบโตขึ้นมาท่ามกลางการถูกรังแกหรือถูกถากถางเป็นประจำ พวกเขาจึงเรียนรู้ที่จะสร้างเกราะป้องกันตนเอง
แวนพบว่าหากเราเข้าใจอีกฝ่ายมากขึ้น จะทำให้เราสงบลงได้ หัวร้อนน้อยลง เ ค รี ย ด น้อยลง
และจะเห็นอกเห็นใจมากขึ้น รวมถึงยังปล่อยวางและอภัยได้มากขึ้นด้วย
2. มองคำพูดที่ผ่านเข้ามาเป็นเพียงขยะ
คำพูดหรือการกระทำแ ย่ ๆ จากคนอื่นก็เหมือนกับวัตถุมีพิษที่ต้องเก็บทิ้งทุกวัน แน่นอนว่าหลายครั้งคุณหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องเจอ
เรื่องราวให้ป ว ด หั ว หรือรำคาญใจ แต่มากกว่า 50% ของเรื่องราวเหล่านั้น ไม่มีประโยชน์ที่ต้องเก็บมาคิดต่อ จดจำ
หรือคิดวนเวียนให้รกส ม อ ง ถ้าคุณไม่คิดจะเก็บขยะไว้กับตัวฉันใด คุณก็ควรทิ้งขยะในใจออกไปทุกวันด้วยฉันนั้น
อย่ าเก็บส า ร พิษไว้กับตัว อย่ าเอาแต่คิดวนเวียนซ้ำ ๆ ถึงเรื่องเหล่านั้น เพียงแค่หยุด ไม่คิดต่อ ไม่ทบทวน ไม่ฉายซ้ำ หยุดคิดแล้วออก
ไปสูดอากาศบริสุทธิ์ ออกไปรับสิ่งดี ๆ เข้าร่ า ง ก า ย เพื่อบรรเทาพิษจาก
สิ่งร้ า ย เหล่านั้นบ้ า ง เท่านี้ชีวิตของคุณก็เบาขึ้นเยอะแล้ว
3. ขอบคุณในฐานะเป็นแหล่งสร้างพ ลั ง
คุณคงปฏิเสธไม่ได้ว่า บางครั้งคำพูดที่เ จ็ บ แ ส บ คำดูถูก ถากถาง กลับกลายเป็นเชื้อเพลิงชั้นดีให้คุณออกเร่งเครื่อง ฮึดลงมือทำตัว
เองให้พ้นจากข้อกล่าวหาเหล่านั้น ยิ่งคุณสามารถเปลี่ยนสิ่งเหล่านั้นให้กลับกลายมาเป็น
พ ลั ง งานขับเคลื่อนคุณได้มากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งพลิกวิ ก ฤ ต เป็นโอกาส ตักตวงประโยชน์จากสถานการณ์ได้มากเท่านั้น
การขอบคุณจะทำให้คุณมองด้านบวกมากขึ้น แต่นั่นต้องอาศัยทัศนคติและมุมมองที่สร้างสรรค์ในระดับหนึ่ง คนฉลาดจะพย าย าม
เรียนรู้ที่จะเปลี่ยนสิ่งลบ ๆ ให้กลายเป็นโอกาสในด้านบวกให้ได้ เพราะมองเห็นแล้วว่าหากปล่อยให้สิ่งลบวนเวียนอยู่ในหัวส ม อ ง นาน
ๆ จะไม่เป็นผลดีกับตัวเองแน่นอน ดังนั้นจงขอบคุณและรู้สึกตามนั้นจริง ๆ ขอบคุณที่เป็นพ ลั ง ให้ฮึดสู้
ขอบคุณที่ทำให้รู้ตัวเอง ขอบคุณที่ทำให้ได้ฝึกทักษะการมองในแง่บวก ฯลฯ แล้วคุณจะคุมเกมได้มากขึ้น
มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งของแวนมักสอนเสมอว่า ตัวปัญหานั้น ไม่ใช่ปัญหา แต่วิธีการแก้ปัญหาต่างหากคือปัญหา คำพูดแ ย่ ๆ
นั้นไม่ใช่ปัญหา แต่วิธีการตีความ ความรู้สึก วิธีการรับมือ และวิธีการตอบโต้ออกไปต่างหากที่อาจจะทำให้เกิดปัญหา
ตราบใดที่คุณฝึกที่จะรับมือกับคำพูดแ ย่ ๆ ได้ดี สิ่งเหล่านั้นก็ทำร้ า ย คุณไม่ได้อีกต่อไป
ที่มา : bypichawee