![](https://jingjai999.com/wp-content/uploads/2023/05/1-8-850x491.jpg)
1. ทักทาย “สวัสดี” กับเพื่อนร่วมงานของคุณใน ย า ม เช้าที่สดใส
ถ้าคุณต้องเจอกับเพื่อนร่วมงานที่ห่อไหล่เดินเข้ามาในออฟฟิศ ตามองต่ำไม่มองหน้าใครแล้วเอาแต่ก้มหน้าก้มตาทำงานคุณจะรู้สึกยังไงกับเขา ในกรณีที่เบาที่สุดคุณ
อาจจะแค่ไม่สนใจเขา หรือ อย่าง ร้ า ย ที่สุดคุณก็คงหลีกเลี่ยงเขาไปเลย ดิฉันว่าเรามาสร้างนิสัยของการยิ้มและทักทายทุก ๆ คนใน ย า ม เช้าของวันทำงานกันดีกว่าค่ะ
แล้วคุณจะรู้ว่า ม า ร ย า ท เล็ก ๆ น้อย ๆ นี้ของคุณ มีความมหัศจรรย์ที่ช่วยละลายความเย็นชาในที่ทำงานของคุณได้รวดเร็วแค่ไหน
2. เรียนรู้ศิลปะการคุยเล็ก ๆ น้อย ๆ
ชวนเพื่อนร่วมงานของคุณคุยเกี่ยวกับเรื่องที่เขาสนใจ อาจจะเป็น เพลงที่ชอบ หนัง หนังสือ หรือ งานอดิเรกการแสดงให้เขาเห็นว่าคุณสนใจพวกเขาจริง ๆ มันจะทำให้เขา
รู้สึกสบายใจเวลาที่ได้อยู่ใกล้ ๆ คุณ และคุยถึงเรื่องของคุณนอกที่ทำงานบ้าง (ถ้ามีจังหวะเวลาที่เหมาะสม) สิ่งนี้จะทำให้คนที่ทำงานกับคุณนึกถึงคุณเป็นคนแรกเมื่อมาถึง
ที่ทำงาน ไม่ใช่เป็นแค่พนักงานหรือเจ้านายทั่ว ๆ ไปที่ไม่มีความหมายอะไร
3. ถามถึงสิ่งที่พวกเขาคิด
คนส่วนใหญ่ชอบให้คนอื่นถามความเห็นของตัวเอง ลองตั้งคำถามและขอความคิดเห็นจากเพื่อนร่วมงานคุณ อย่างเช่น คุณคิดอย่างไรกับการจัดการสถานการณ์นี้ด้วย X หรือ
คุณคิดยังไงเกี่ยวกับความผิดพลาดจากรายงานชิ้นนี้บ้าง การถามความคิดเห็นเป็นการแสดงออกอย่างหนึ่งว่าคุณให้ความหมายกับความคิดเห็นของพวกเขา แล้วอย่าลืม
กล่าวขอบคุณอย่างจริงใจให้กับคำแนะนำเหล่านั้นด้วยนะคะ (แม้ว่าความคิดนั้นจะมีประโยชน์น้อยแค่ไหนก็ตาม)
4. หลีกเลี่ยงการนินทา
คุณไม่ต้องการให้ใครพูดถึงคุณลับหลังอย่างไร คุณก็ไม่ควรทำแบบนั้นกับใครเช่นกัน เมือมีเพื่อนร่วมงานเขามาใกล้ ๆ คุณแล้วนินทาเกี่ยวกับเรื่องรัก ๆ ในออฟฟิศหรือ
ใครบางคนกำลังโดนไล่ออก ในคุณตอบโต้เขาไปด้วยคำว่า “จริงเหรอ?” แล้ว พ ย า ย า ม เปลี่ยนเรื่องไปหรือวกกลับเข้าไปเรื่องงาน หรือถ้าคุณไม่ตอบโต้อะไรเลยคนที่ชอบ
นินทาคนนั้นก็จะไปหนีคุณไปเอง และการที่คุณไม่นินทาใครก็จะทำให้คุณสามารถรักษาความเชื่อใจและความเคารพจากเพื่อนร่วมงานของคุณเอาไว้ได้
5. เมื่อคุณต้องคุยงานกับเพื่อนร่วมงานที่ทำงานด้วยยากให้ทำเหมือนว่าลูกของคุณกำลังมองคุณอยู่
