Home ข้อคิดสอนใจ 5 อย่างถ้าเงินไม่เหลือ อย่าไปหลงซื้อ

5 อย่างถ้าเงินไม่เหลือ อย่าไปหลงซื้อ

2 second read
0
0
504

ในสภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ เงินหาได้ยากขึ้นทุกวัน ทุกคนประหยัดการค่าใช้จ่ายกันมากขึ้น และใช้จ่ายเท่าที่จำเป็นเท่านั้น เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้เงินเดือนขึ้น

โบนัสสิ้นปีก็ลุ้นแล้วลุ้นอีกว่าจะได้กี่เดือน (หรือไม่ได้เลย) เพราะบริษัทมีผลประกอบการไม่ดี เนื่องจากเศรษฐกิจขาลงในช่วงนี้ แต่หากคุณยังไม่มีแผนการว่าควรตัดค่า

ใช้จ่ายในส่วนใดออกไปบ้าง วันนี้เรามีคำแนะนำเบื้องต้นกับสิ่งที่คุณควรหยุดเสียเงินให้กับมัน มาฝากกันครับ

1. ช็อปปิ้งเพราะได้รับการโน้มน้าว

เวลาออกไปเดินตามถนน หรือตามห้างร้าน คุณจะได้เห็นโฆษณาสินค้ามากมาย รวมถึง เ ซ ล ล์ ขายสินค้าที่มักจะมาแนะนำสินค้าให้คุณเมื่อคุณเดินผ่านร้านของเขา

สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ ก ร ะ ตุ้ น ให้คุณ ซื้ อ สินค้าทั้งสิ้น ถ้าหากคุณเป็นคนที่ถูกชักจูงได้ง่าย ก็จะ ซื้ อ สินค้าของเขาง่าย ๆ ทั้ง ๆ ที่ความจริงคุณก็แค่อยากได้มัน แต่ไม่ได้มีความ

จำเป็นต้องใช้มันจริง ๆ เช่น เครื่องประดับ รองเท้าแบรนด์เนม ทั้งที่คุณมีของใช้เหล่านี้อยู่แล้ว ของที่ ซื้ อ มาใหม่ก็จะกลายเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นเท่าใดนัก สิ่งที่คุณควรทำ

เมื่ออยู่ในสถานการณ์นี้ คือคุณต้องคิดไตร่ตรองเสียก่อนว่าคุณมีความจำเป็นต้อง ซื้ อ มันจริง ๆ หรือไม่ ซื้ อ มาแล้วจะใช้ได้คุ้มค่าหรือไม่ เพียงแค่นี้ก็ไม่ก่อให้เกิดการ

เสียเงินไปอย่างสูญเปล่าแล้วครับ

2. กาแฟสดราคาแพง

การดื่มกาแฟตอนเช้า เป็นสิ่งที่แทบจะขาดไม่ได้สำหรับคนทำงานส่วนใหญ่ใช่ไหมครับ แต่กาแฟก็มีหลายราคา ถ้าเป็นกาแฟสดตามร้านดัง ๆ ราคาเกินร้อย หากดื่มทุกวัน

เดือนหนึ่งก็ตกเป็นเงินหลายพันบาท ซึ่งจริง ๆ แล้วถ้าอยากดื่มกาแฟเพื่อให้กระปรี้กระเปร่าในตอนทำงาน เราก็สามารถดื่มกาแฟธรรมดาแก้วละ 20 -25 บาท หรือกาแฟซอง

(ที่ออฟฟิศมีให้พนักงานฟรีแทบจะทุกออฟฟิศ) แม้จะมีรสชาติดีไม่เท่ากาแฟสดร้านดัง แต่ก็ทำให้รู้สึกตื่นตัวได้ไม่แพ้กันครับ และทำให้ประหยัดเงินค่ากาแฟไปได้มากเลยทีเดียว

3. การใช้แต่ของที่ทันสมัยล่าสุด

การติดตามเทคโนโลยีล่าสุดเป็นสิ่งที่ดีเพื่อติดตามว่าโลกเราหมุนไปถึงไหนแล้ว แต่เราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ของที่ทันสมัยใช้เทคโนโลยีล่าสุดทุกครั้ง เช่น โทรศัพท์มือถือ

