
มนุษย์ทุกคนมีความสามารถในตัวเอง “แตกต่าง” กันไป เราไม่จำเป็นต้องเก่งเหมือนกันหมด
แม้แต่ในคนเดียวกัน ยังมีความสามารถที่หลากหลาย เช่น เป็น ห ม อ แต่ก็เล่นดนตรีเก่ง ทำ อ า ห า ร เก่ง เป็นศิลปินแต่ก็คำนวณเก่ง ขับรถเก่ง
สิ่งที่เรา “เก่ง” ไม่จำเป็นต้องออกมาในรูปแบบวิชาชีพ เช่น ห ม อ , วิศวกร, พยาบาล มันอาจเป็นพรสวรรค์ก็ได้ เป็นความรู้อะไรก็ได้ที่เราเอาจริงกับมัน เช่น การทำ อ า ห า ร , การจัดสวน, การออกแบบ (ไม่อย่างงั้น เราคงไม่เห็นนักธุรกิจหน้าใหม่หลายคนผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดหรอก)
สิ่งที่เราเรียนมาเป็นสิบเป็นร้อยกว่าวิชา มันคือ “การหล่อหลอม” หลายวิชาไม่ได้สอนเราทางตรง แต่ให้เราค่อย ๆ ซึมซับข้อดีแต่อย่างไปเอง เช่น ฝึกความอดทน, ฝึกความประณีต, ฝึกทักษะการเข้าสังคม
ในครั้งหนึ่งที่เราไม่เห็นประโยชน์ว่าจะใช้อะไรได้จริง พอโตขึ้นอีกหน่อย มันก็ต้องมีบ้างแหละที่เรานึกอะไรขึ้นมาจนต้องไปหา อ่ า น ปัดฝุ่นตำราอีกครั้ง … ทุกความรู้ที่เราได้รับ ไม่เคยสูญเปล่า แค่เรามองไม่เห็นค่ามันเอง ลองนึกดูให้ดีสิ !
ในรั้วโรงเรียน-มหาวิทยาลัย ต่อให้เราได้เรียนกับอาจารย์ที่เก่งแค่ไหน ขอบเขตความรู้มันก็เป็นเพียงความรู้ในรั้วเท่านั้น โลกของวัยผู้ใหญ่ที่โตขึ้น เรายังต้องรู้เห็นอีกมาก
เรียนรู้กันอีกยาว ลองผิดลองถูกกันอีกเยอะ ดังนั้น จะมา ฟั น ธงว่าเรียนมาสายวิทย์ต้องทำงานสายวิทย์ เรียนสายภาษาต้องทำงานสายภาษา มันก็ไม่ถูกเสมอไป
มันเป็นเรื่องธรรมดาที่มนุษย์เราจะต้องวิ่งตามหาสิ่งที่ “ใช่” ค่อย ๆ เรียนรู้ ค่อย ๆ ปรับตัวไป สิ่งที่เรากำลังสนุกในตอนนี้ บางทีอาจจะยังไม่ใช่ที่สุด สิ่งที่เราเก่งในตอนนี้ ในวันข้างหน้ามันอาจเป็นเพียงแค่ความทรงจำ
เพราะอาจมีหลายปัจจัยให้คิดมากขึ้น เช่น จำเป็นต้องพับโครงการเรียนต่อเอาไว้ เพราะเงินไม่พอ, จำเป็นต้องทำงานหาเงินก่อน แล้วค่อยไปเรียนศิลปะที่เราชอบ … เราต้องดูจังหวะของชีวิตด้วย (ความจำเป็นของชีวิตแต่ละช่วง)
มนุษย์เราควรมีทางเลือกให้กับชีวิตไว้หลายด้าน หรือ “มีแผนสำรอง” เพื่อไม่เป็นการปิดกั้นตัวเองจนเกินไป เช่น ถ้าวุฒิที่เราเรียนมามันหางานยาก จะยอมรึเปล่าที่เอาวุฒิต่ำกว่านี้หางานไปก่อน
ถ้าเราไม่ได้อาชีพนี้ เรายอมได้รึเปล่าที่จะทำอาชีพอื่นไปพลางๆ ก่อน? … ความฝัน สิ่งที่ใช่ มันไม่ควรเป็นสิ่งที่ได้ดั่งใจในทันที มันเป็นเรื่องธรรมดามาก ๆ ที่ต้องแลกกับความเหนื่อย ความพยายามหลายเท่าตัว
(จึงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด หากจะพบว่าทำไม ห ม อ บางคนถึงแต่งเพลงได้? ทำไมบางคนเรียนวิชาชีพแต่มาเป็นศิลปิน? ทำไมบางคนเรียนไม่จบแต่ประสบความสำเร็จ? ถ้ายังไม่เข้าในในข้อนี้ ลองย้อนกลับไป อ่ า น อีกรอบ)
ขึ้นชื่อว่า “ความรู้” เราได้รับมา ถึงจะไม่ใช้ในทันทีก็ไม่ควรเสียดาย ขึ้นชื่อว่า “ความฝัน” ถึงจะยังไม่ใช่ในวันนี้ ใช่ว่าวันหน้าจะเป็นไปไม่ได้ มันอยู่ที่ตัวเราล้วน ๆ
ว่า “รู้ตัวดีหรือไม่ว่าทำอะไรอยู่?” และ “พร้อมจะยืดหยุ่นกับทุกสถานการณ์ชีวิตรึเปล่า?” อย่าลืมว่าโลกเรากลม และมีหลายมิติ ใช่ว่าจะต้องมองเพียงด้านเดียว
ที่มา : j e e b