
“ผู้นำ” เก่งและยิ่งใหญ่ในวันนี้จำนวนไม่น้อยไต่ระดับขึ้นมาจากการเป็น
“ผู้ตาม” มาก่อน และไม่ว่าจะเล่นบทบาทไหน พวกเขาก็ทุ่มสุดตัวเพื่อสิ่งที่ดีที่สุดเสมอ
แน่นอนว่า พวกเขาคงไม่ใช่ผู้ตามชนิดที่เอาแต่รับคำสั่งไปวันๆ
เพราะถ้าเป็นแบบนั้นคงต้องเป็น “ลูกน้อง” ไปตลอดกาล
ใครอยากเป็น “ผู้ตาม” ที่จะก้าวเป็น “ผู้นำ” ในอนาคต ก็ต้องรู้จักกลยุทธ์การปฏิบัติตัวกันหน่อย
1.เข้าใจหัวหน้า
หัวหน้ามีอิทธิพลอย่างมากต่ออนาคตหน้าที่การงานของลูกน้อง
ต้องเลือกว่าจะมีปฏิสัมพันธ์กับหัวหน้าอย่างไร และต้องการให้หัวหน้ามองเราแบบไหน
บางทีอาจต้องปล่อยวางอีโก้ของตัวเอง เลือกรักษาสิ่งที่ดีไว้
และอาจปรับเปลี่ยนตัวเองบ้าง เพื่อให้เข้ากับหัวหน้าได้
เพราะหากรอให้หัวหน้าปรับตัวอาจจะใช้เวลานานมาก หรืออาจไม่เกิดขึ้นก็ได้
2.ปรับทัศนคติ
คนเรามักมองสิ่งต่างๆ จากมุมของตัวเอง แต่ถ้าอยากเป็นผู้ตามที่ดีคงต้องเปิดใจ
และเข้าใจว่าโลกคนอื่นรวมถึงหัวหน้าอาจไม่ได้มองอะไรเหมือนกันเรา อยากให้การทำงานไปได้สวย
ก็ต้องเรียนรู้ว่าหัวหน้าเป็นคนแบบไหน ชอบทำงานแบบลุยเดี่ยว หรือบุกเป็นทีม
หัวหน้าเป็นคนเก็บตัวหรือสังคมจ๋า เพื่อจะได้รู้ว่าควรรับมือกับหัวหน้าอย่างไร
เช่น ถ้าหัวหน้าเป็นคนชอบพูดคุยเข้าสังคม ลูกน้องอาจต้องช่างคุยมากขึ้น
3.ทำสิ่งที่อยากให้คนอื่นทำ
ถ้าไม่รู้ว่าควรเป็นผู้ตามแบบไหนดี ลองจินตนาการดูว่าถ้าตัวเองเป็นหัวหน้า
อยากได้ลูกน้องแบบไหน ก็ควรจะทำตัวแบบนั้น
และถ้าไม่ชอบลูกน้องแบบไหน ก็ควรเลิกประพฤติตัวแบบที่ว่าเหมือนกัน
4.ทำงานเชิงรุก
อย่างที่บอกไปตอนต้นว่า การเป็น “ผู้ตาม” หรือ “ลูกน้อง”
ไม่ได้หมายความว่าต้องนั่งรอรับคำสั่งเพียงอย่างเดียว
แต่ผู้ตามอนาคตรุ่งจะใช้เวลาเรียนรู้งานของตัวเอง และงานของคนอื่นที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้
ยังรู้หน้าที่ตัวเองว่าต้องทำอะไร โดยไม่จำเป็นต้องมีใครสั่ง
หลายครั้งก็จะเสนอไอเดีย หรือเสนอตัวทำงาน ก่อนที่หัวหน้าจะบัญชาลงมา
เพื่อแสดงให้หัวหน้ารู้ว่าเป็นคนทุ่มเทให้งานขนาดไหน และมีศักยภาพอะไรบ้าง
5.ขยันเรียนรู้
ผู้ตามที่ดียังขยันเรียนรู้ เพราะอยากพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา
คนกลุ่มนี้ไม่ได้อยากรู้แค่เรื่องพื้นฐาน แต่อยากเข้าใจสิ่งที่พวกเขาสนใจอย่างจริงจัง
คนเหล่านี้มักจะไปเรียนเพิ่มเติม เข้าฟังสัมมนา อ่ า น หนังสือ
และหาที่ปรึกษา (mentor) ที่จะมาแนะนำการทำงานให้เก่งกว่าเดิม
ที่มา : w e a l t h m e u p