1. ผู้ชายที่ออกตัวตั้งแต่แรกว่าคบกันเบาๆ “เคยไหมที่เคยคุยๆอยู่กับใครสักคนอยู่ตั้งนาน
แต่ไม่ได้เป็นแฟนกัน” เลิกซะเถอะ รับรองว่ามีคนที่อย ากคุยกับคุณ พร้อมคิดถึงเรื่องอนาคตร่วมกันอีกเยอะ
2. ผู้ชายที่แคร์เพื่อนมากกว่าแคร์คุณไม่ว่าผู้ชายชาติไหน ก็ต้องมีคติ“เพื่อนมาก่อนสาว” กันหมดแน่นอน
ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร ถ้าเขาเป็นคนรู้จักแบ่งเวลาให้พอดี แต่ถ้าเขาเอาเวลาที่ควรจะให้คุณบ้าง
ไปอยู่กับเพื่อนซะหมด ก็โบกมือลากันดีกว่า เพราะเขาไม่มีทางเลือกคุณก่อนเพื่อนแน่ๆ
3. ผู้ชายที่มีดีแค่เรื่องบ น เ ตี ย งเพียงอย่ างเดียวถึงเขาจะแซ่บ เด็ด เผ็ดร้อน หล่อล่ำละลายใจ
ควงไปไหนมีแต่คนกรี๊ดอิจฉาเเค่ไหน ถ้าเขายังไม่มีวี่แวว ว่าจะมีข้อดีเรื่องอื่นๆ
ที่เป็นแต้มบวกนอกจากเรื่องเ ซ็ ก ซ์ แล้วละก็ เซย์กู๊ดบายเถอะค่ะ เพราะคุณกำลังมองหาสามี ไม่ได้หาพ่อพันธุ์ม้าแข่ง
4. ผู้ชายที่คบกันมานานเป็นปี แล้วยังไม่มีวี่แววจะพูดเรื่องแต่งงานแม้ว่าตัวคุณเองก็ไม่ได้ซีเรียสกับเรื่องการแต่งงานมากนัก
หรือพอใจกับความสัมพันธ์แบบคบกันไปเรื่อยๆ แต่ว่าเมื่อมาถึงจุดหนึ่งคู่รักแทบทุกคู่จะต้องมาอยู่ในจุดที่กลับตัวก็ไม่ได้
จะไปต่อไปก็ไปไม่ถึง มาถึงจุดนี้คุณทั้งคู่คงจะต้องเปิดอกคุยกันว่า แต่ละฝ่ายต้องการอะไร
หากต้องการจะสร้างครอบครัว แต่คิดไม่ตรงกัน ถึงจะรักแต่ก็อาจจะต้องเอยคำลา
5. ผู้ชายที่ยังทำตัวเป็นเด็กๆ ไม่คิดถึงเรื่องอนาคตแน่ล่ะมันสนุกดีที่จะได้อยู่กับผู้ชายที่ไม่คิดมาก
เป็นคนง่ายๆ สบายๆ มีเรื่องตลกๆมาเล่าให้ฟัง หรือหากิจก ร ร มเอ็กซ์ตรีมให้คุณเปิดโลกใหม่ๆได้ตลอดเวลา
แต่อย่ าลืมว่าช่วงเวลาหนุ่มสาวนี้มันแสนสั้น ถ้าเขาบอกปัดเวลาพูดถึงเรื่องจะเปิดบัญชีร่วมกัน หรือแผนการลงทุนระยะย าว
แล้วบอกกับคุณว่า “เราอยู่กับปัจจุบันดีกว่า” คุณต้องมองเขาใหม่ดีๆแล้วล่ะ เผลอๆ
อยู่ๆกันไปคุณจะได้ลูกชายมาเลี้ยงดูเพิ่มอีกหนึ่งคนซะมากกว่า
6. ผู้ชายที่เปลี่ยนงานบ่อยๆในรอบปีไม่ใช่เรื่องผิดที่แฟนของคุณจะทำงานไปแล้วไม่ผ่านโปร
โดนไล่ออก หรือลาออกเปลี่ยนงานบ่อยในรอบปี ซึ่งมันอาจจะมีหลายสาเหตุที่ทำให้เขาต้องทำแบบนั้น
แต่เมื่อเวลาผ่านไป คุณต้องพิจารณาแล้วล่ะว่าทำไมเขาถึงไม่สามารถทำงานที่ใดที่หนึ่งได้นาน
และทำไมบริษัทถึงไม่อย ากเก็บเขาไว้ เขาไม่มีศักยภาพพอรึเปล่า หรือเป็นคนไม่อดทนพอ
