Home ข้อคิดสอนใจ ถ้าไม่อยากชีวิตพัง 6 สิ่งนี้ไม่ควรทำ เตือนใจคนทำงาน

ถ้าไม่อยากชีวิตพัง 6 สิ่งนี้ไม่ควรทำ เตือนใจคนทำงาน

10 second read
0
0
1,343

คำแนะนำที่ 5 เคยสงสัยกันหรือเปล่า ว่าทำไมมนุษย์เงินเดือนบางคนก็ดูมีตังเยอะ บางคนก็ใช้ชีวิตดูไฮโซมากๆ แต่พอสิ้นเดือนกลับมานั่งกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ต้นเดือนนี่มีชีวิตอย่างราชา

ไม่เกินกลางเดือนกลับแผ่วลง แต่บางคนที่ไม่ได้มีวิถีชีวิตหรูหราอะไร แต่ไม่นานก็มีบ้านใหม่ มีหลักทรัพย์ดีๆ น่าสนใจนะครับ เพราะว่าความมั่งคั่งทางการเงินหรือฐานะที่มั่นคงนั้นมาจาก “พฤติกรรม” การใช้เงินในทุกๆ วันนั่นเอง

ลองมาดูกันหน่อยว่า คุณมีพฤติกรรมพลาดๆ เหล่านี้บ้างหรือไม่

1.สร้างหนี้ ก่อนจะสร้างทรัพย์สิน หนึ่งในความปรารถนาอันดับต้นๆ ของน้องนักศึกษาจบใหม่ที่เพิ่งเริ่มทำงาน ความรู้สึกภูมิใจที่สามารถหารายได้ด้วยตัวเอง ความรู้สึกของการเป็นผู้ใหญ่ อยากมีชีวิตอิสระ หลายๆ คนตัดสินใจเริ่มผ่อนคอนโด

หลายคนเริ่มผ่อนรถ ด้วยสิทธิพิเศษของความเป็นมนุษย์เงินเดือนยิ่งตอบสนองความต้องการให้เป็นไปได้ง่ายขึ้น เพราะพนักงานประจำจะมีความสามารถในการกู้ยืมเงินได้ง่ายกว่าอาชีพอิสระ

แต่อย่าลืมนะครับว่า การกู้เงินย่อมมาพร้อมกับดอกเบี้ย ยิ่งกู้มากดอกเบี้ยยิ่งสูงมาก กว่าจะผ่อนหมดมักจะใช้เวลากว่าสิบปี ลองไปคิดกันดูนะครับว่า ระหว่างยอมอดทนเก็บเงิน

จนครบจำนวนแล้วค่อยไปซื้อกับการที่ต้องยอมเสียดอกเบี้ยในจำนวนที่เทียบเท่ากับราคาสินทรัพย์ที่ซื้อ อันไหนจะคุ้มกว่ากัน นอกจากเรื่องดอกเบี้ยแล้วยังแถมด้วยความ เ ค รี ย ด ในภาวะลูกหนี้ และความเสี่ยงของการผิดชำระหนี้เนื่องจากการถูกยกเลิกการจ้างงานประจำ

2.ไม่ออมเงิน ไม่เตรียมแผนการเกษียณ ช่วงวัยทำงาน ที่ยังมีเงินเดือนเข้าบัญชีเป็นประจำทุกเดือน อาจจะทำให้ลืมนึกถึงวันข้างหน้าในวัยเกษียณ ในวันที่ไม่มีเงินไหลเข้าในบัญชีอีกต่อไป

อย่าลืมว่าการที่เราเป็นมนุษย์เงินเดือนนั้น เราต้องรับผิดชอบตัวเองในด้านการใช้จ่ายหลังจากวัยเกษียณ เราไม่มีบำนาญเหมือนสายงานราชการ จะหวังให้ลูกให้หลานเลี้ยงก็คงจะไม่ดี

ยิ่งถ้าตัดสินใจจะใช้ชีวิตโสดในบั้นปลายยิ่งต้องเตรียมตัวเกษียณให้ดี ไหนจะค่ารักษาพยาบาล ค่าการดำรงชีวิตซึ่งแน่นอนว่าทุกคนต่างหวังที่จะใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างมีความสุข เคยคิดไหมครับว่าคุณอยากมีเงินก้อนในวันที่เกษียณงานเป็นจำนวนเท่าไหร่ แล้ววันนี้คุณเริ่มเก็บเงินหรือยังครับ

3.เป็นทาสของความฟุ้งเฟ้อ การใช้เงินซื้อความสุขไปวันๆ ไม่ว่าจะเป็นกาแฟร้านหรู เค้กร้านน่ารักๆ ร้าน อ า ห า ร ญี่ปุ่นต้นตำรับ หรือการสังสรรค์หลังเลิกงาน การทำงาน Office ทำให้เราพบปะกับคนหลายแบบ

หลายระดับ หลายๆ คนใช้กระเป๋า แ บ ร น ด์ เนม เครื่องสำอางราคาแพง Gadget ต้องอินเทรนด์ตลอด การพบอยู่ในสิ่งแวดล้อมเช่นนี้ทุกวัน ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่ง ก ร ะ ตุ้ น ให้เราอยากมี

