![](https://jingjai999.com/wp-content/uploads/2022/10/3-21-850x491.jpg)
1. เคลียร์หนี้ ให้มากที่สุด
ก่อนจะออกไปสู่โลกของการว่างงาน การเคลียร์หนี้ให้มากที่สุด
เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำเป็นอย่างแรก เพราะสำหรับบางคนหนี้ถือว่าเป็นรายจ่ายประจำ
บางคนอาจเป็นหนี้ระยะยาว เช่น หนี้บ้าน หนี้รถ
หรือบางคนอาจเป็นหนี้ระยะสั้น เช่น บั ต ร เ ค ร ดิ ต หรือสินเชื่อส่วนบุคคล
แนะนำว่าให้รีบปิดหนี้ระยะสั้นก่อนที่จะลาออก เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับคุณ
โดยควรเคลียร์หนี้ให้เหลือไม่เกินทรัพย์สินที่คุณมี หรือถ้าจ่ายไม่หมดจริงๆ
ก็ควรมีเงินเก็บไว้สำหรับจ่ายหนี้ในช่วงหางานใหม่ด้วยครับ
2. เตรียมเงินสำรอง
ความเสี่ยงเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจครับ ปกติถ้ามีงานอยู่แล้ว
ควรต้องมีเงินสำรองประมาณ 3-6 เดือน เผื่อไว้สำหรับค่าใช้จ่าย ฉุ ก เ ฉิ น
เช่น ค่ารักษาพยาบาล, โอกาสลงทุนสำคัญๆ จ่ายหนี้ หรือค่าใช้จ่ายในระยะสั้น
แต่ถ้าลาออกความเสี่ยงก็จะยิ่งเพิ่ม เนื่องจากการขาดรายได้
ในช่วงระหว่างการหางานใหม่ ดังนั้นแนะนำว่าถ้าคิดจะลาออก
ควรมีเงินเก็บประมาณ 6-12 เดือนดีกว่าครับ
3. มีรายได้เสริม
ระหว่างช่วงก่อนลาออก และระหว่างที่ว่างงาน ควรมีช่องทางรายได้เสริมด้วยนะครับ
อาจเป็นสิ่งที่คุณถนัด หรืองานที่ทำได้จากที่บ้านก็ได้ครับ
บางทีงานเสริมของคุณอาจสร้างรายได้ให้คุณมากกว่างานประจำที่ทำก็ได้ !
สำหรับใครที่ไม่รู้ว่าจะหารายได้เสริมยังไง ลองดูจาก แผนผังสร้างอาชีพ
ตามรูปนี้เลยก็ได้ครับ ลองเริ่มต้นจากเขียนสิ่งที่เรามีลงไป
เช่น มีความรู้ด้านไหน มีประสบการณ์เชี่ยวชาญ ตอนว่างๆชอบทำอะไร
ช่วยใครได้บ้าง และทำผ่านช่องทางไหน แล้วเอามันมาต่อยอดสร้างรายได้ให้ตัวเอง
4. สมัคร บั ต ร เ ค ร ดิ ต
สาเหตุที่ต้องเตรียมตัวเรื่องนี้ก็เพราะว่า ถ้าไม่ได้ทำงานประจำแล้ว
การสมัคร บั ต ร เ ค ร ดิ ต อาจจะทำได้ยากขึ้น เนื่องจากไม่มีสลิปรับรองเงินเดือน
และ statement ย้อนหลัง รวมถึงสถาบันการเงินอาจมองว่าคุณขาดความสามารถในการชำระหนี้
ดังนั้นสำหรับใครที่ลาออกมาแล้ว และไม่คิดที่จะทำงานประจำต่อ
อยากเป็นฟรีแลนซ์ไปยาวๆ การสมัคร บั ต ร เ ค ร ดิ ต เผื่อเอาไว้สักใบก็ไม่ได้ แ ย่ ครับ
เพราะอาจจะช่วยเพิ่มสภาพคล่อง และให้สิทธิประโยชน์บางอย่างได้ แต่ก็อย่ารูดเพลินจนเป็นหนี้นะครับ !
5. ขึ้นทะเบียนคนว่างงาน
สำหรับพนักงานบริษัท ใครที่จ่ายประกันสังคมมาไม่น้อยกว่า 6 เดือน
ภายใน 15 เดือนก่อนว่างงาน อย่าลืมไปลงทะเบียนคนว่างงานภายใน 30 วันด้วยนะครับ
เพราะกรณี “ลาออก” สามารถของเงินชดเชยจากประกันสังคมได้ 30%
ของค่าจ้างเฉลี่ย ปีละไม่เกิน90 วัน และคิดจากฐานสมทบสูงสุด 15,000 บาทต่อเดือน
คิดเป็นเงินชดเชยสูงสุดเดือนละ 4,500 บาท
สำหรับใครที่ต้องการสภาพคล่องในช่วงระหว่างที่ว่างงานอยู่
เงินก้อนนี้ถือว่าช่วยได้มากเลยครับ หากต้องการขึ้นทะเบียนคนว่างงาน
ผู้ประกันตนสามารถเข้าไปลงทะเบียนได้ที่เว็บไซต์ของกรมจัดหางานตามลิงก์นี้เลย : กรมจัดหางาน
สรุป
สุดท้ายนี้อยากฝากไว้ว่า การลาออก คือ “ความเสี่ยง” ครับ
แต่การทำงานที่ไม่ได้มีการพัฒนาและไม่ตอบโจทย์ชีวิต มันก็เป็นความเสี่ยงเช่นกัน
เพราะฉะนั้นลองทบทวนเปรียบเทียบกันให้ดีนะครับ และอย่ารีบตัดสินใจโดยไม่วางแผนการเงิน !
ที่มา : f i n s t r e e t