1. ไม่กู้ ! ไม่ผ่อน ! ทุกอย่างยกเว้นเรื่องบ้าน เพราะเค้าถือว่าค่อย ๆ เก็บเงินซื้อของมันไม่ ต า ย
แต่ถ้ากู้เยอะผ่อนแยะ เป็นนิสัย เราอาจจะอด ต า ย เพราะเอาเงินไปเสียค่าดอกหมด
2. เดินห้างเฉพาะเวลาที่จำเป็นต้องซื้อของ ยิ่งเดินบ่อยสายตาเราจะไปเจอของสวยงามน่าซื้อ
ล่อตาล่อใจ ยิ่งเดินบ่อยก็จะยิ่งใจอ่อนบ่อย พอเดิน ๆ ไปก็หิว ยังต้องเสียเงินกินข้าวในห้างแพงอีก
3. หัดทำกับข้าวกินเอง คิดง่าย ๆ ถ้าทำข้าวไข่เจียวกินเอง เสียเงินอย่างมากก็แค่ 10-15 บาท
แต่ถ้าไปกินข้าวไข่เจียวตามสั่งก็ต้อง 30 บาทอัพ แล้วถ้าบ้านมีหลายคนไม่ยิ่ง แ ย่ ไปเหรอ
ทำกินเองให้บ่อยแล้วนาน ๆ กินที นอกจากจะประหยัดเงินได้เยอะมาก
สุ ข ภ า พ ยังดีกว่าด้วยเพราะว่าเราเลือกของดีมาทำ อ า ห า ร ได้
4. ออมก่อน ใช้ทีหลัง ตัดใจตัดเงินอย่างน้อย 20% ไปออมก่อนเลยเพื่อไปลงทุน
แล้วค่อยใช้เงินที่เหลือ เพราะถ้าใช้เงินแล้วเหลือถึงเก็บ จะไม่เหลือให้เก็บ
แต่ถ้ายังหนุ่มสาว ไม่มีภาระควรเก็บเงินให้ได้ 30-40% ของรายได้
5. ใช้น้อย แต่ใช้ของดี คุณลุงบอกเสมอว่าแต่ก่อนชอบดูหนัง
มีเพื่อนคนหนึ่งดูหนังทุกเรื่องแต่ตีตั๋วถูก ๆ แต่คุณลุงจะนั่งที่แถวหลังจ่ายแพง
แต่ไม่ดูบ่อย มันรู้สึกดีกว่า แล้วก็ประหยัดเงินกว่าด้วย เวลาซื้อเสื้อผ้าก็ขอซื้อที่ดีหน่อยจะได้ใส่ได้นาน
6. รู้ตัวเสมอว่ามีเงินเท่าไร และต้องเก็บเงินไว้ใช้ตอนไม่มีแรงทำงานด้วย
คุณลุงบอกว่าถ้าเราไม่รู้ว่าเรามีเงินเท่าไร เราก็อาจจะเผลอใช้ไปเรื่อย
โดยเฉพาะ บั ต ร เ ค ร ดิ ต ตัวดีทำให้เราใช้เงินเกินตัว บัตรรูดปื๊ด รู้ตัวอีกทีก็เป็นลมตอนได้
จม. แจ้งค่าใช้จ่าย บั ต ร เ ค ร ดิ ต นอกจากนั้นเราต้องเก็บเงินไว้ใช้ตอนแก่ด้วยตั้งแต่เริ่มทำงาน
มาเร่งเก็บตอนสุดท้ายมันไม่ทันหรอก อย่าลืมว่าถ้าเราเริ่มทำงานตอน 25 ปี
เรามีเวลาแค่ 40 ปี ในการทำงานถึงอายุ 65 ปี แล้วถ้าเรา ต า ย ตอน 80
แปลว่าเราต้องใช้เงินเก็บไปอีก 15 ปี โดยไม่มีเงินเดือน !
7. สอนลูกหลานให้รู้จักคุณค่าของเงิน หลายบ้านพ่อแม่ใช้เงินประหยัด
รู้จักลงทุน แต่เพราะไม่ได้สอนลูกหลาน สุดท้ายก็ถูกลูกหลานผลาญหมด
ที่มา : m o n e y . k a p o o k