คอมพิวเตอร์ ที่มีการอัพเดทฟังก์ชั่น และอุปกรณ์กันบ่อยมาก ๆ หากเราตาม ซื้ อ สิ่งของเหล่านี้ทุกครั้งที่มีออกมาใหม่ ทั้ง ๆ ที่ของเก่าที่เราใช้อยู่ก็ยังใช้ได้ดี ไม่มีปัญหาอะไร

จะทำให้เราสูญเสียเงินไปอย่างไม่คุ้มค่า และได้ของในราคาที่แพง เพราะสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดมักจะมีราคาแพงตอนเปิดตัวเสมอ การจ่ายเงิน ซื้ อ เทคโนโลยีล่าสุดทุกครั้ง

จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ และควรหยุดเสียเงินให้กับมันได้แล้ว ควร ซื้ อ เมื่อจำเป็นต้องใช้จริง ๆ เท่านั้น

4. เที่ยวกลางคืนแพง ๆ

การเที่ยวกลางคืนเพื่อผ่อนคลายนั้น เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ ถ้าไม่บ่อยและแพงเกินไป แต่ถ้าเที่ยวบ่อยและแพงชนิดที่ว่าเกิดมาทั้งทีมีชีวิตให้คุ้มก็ควรหยุดได้แล้ว

เพราะการเที่ยวกลางคืนไม่ทำให้ได้อะไรขึ้นมานอกจากความบันเทิงเท่านั้น การเที่ยวกลางคืนจะต้องเสียทั้งค่าเดินทาง ค่าเข้าสถานที่ ค่าเดินทาง ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่

มากพอสมควร และเมื่อดื่ม สุ ร า เข้าไปแล้ว ก็จะทำให้เงินออกจากกระเป๋าง่ายขึ้น ขาดการไตร่ตรอง ทำให้เสียเงินไปจำนวนมากกว่าที่คิด ควรเก็บเงินส่วนนั้นไว้ใช้จ่าย

อย่างอื่นที่เป็นประโยชน์มากกว่านี้ดีกว่าครับ

5. ค่าสมาชิกฟิตเนสที่แพงเกินจริง

เดี๋ยวนี้คนรัก สุ ข ภ า พ มักจะสมัครเป็นสมาชิกฟิตเนสเพื่อเข้าใช้อุปกรณ์ของฟิตเนสในการออกกำลังกาย แต่ก็มีฟิตเนสบางที่ที่เก็บค่าสมาชิกสูงมาก ทั้ง ๆ ที่อุปกรณ์ก็

สามารถใช้ได้เหมือนกับฟิตเนสที่อื่น ซึ่งคุณควรพิจารณาฟิตเนสที่มีค่าสมาชิกที่เหมาะสม และถ้าใกล้บ้านของคุณมีสวนสาธารณะให้ออกกำลังกายอยู่แล้ว ฟิตเนส

ก็ไม่จำเป็นเลย คุณสามารถออกกำลังกายได้โดยไม่ต้องเสียเงินที่สวนสาธารณะใกล้บ้านครับ

ทั้ง 5 ข้อนี้เป็นสิ่งที่ควรหยุดเสียเงินให้ได้แล้ว เพื่อจะได้มีเงินเก็บที่มากขึ้น และนำไปใช้จ่ายกับอย่างอื่นที่เป็นประโยชน์มากกว่านี้ครับ นอกจากการตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นแล้ว

เราต้องรู้วิธีการเก็บเงินกันด้วยนะครับ โดยสามารถ อ่ า น เคล็ดลับการเก็บเงินได้ที่ 9 วิธี ออมเงิน แบบชิลๆ แต่ได้ผล และหากคุณผู้ อ่ า น สนใจเคล็ดลับเกี่ยวกับการเงิน

ก็สามารถ อ่ า น บทความการเงินอีกมากได้ที่เรา ครับ

อ้างอิง moneymax, businessinsider,lifehack

Load More Related Articles
Load More By jingjai
Load More In ข้อคิดสอนใจ

Check Also

วิธีบริหารเงิน ให้มีกินมีใช้ “ไม่เป็นหนี้”

การออมที่ดี คือ การออมอย่างมีความสุข ไม่ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างลำบากแต่การใช้เงินอย่างไร ให้…