เมื่อคุณต้องคุยงานกับเพื่อนร่วมงานที่ทำงานด้วยยาก (7 ประเภทของเพื่อนร่วมงานที่ทำงานด้วยยาก) ซึ่งคุณก็คงลำบากใจไม่น้อยที่จะต้องเข้าไปคุยงานด้วย แน่นอนว่าคุณคง
พ ย า ย า ม ที่จะหาทางหลีกเลี่ยงที่จะยุ่งเกี่ยว แต่ในบางครั้งก็มีเหตุจำเป็นให้คุณต้องเข้าไปติดต่อกับเขา ถ้าอย่างนั้น ก็ให้คุณคิดเสียว่าในขณะที่คุณกำลังคุยงาน มีสายตา
ของลูกคุณค่อยเฝ้ามองอยู่ ซึ่งนี่คือเทคนิคการสร้างมโนภาพที่จะช่วยให้คุณสามารถรักษาความสุขุมเอาไว้ได้ หลังจากนั้น ความสุขุมและ ม า ร ย าท ที่ดีของคุณ จะช่วยลดระดับ
ความไม่พอใจทั้งของคุณและเขา และเป็นแบบอย่างที่สอนให้เพื่อนร่วมงานคนนั้นรู้ว่า ควรจะทำตัวอย่างไรจึงจะดีและเหมาะสม
6. ชื่นชมเพื่อนร่วมงาน
ชื่นชมเพื่อนร่วมงานของคุณในเวลาที่เขาประสมความสำเร็จหรือดูแลรับผิดชอบหน้าที่ได้เป็นอย่างดี เช่น วันนี้งานพรีเซ็นของเธอเยี่ยมมาก หรือ งานที่เธอรับผิดชอบออก
มาดีมากเลยนะ เพื่อให้กำลังใจเขา เพราะคนเรามักจะตำหนิในสิ่งที่คนอื่นทำผิดพลาดมากกว่าชมเชยในสิ่งที่เขาทำดี ซึ่งการชื่นชมของคุณจะต้องไม่มากเกินไปจนดูเหมือน
เป็นการประจบ ซึ่งจะทำให้ความหวังของคุณมันดูปลอมไปทันทีเมื่อคุณข้ามเส้นของความพอดี
7. เผยแผ่กำลังใจที่ดีของคุณ
คุณไม่จำเป็นต้องเป็นคนดีหรือให้กำลังใจเขาตลอดเวลา แค่สัปดาห์ละครั้งก็พอที่จะให้กำลังใจเพื่อนร่วมงานของคุณ (โดยไม่เลือกคนเดิมซ้ำ ๆ กันจนมีคนมองว่าคุณลำเอียงเอาได้)
เช่น อาทิตย์นี้คุณอาจจะให้คุกกี้ (โดยไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลที่จะให้) อาทิตย์หน้าอาจจะเป็นการ์ดหรือโน้ตที่เขียนขอบคุณเขาสำหรับความช่วยเหลือก่อนหน้านี้ หรือ
ส่งกระดาษที่เขียนข้อความตลกเพื่อสร้างรอยยิ้มให้กับเพื่อนร่วมงานที่กำลังมีเรื่องกลุ้มใจก็ได้นะคะ
8. ตอบ e-mails หรือโทรกลับทันที
การมัดใจเพื่อนร่วมงานวิธีการที่ดีเริ่มต้นที่การมี ม า ร ย า ท ในออฟฟิศที่ดี ไม่มีอะไรน่าผิดหวังไปกว่าคนที่ยุ่งจนไม่ตอบ
e-mails และไม่โทรศัพท์กลับ ความเงียบของคุณ
ไม่ใช่แค่ทำให้งานของเขาทำยากขึ้นเท่านั้น แต่มันยังสื่อความหมายว่าคุณอาจจะไม่พอใจในข้อความของเขา หรือ เขาไม่มีความสำคัญอะไรสำหรับคุณ ซึ่งมันคงไม่ส่งผลดี
ต่อบรรยากาศในการทำงานของคุณกับเพื่อนร่วมงานสักเท่าไร
9. ให้เครดิตเสมอ
อย่าลืมให้เครดิตกับเพื่อนร่วมงานที่เขาควรได้รับ ให้จำเอาไว้ว่า “เราต้องชนะไปด้วยกัน” และทำให้ทุกคนรู้ว่ามีใครที่ทำงานได้ดีหรือดีมากกว่าหน้าที่รับผิดชอบในงานนั้น ๆ บ้าง
