
เมื่องานของคุณดูจะไปได้สวย คุณต้องเตรียมรับมือไว้ด้วยกับ “ความอิจฉา”
เป็นไปได้ที่บันไดสู่ความเจริญก้าวหน้าของคุณ อาจพาดไปโดนศีรษะผู้คนมากมาย
จนแม้เพื่อนร่วมงานที่เคยรักใคร่ ยังอดแอบ ห มั่ น ไ ส้ คุณไม่ได้ถ้าคุณมีแววจะไปไกลกว่า
หากความอิจฉาวัดได้แบบ PM 2.5 ก็คงดี แต่สิ่งนี้ยากจะเห็นกันด้วยสายตาได้
ท่ามกลางรอยยิ้มและการแสดงความดีใจ คุณไม่มีวันรู้เลยว่ามีใครแอบอยากวางยาคุณ
งานนี้คุณต้องสวมบทนางเอกผู้ชาญฉลาด อย่าปล่อยให้เพลิงริษยาลุกลาม
แนะนำให้รีบตัดไฟเสียตั้งแต่ต้นลม มาดูหลากวิธีเอาตัวรอดในออฟฟิศ เอาชีวิตให้รอดจากความอิจฉา
ทำตัวให้น่า ห มั่ น ไ ส้ น้อยลง
ลองมองกลับมาที่ตัวเอง ว่าคุณเองหรือเปล่าที่เผลอไปจุดชนวนแห่งความ ห มั่ น ไ ส้
คุณ เ ม า ท์โม้เรื่องตัวเองมากเกินไป หรือแสดงอาการข่มใครเข้าหรือเปล่า
มันยากที่จะทำให้คนอื่นเลิกอิจฉา แต่ง่ายกว่าถ้าจะทำตัวเองให้น่า ห มั่ น ไ ส้ น้อยลง
ลองสำรวจดูว่าที่ผ่านมาเคยไหม พอพูดอะไรแล้วคนฟังแอบเบะปาก
ตรวจตราไว้ก่อนว่ากำลังถูกใครแอบ ห มั่ น ไ ส้ โดยไม่ต้องรอให้ใครมาคอนเฟิร์ม
วิธีที่ง่ายที่สุดในโลกคือพูดถึงตัวเองแต่น้อย ฝึกมองหาข้อดีของเพื่อนร่วมงานแล้วชื่นชมเขาบ้าง
ทุกคนต้องการการยอมรับนับถือ คุณเองยังต้องการจากคนอื่น คนอื่นก็ต้องการจากคุณ
สำคัญที่สุดคือความจริงใจ ถ้าคุณเคยเชิดใส่ไม่เคยชมใครมาก่อนในชีวิต
อย่าตรงเข้าไปป้อนลูกยอเพื่อนร่วมงานจนโอเว่อร์ พยายามพูดในสิ่งที่มาจากหัวใจ
ความจริงใจเป็น อ า วุ ธ สำคัญในการแก้ปัญหาทุกเรื่อง
เลิกเก่งอยู่คนเดียว
คุณเป็นคนประเภท “ข้ามาคนเดียว” หรือเปล่า คุณอาจชอบทำงานคนเดียว
เพราะชอบควบคุมทกอย่างคนเดียว และดันทำงานคนเดียวได้ดีเสียด้วย
แต่คนอื่นอาจกำลังรู้สึกน้อยใจ เหมือนคุณกำลังบอกเป็นนัย ๆ ว่าเขาไม่เก่งพอที่จะทำงานกับคุณ
ลองเปิดใจทำงานเป็นทีมดูบ้าง ฝึกขอคำแนะนำจากคนอื่นบ้าง ต่อให้คุณรู้รอบด้าน
แต่ต้องมีเรื่องบางอย่างในโลกนี้ที่คุณไม่รู้สิน่า เมื่อคนอื่นแนะนำอะไรก็จงลองปฏิบัติตาม
และถ้าได้ผลดีก็หัดแสดงความขอบคุณ
เมื่อเรายอมรับความเก่งของคนอื่นได้ คนอื่นก็จะยอมรับความเก่งของเราได้เช่นกัน