เรื่องนี้หากเป็นเพื่อนกันคงไม่ต้องคิดมาก แต่ถ้าเป็นแฟนคุณต้องคิดหน่อยล่ะ เพราะหากคิดจะใช้ชีวิตร่วมกันมีปัญหาแน่ๆ
7. ผู้ชายที่ไม่มีที่พักเป็นหลักแหล่งถ้ายังอยู่ในช่วงวัยรุ่น วัยเรียน
ไม่แปลกหากพ่อตัวดีของคุณจะเเ ช ร์ห้องพักกับเพื่อน หรืออาศัยนอนโซฟาบ้านใครสักคนที่สนิท ย้ายไปเรื่อยๆได้
แต่ถ้าเขาโตเป็นผู้ใหญ่แล้วยังไม่มั่นคงพอที่จะมีที่พักเป็นของตัวเอง
คุณคงรอให้เขาเก็บเงินย้ายออกจากห้องเพื่อนไปได้อีกไม่นานนัก หรือถ้าเขาอาศัยอยู่กับครอบครัว
คุณแน่ใจแล้วหรือยังว่าสามารถเข้ากับที่บ้านเขาได้ และที่สำคัญเขามีเวลามา
ใช้เวลาส่วนตัวกับคุณโดยไม่อยู่ในสายตาคนอื่นได้บ่อยแค่ไหน เรื่องนี้ต้องคิดให้ดี
8. ผู้ชายที่เข้ากับเพื่อนๆ และครอบครัวคุณได้ แต่อยู่กับคุณแล้วเป็นคนละคนอย่ าลืม
ว่าคนที่จะแต่งงานนั้นคือเรา คนอื่นไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับชีวิตคู่ของคุณ แม้ว่าเขาจะทำตัวเข้าสังคมของคุณได้ดีมาก
ต่อหน้าทุกคนเขาเป็นคนน่ารักและมีเสน่ห์ แต่พออยู่กับคุณแล้วเขาแสดงร่างที่แท้จริงออกมาเป็นนิสัยที่คุณไม่อย ากจะทน
บอกเลยว่าเลิกกันก่อนจะดีซะกว่าทรมานกันไปจนแก่เฒ่า
อย่ าเห็นกับการได้รับคำชมหรือคนอิจฉาชั่วครั้งชั่วคราวมาทำให้ชีวิตที่เหลือไม่มีความสุข
9. ผู้ชายคบซ้อน มีเจ้าของแล้ว มีกิ๊ก หรืออ้างว่ากำลังจะเลิก/หย่ าแม้ผู้ชายเจ้าชู้จะดูดีมีเสน่ห์กว่าหนุ่มโสด
ก็แหงล่ะ เขามีเจ้าของแสดงว่าผ่านการเลือกสรรมาแล้ว
แต่ผู้หญิงโตแล้วไม่ควรจะไปหลงลมลิ้นพ่อไก่แจ้แบบนั้นอีก อีกอย่ างเวลาและวารีไม่คอยท่า โบท็อกซ์บนหน้าก็มีวันหมดอายุ
คุณมีเวลาไม่มากพอแล้วที่จะต้องมานั่งรอให้ผู้หญิงอีกคนขายผู้ชายทอดตลาดเป็นของมือสองมาให้คุณ
10. ผู้ชายที่ดีพร้อม แต่คุณรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่ างที่ไม่ใช่สุดท้าย แม้คุณจะเสียเวลาไปหลายปี
เดทกับหนุ่มนักศึกษาเอ๊าะๆที่คุณต้องออกค่าเทอมให้ เป็นกิ๊กกับหนุ่มนักดนตรีสุดเท่แต่ไส้แห้ง
จนสุดท้ายมาลงเอยกับหนุ่มใหญ่ภูมิฐาน หน้าที่การงานดี มีเงิน มีหลักประกันในชีวิต แต่หากใจคุณรู้สึกว่าเขายังไม่ใช่ ก็ไม่ได้
หมายความว่าจะต้องรีบคว้าเอาไว้ จะโสดตอนอายุหลักสามสิบ ก็ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว
จำไว้ว่าขึ้นคานอย่ างมีศักดิ์ศรียังดีกว่ามีสามีกวนใจ เผลอๆ เพื่อนที่แต่งงานไปอาจจะอิจฉาคุณอยู่ก็เป็นได้
ที่มา : women.mthai