ให้เครดิตอย่างเหมาะสมเป็นเรื่องจำเป็นนะคะ
10. ข้อสำคัญสำหรับ The Boss
ในการทำงานทุกครั้งคุณจะต้องไม่ให้งานที่ยากมากเกินไปกับลูกน้องหรือเพื่อนร่วมงานของคุณเมื่อพิจารณาจากความสามารถของเขา หรืออย่างน้อยที่สุดก็ไม่ควรยากมาก
ในระดับที่แม้แต่คุณก็ทำเองไม่ได้ เพราะมันคงจะทำให้คุณเป็นหัวหน้าที่ใจยักษ์ใจมารที่ไม่น่ารักสำหรับพวกเขา
11. เคารพเวลาของคนอื่นอยู่เสมอ
คุณอยากใช้เวลาให้มีประสิทธิภาพสูงสุดมากแค่ไหน เพื่อนร่วมงานเองก็ไม่แตกต่างกัน ดังนั้น ถ้าไม่ใช่เรื่องงานหรือเรื่องเร่งด่วนจริง ๆ ก็ไม่ควรไปรบกวนเวลาทำงานของเขา
แต่ถ้าคุณอยากคุยเรื่องสัพเพเหระหรือเรื่องส่วนตัวกับเขาเพื่อสานสัมพันธ์อันดี ก็ควรเข้าไปชวนคุยในเวลาพักหรือหลังเลิกงานจะดีกว่าค่ะ
12. เคารพความคิดเห็นของคนอื่น
เมื่อคุณนำเสนอไอเดียของคุณออกไปแล้ว ก็ต้องเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นโดยไม่ใช้อคติด้วยเช่นกัน แม้ว่าทุกความคิดเห็นที่ออกมาอาจจะไม่ได้ดีทั้งหมด
แต่บางความเห็นก็อาจจะมาเสริมเติมให้อีกความเห็นมีจุดบกพร่องน้อยลง หรืออาจจะมีความเห็นใหม่ ๆ ที่ดีกว่า เหมาะสมกว่า ตามมาก็ได้หลังจากคุณเสนอความเห็นก็
เป็นได้ ดังนั้น คุณจึงไม่ควรปิดหู และ ปิดใจ จนพลาดที่จะเปิดโลกของคุณให้เห็นมุมมองใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น
13. เมื่อมีอะไรที่คุณยังไม่รู้ให้สมมติสิ่งที่จะเกิดขึ้นไปในทางบวกไว้ก่อน
คุณคงจะขำไม่ออกถ้าเพื่อนร่วมงานหรือลูกน้องในทีมของคุณเอาแต่สนใจว่างานเขาจะต้องทำหนักกว่าคนอื่นในตึกนี้หรือเปล่า หรือ เจ้านายจะเห็นผลงานหรือไม่ คำถาม
ที่เต็มไปด้วยความคิดลบ ๆ พวกนี้มีแต่จะทำให้คุณไม่มีความสุขกับการทำงาน แทนที่คุณจะสนใจว่าคนอื่นทำงานหนักและทำได้ดีที่สุดหรือเปล่า คุณควรเชื่อในงานและ
บริษัทที่คุณกำลังทำงานมากกว่า เพราะถ้าคุณไม่เชื่อ บางทีมันอาจจะถึงเวลาที่คุณต้องเดินออกมาจากบริษัทนั้น
การเป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน เริ่มต้นจากการทำตัวคุณให้ดี ไม่เย็นชากับเพื่อนร่วมงาน แต่ก็ไม่ได้ดีเกินไปจนคนอื่นไม่เกรงใจหรือดูหลอกลวง แล้วการทำงานของคุณจะเต็ม
ไปด้วยรอยยิ้มและความสุข ทั้งนี้ทั้งนั้นความจริงใจคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการสร้างความสัมพันธ์อันดีของผู้ร่วมงาน
ที่มา rd