
1. ดื้อ ลูกน้องดื้อ เจ้านายก็ปกครองลำบาก เพราะพูดอะไรก็ไม่ฟัง หรือต่อให้ฟังก็ไม่ตั้งใจ
คิดว่าตัวเองถูกอยู่เสมอ เจ้านายที่ดีควรรับฟังความคิดเห็น ใจเย็น และค่อยๆ ปรับพฤติกรรมไป
2. แก่กว่า หากเจอลูกน้องที่อายุมากกว่า คนเหล่านี้มักจะมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง
คิดว่าตัวเองมีประสบการณ์มากกว่า ทำให้ปกครองลำบาก ดังนั้น การอ่อนน้อมถ่อมตนของเจ้านาย ฟัง
และเปิดใจกับประสบการณ์ของลูกน้องที่แก่กว่าจะช่วยแก้ไขสถานการณ์ได้ดีขึ้น
3. ขี้เกียจ ลูกน้องประเภทนี้ไม่ช่วยให้องค์กรพัฒนาหรือเจริญก้าวหน้าขึ้นได้
หากมีลูกน้องประเภทนี้ต้องพยายามให้งานทำและกำหนดเวลาส่งงานให้แน่ชัด
หากยังขี้เกียจอยู่ต้องมีบทลงโทษอย่าง รุ น แ ร ง
4. ขาดความมั่นใจ ไม่กล้าตัดสินใจ ขี้กลัว วิตกกังวล
ลูกน้องประเภทนี้เสี่ยงในการทำธุรกิจเจ๊งได้ เพราะเขาจะไม่มั่นใจในสิ่งที่เขาทำแม้แต่อย่างเดียว เ
จ้านายต้องคอยพูดชมหรือให้กำลังใจบ้าง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กลับมา
5. ดีแต่พูด No Action Talk Only เก่งพูดแต่ไม่ค่อยอยากทำ
ลูกน้องประเภทที่รู้ทุกเรื่องยกเว้นเรื่องงานของตัวเอง เจ้านายอาจต้องส่งเสริม
ให้ใช้ความถนัดในการพูดให้เป็นประโยชน์ต่อการทำงานให้มากที่สุด
6. อวดดี คิดว่าตัวเองเก่ง ดี ไปทุกเรื่อง ทำผิดไม่ค่อยยอมรับผิด มีอีโก้สูง
เจ้านายควรให้งานยากๆ ไป 2-3 งาน เพื่อเป็นการพิสูจน์ความสามารถที่แท้จริง
7. ช่างประจบ ลูกน้องบางคนทำดีเกินหน้าเกินตากับเจ้านาย
หรือเข้ามาทำดีเพื่อหวังผลอะไรบางอย่าง โดยเฉพาะอยากทำให้เจ้านาย
มองเห็นความสำคัญของตนเองให้ได้ ดังนั้นเจ้านายต้องทำให้ลูกน้องคนอื่นเห็นว่า
การประจบประแจงไม่ได้มีผลต่อการทำงาน สิ่งสำคัญเจ้านายไม่ควรวางเฉย
เพราะคนอื่นอาจจะคิดว่าชอบลูกน้องประเภทนี้จนเกิดปัญหา
ในแต่ละองค์กรย่อมประกอบด้วยคนที่มีความแตกต่างหลากหลาย
การเลือกใช้คนให้เหมาะกับงานย่อมเป็นเรื่องที่ดี
แต่จะยิ่งดีถ้ารู้ว่าแต่ละคนมีลักษณะนิสัยอย่างไร และมีวิธีรับมืออย่างถูกต้อง
ย่อมช่วยให้เจ้าของธุรกิจหรือคนที่เป็นเจ้านายทำงานได้ง่ายและช่วยสร้างสภาพแวดล้อม
ในการทำงานร่วมกันให้มีความสุขมากยิ่งขึ้น
ที่มา : k a s i k o r n b a n k