อยากเป็น อยากได้เหมือนคนอื่นๆ แต่อย่าลืมว่าการจะตัดสินใจเลือกกิน เลือกใช้ เลือกซื้ออะไร ควรคำนึงถึงความสถานภาพการเงินของเราดีกว่านะครับ มีน้อยใช้น้อย ถึงมีมากก็ไม่จำเป็นต้องใช้มาก ออมเงินเพื่อความสุขในอนาคตจะดีกว่านะครับ

4.ไม่ดูแล สุ ข ภ า พ ทั้งการรับประทาน อ า ห า ร ที่เน้นเอาแต่ความอร่อย อุดมไปด้วยไขมัน และคาร์โบไฮเดรต ทั้งเครื่องดื่มน้ำตาลสูง ไหนจะข้ออ้าง ส า ร พัดของการไม่ออกกำลังกาย ไหนจะความ เ ค รี ย ด จากที่ทำงาน ยิ่งไปกว่านั้นหลายๆ คนยังเลือกที่จะ ทำ ล า ย สุ ข ภ า พ ตัวเองเสียอีก ไม่ว่าจะ สุ ร า หรือ บุ ห รี่ หลายคนเริ่ม ทำ ล า ย สุ ข ภ า พ ตัวเองตั้งแต่ยังมีอายุน้อย

เราจึงยังไม่ค่อยเห็นผลลัพธ์ของการไม่ดูแล สุ ข ภ า พ บางคนกิน เ ห ล้ า ทุกคืน เช้ามาก็ยังไปทำงานได้ ค่ารักษาพยาบาลที่ Office มีประกันให้ก็ไม่ค่อยได้ใช้ ไม่แปลกหรอกครับ ในเมื่อเรื่องของ สุ ข ภ า พ เป็นเรื่องของเวลา ช่วงนี้อาจจะมี Office Syndrome ไม่ว่าจะ ป ว ด หลัง ป ว ด เอว

ตาอักเสบมาเยี่ยมเยือนบ้าง แต่การปล่อยปละละเลยไม่ดูแลตัวเองตอนหนุ่มๆ สาวๆ มักจะมาปรากฏผลลัพธ์ที่ ร้ า ย แรงกว่าในช่วงปลายวัยทำงาน ไม่ว่าจะเป็น โ ร ค เบาหวาน คอเลสเตอรอลสูง ความดันโลหิตสูง ถึงตอนนั้น Office ก็ไม่มีสวัสดิการมาดูแล สุ ข ภ า พ ให้เราแล้วนะครับ

5.ไม่พัฒนาตัวเอง หลายๆ คนที่ทำงานประจำอยู่ มักจะนิ่งนอนใจเพราะเห็นว่า ด้วยความรู้ความสามารถที่มีอยู่ทุกวันนี้ ก็เพียงพออยู่แล้วสำหรับตำแหน่งงานที่ทำ อย่าลืมนะครับว่า โลกเราหมุนไปทุกวัน เทคโนโลยีและความรู้ใหม่ๆ เกิดขึ้นทุกวัน มีนักศึกษาจบใหม่ทุกปี จริงอยู่ที่ว่าความสามารถของเราไม่ได้ แ ย่ ลง เพียงแต่มีคนที่เหมาะกว่า

ค่าจ้างถูกกว่า ถึงตอนนั้นเราจะมีที่ยืนตรงไหนล่ะครับ เพราะฉะนั้น อย่าลืมหาความรู้ เพิ่มเติมประสบการณ์ไม่ว่าจะในสายงานของตัวเอง รวมถึงสายงานรอบข้าง และอย่าลืมที่จะสร้าง Connection ทำดีกับทุกคน เพราะโลกนี้มันกลม ไม่มีใครรู้หรอกครับว่า พรุ่งนี้เราอาจจะต้องการความช่วยเหลือจากใคร

6.ไม่เตรียมพร้อมสำหรับวันที่จะพ้นสภาพความเป็นมนุษย์เงินเดือน เพราะอนาคตเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน มีตัวอย่างการถูกเลิกจ้างงานโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้าให้เห็นกันมากขึ้นแม้แต่ในประเทศไทยเองก็ตาม

ดังนั้นการพึ่งพารายได้จากเงินเดือนเพียงอย่างเดียวนับเป็นความเสี่ยงอย่างหนึ่ง ในช่วงของการทำงานประจำ เราอาจมองหางานอดิเรกที่สามารถก่อให้เกิดรายได้เสริม

รวมถึงอย่าลืมที่จะแบ่งเวลาไปหาความรู้ด้านการจัดการเงิน อย่างน้อยเรื่องของการลดหย่อนภาษี หรือการนำเงินออมไปลงทุนต่อยอด ด้วยผลิตภัณฑ์ทางการเงิน หรือการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์

ที่มา :  k r u n g s r i

Load More Related Articles
Load More By adminjing
Load More In ข้อคิดสอนใจ

Check Also

8 วิธีทำให้คนนับถือคุณ หลักๆ อยู่ที่การวางตัว

ไม่ใช่แค่กลุ่มคนทำงาน แต่พวกเราทุกคนต่างต้องอยู่ในสังคมร่วมกับผู้อื่นไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ทุ…