
1.ไร้ความสุข – หมกมุ่นเกินไป
ถึงแม้จะมีเงินเก็บมาก ประมาณว่าเมื่อถึงวันเกษียณอายุจะไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน
แต่วันนี้กลับไร้ความสุขบางครั้งต้องอดมื้อกินมื้อหรือแทบจะไม่ได้ท่องเที่ยว
ช้อปปิ้งเหมือนเพื่อนๆและเพื่อทำให้ชีวิตมีความสุข ดังนั้น
ลองลดการเก็บเงินลงบ้ างขืนเก็บเยอะขนาดนี้อาจจะไม่มีโอกาสใช้เงิน
2.เงินไม่พอใช้ – ออมไม่เหมาะสม
เงินเดือน 30,000 บาท เก็บ 20,000 บาท เหลือใช้เดือนละ 10,000 บาท
ถามตัวเองว่าพอใช้หรือไม่ถ้าพอก็ไม่มีปัญหา แต่ส่วนใหญ่ไม่ใช่
เพราะยังมีภาระค่าใช้จ่ายรออยู่ เช่น ค่าอยู่ ค่ากิน ค่าน้ำค่าไฟ
ค่ามือถือ ผ่ อ นบ้ าน ผ่ อ นรถ ช้อปปิ้ง ดังนั้น หากดันทุรังเก็บแบบนี้ต่อไป
คงมีแต่เสียกับเสีย ลองปรับวิธีใหม่ด้วยการเก็บเงินให้เหมาะกับรายได้
ค่าใช้จ่าย เช่น เงินเดือน 30,000 บาท เก็บ 5,000 หรือ 6,000 บาท
เพียงแค่เก็บทุกเดือนๆ เท่านี้ก็จะมีความสุขทั้งวันนี้และวันข้างหน้า
3.หนี้เยอะ – ออมเงิน แต่รูดบัตร
เงินไม่พอใช้เพราะตั้งหน้าตั้งตาเก็บ บางคนเลยใช้ชีวิตประจำวัน
ด้วย บั ต ร เ ค ร ดิ ต ซื้ อของก็รูด กินข้าวก็รูด ท่องเที่ยวก็รูด
เพราะทุกวันนี้ชีวิตแสนสะดวกสบาย ไม่มีเงินสักบาทก็เข้าร้านสะดวกซื้ อ
ได้ขอแค่มี บั ต ร เ ค ร ดิ ต บางคนถึงขั้นกู้หนี้ยืมสิน
กรณีดังกล่าวถึงแม้จะมีเงินเก็บมาก แต่อาจมีหนี้สินสูงตามไปด้วย
4.สุ ข ภ า พย่ำแ ย่ – เ ค รี ย ด – ไม่แข็งแรง
หากเก็บเงินจนเกินตัวและมีผลเสียหาย แน่นอนจะส่งผลต่อสุ ข ภ า พ
เพราะการอดมื้อ กินมื้อทำให้ร่ า ง ก า ยไม่แข็งแรง, การหมกมุ่นทำให้ร่ า ง ก า ย
เกิดอาการเ ค รี ย ด และอาจทำให้เสียการ เสียงาน
หรือเพื่อนตีตัวออกห่าง เพื่อทำให้ชีวิตมีความสุขพร้อมๆ
กับมีเงินเก็บควรเดินทางสายกลาง มีน้อยเก็บน้อยมีมากเก็บมาก
เพียงแต่เก็บให้สม่ำเสมอ รู้จักวางแผนให้เหมาะสมกับตัวเองและมีวินัย
5.เสียหายหลายแสน – เสียงาน – ถูกหลอก
คนที่ก้มหน้าก้มตาเก็บแต่เงิน มักจะมองหาช่องทางการเก็บเงินเ
พื่อทำให้เงินออกดอกออกผล บางคนคิดเรื่องนี้ตลอดเวลา อาจจะส่งผลเสียต่อหน้าที่การงาน
เช่น หน้าที่รับผิดชอบไม่ได้ตามเป้าอาจจะไม่ได้รับโบนัส ตำแหน่งไม่ขยับ
เงินเดือนไม่ขยับ หรือหากความโลภเข้าครอบงำ อาจถูกหลอกให้นำเงินไปล ง ทุ นได้
ที่มา : w e a l t h m e u p