หามิตรเพิ่มไว้บ้าง
อย่าทำตัวเป็นเป้านิ่งให้เขาเล็งยิงได้ง่าย สอดส่ายสายตาหามิตรไว้บ้าง
หาพวกพ้องที่มีตำแหน่งสูงกว่า ศั ต รู ยิ่งดี เพราะถ้าคุณมีแบ็คอัพที่มีพาวเวอร์
ต่อให้คนขี้อิจฉาอยากหาเรื่องคุณเพียงใด ก็คงหนักใจว่าจะงานเข้าภายหลังหรือเปล่า
ต่อให้คนนั้นไม่ได้มีตำแหน่งสูงกว่า ก็ไม่มีใครอยากมีเรื่องกับคนที่เพื่อนรายล้อมอยู่ดี
ตั้งสติอย่าตอบโต้
หากปรับปรุงตัวเองทุกวิถีทางแล้วแต่ก็ยังไม่วายถูก ห มั่ น ไ ส้ ถึงเวลาต้องรับมือด้วยสติมั่น
รับมือการถูก เ ก ลี ย ด อย่างมืออาชีพ
ถ้าคนๆ นั้นทำสิ่งไม่ดีใส่ อย่าโต้ตอบด้วยการทำแบบเดียวกันเป็นอันขาด คงความเป็น
“ผู้ถูกกระทำ” ฝ่ายเดียวเอาไว้ อย่าเผลอทำให้เหตุการณ์
“ฉันถูกใส่ ร้ า ย ” กลายเป็นเหตุการณ์ “สองคนนี้มีเรื่องกัน”
ถ้าคุณได้รับอีเมล์โจมตี ปล่อยข่าวลวง ปั้นเรื่องนินทาว่า ร้ า ย อย่าตรงเข้าไปด่า
อย่าอีเมล์กลับ อย่าโวยวาย นิ่งเงียบและเก็บหลักฐานการโจมตีนั้นไว้ก็พอ
นิ่งสงบสยบข่าวลวง
การโวยวายแบบสติแตกของคุณคือสิ่งที่เขาต้องการมากที่สุด ดังนั้นจงนิ่งไว้
ส่งสัญญาณเป็นนัยว่าคุณให้อภัย และอยากให้เขาหยุด
ความนิ่งสงบจะช่วยสยบทุกความเคลื่อนไหว ท่าทีแบบผู้ใหญ่ของคุณจะทำให้คนขี้อิจฉาเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
เพื่อนร่วมงานอื่นที่ฟังข่าวทางลบของคุณจะเริ่มไม่แน่ใจ พวกเขาจะไตร่ตรองใหม่ว่าอะไรเป็นอะไรกันแน่
ทำตัวให้เขาอาย
ยิ่งเขา ร้ า ย กับคุณ ให้คุณยิ่งดีตอบ พยายามมีความสุขจนเขาเห็นความทุกข์ของตัวเอง
หาทางส่ง ส า ร ว่าคุณไม่ถือสา หยิบยื่นความเมตตาทุกสิ่งที่ทำได้ เพื่อสลายความรู้สึก
“โลกนี้ไม่ยุติธรรม” ให้จางลงจากความคิดของเขาเรื่อย ๆ
เอาจริง ๆ คงไม่มีใครอยากอิจฉาใคร เพราะความอิจฉาเป็นอารมณ์ที่ทำให้หม่น ห ม อ ง ใจที่สุด
ดังนั้น เมื่อคุณต้องพบพานกับความอิจฉาของใคร จงใช้ความเมตตาของคุณเป็นแสงนำทาง
พยายามหาทางเป็นมิตรกับ ศั ต รู ให้ได้ ต่อให้เขา ห มั่ น ไ ส้ คุณยังไง
ก็คงไม่มีใครทนอิจฉาคนที่ใจกว้างได้นาน ๆ แน่นอน
ที่มา : i n t r e n d . t r u e i d