Home ข้อคิดสอนใจ เทคนิค 7 ข้อ มีเงินเหลือเพิ่มขึ้น ให้มีใช้ในยามจำเป็น

เทคนิค 7 ข้อ มีเงินเหลือเพิ่มขึ้น ให้มีใช้ในยามจำเป็น

4 second read
0
0
201

1. เก็บก่อนใช้ ได้เปรียบกว่าเห็น ๆ

เงินเดือน 15,000 ให้กันเงินไว้ 1,500 (คิดเป็น 10% จากเงินเดือน) จากนั้น เงินเหลือเท่าไหร่

ค่อยหักลบหนี้สิน และรายจ่ายคงที่ (Fixed Cost) ในแต่ละเดือน เช่น ค่าเช่าบ้าน ค่าโทรศัพท์

แล้วจึงเหลือเป็นค่าใช้จ่ายประจำวัน วิธีนี้อาจจะฟังดู โ ห ด ร้ า ย ไปสักนิด แต่เชื่อเถอะว่า

เราจะมีเงินเก็บที่แน่นอนในทุก ๆ เดือน อย่างน้อย ๆ ก็ได้เดือนละ 1,500 บาท ตกปีหนึ่ง

ก็ได้มา 18,000 บาทแล้วนะ

2. เปิดบัญชีฝากประจำ

การฝากประจำ คือ ต้องฝากเงินในจำนวนเท่าๆ กันทุกเดือน ในระยะเวลาที่กำหนด และ

เงินจำนวนนี้จะไม่สามารถถอนออกก่อนกำหนดเวลาได้ ทั้งนี้ ระยะเวลาของการฝากประจำ

ก็มีทั้งแบบระยะสั้น 3 เดือน – 1 ปี และแบบ ร ะ ย ะ ย า ว 2-3 ปี ใครที่เป็นคนเก็บเงิน

ไม่ค่อยอยู่ แนะนำให้ลองออมเงินด้วยวิธีนี้ดู ทั้งได้เงินออม ได้ผลตอบแทนจาก ด อ ก เ บี้ ย

แถมยังได้ฝึกวินัยในตนเองเพิ่มอีกด้วย

3. หักบัญชีอัตโนมัติ

การตั้งหักบัญชีอัตโนมัติถือเป็นตัวช่วยด้านวินัยอย่างหนึ่ง ให้เราสามารถชำระค่าบริการต่างๆ

ได้อย่างถูกต้องและตรงต่อเวลา อย่าง ค่าผ่อนบ้าน ค่าโทรศัพท์ และค่างวดที่ฝากประจำต่างๆ

ซึ่งการที่เราสามารถชำระค่าบริการต่างๆ ได้ตรงเวลา นอกจากจะไม่โดนเรียกเก็บค่า

ธรรมเนียมชำระล่าช้าแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างเครดิตและความน่าเชื่อถือให้กับตัวเราเองอีกด้วย

4. มีเศษเหรียญ ให้หยอดกระปุก

ลองหากระปุกออมสินน่ารักๆ มาสร้างแรงบันดาลใจสักอัน คอยสำรวจกระเป๋าสตางค์ของ

เราว่า มีเศษเหรียญอยู่บ้างไหม ถ้ามีก็อย่ารีรอ รีบหยอดกระปุกกุ๊กกิ๊กของเราให้เต็มเร็วๆ

กันดีกว่า หรือถ้าวันไหนเกิดอยากจะให้โบนัสตัวเอง ก็ลองเพิ่มจากเศษเหรียญเป็นแบงก์ 20

บ้างก็ได้ พอกระปุกเต็มเมื่อไหร่ก็ลองแกะมานับดู เผลอ ๆ ได้มาอีกหลายร้อยโดยไม่รู้ตัวนะเอ้า!

5. แบงก์ 50 เป็นของต้องห้าม

แบงก์ 50 ค่อนข้างจะเป็น Rare Item เพราะมันมีน้อยกว่าจำนวนแบงก์อื่นๆ ที่เราใช้กัน

การที่เราจะเก็บมันไว้โดยไม่ใช้ ก็ไม่น่าจะกระทบกับชีวิตประจำวันของเรามากนัก ดังนั้น

ให้มองว่า เจ้าแบงก์สีฟ้านี้เป็นของต้องห้าม หมายถึง “ต้องห้ามนำออกมาใช้เด็ดขาด”

นั่นแหละ สะสมเอาไว้หลายใบเข้า มารู้ตัวอีกที เก็บได้เกือบ 1,000 บาทก็มีนะ

6. ช้อปไปเท่าไหร่ ออมคืนเท่านั้น

ข้อนี้เป็นการปรับนิสัยการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยของตัวเองได้ดีเลยนะ มองอีกแง่ มันเหมือนกับการ

“ยืมเงินตัวเองออกมาใช้ก่อน” แล้วคืนให้ทีหลัง หลักการเดียวกับการยืมเงินเพื่อนเลย

เพียงแต่นี่คือเงินตัวเอง ถ้าอยากช้อปปิงมาก ก็ช้อปได้เลย แต่ ซื้ อ อะไรไปเท่าไหร่ จดไว้

แล้วหามาจ่ายคืนทีหลังด้วยนะ แม้จะเป็นเงินตัวเอง ก็ห้ามอ่อนข้อ ทำให้เหมือนเรา

ติดหนี้เพื่อน ต้องรีบใช้คืน อย่าผัดวันประกันพรุ่งเด็ดขาด

7. เงินเหลือเท่ากับออม

สมมติว่า สิ้นเดือนเรามียอดคงเหลือในบัญชีอยู่ 1,530 บาท ให้ ย้ า ย เงินส่วนนี้ไปใส่

บัญชีเงินออม อาจจะถอนออกเป็นเลขกลม ๆ เช่น 1,500 บาท ไปเก็บออมไว้ พอขึ้น

เดือนใหม่ เงินเดือนเข้ามาอีก 15,000 บาท + ของเก่าคงค้าง 30 บาท รวมเป็น 15,030 บาท

เพื่อใช้จ่ายในเดือนนั้น ๆ แล้วเราก็กลับไปใช้เทคนิคตั้งแต่ข้อที่ 1 ไล่ลงมาใหม่ ถือ

เป็นการบังคับตัวเองให้ใช้จ่ายด้วยวงเงินที่จำกัดเท่า ๆ กันในแต่ละเดือน และ

ลดการใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายลงได้

ขอขอบคุณ gsb

Load More Related Articles
Load More By jingjai
Load More In ข้อคิดสอนใจ

Check Also

เตือนสติทุกคน 11 นิสัยที่ทำให้ลำบาก จงรีบแก้ไขก่อนจะสาย

1. ไม่รู้ว่า “เวลา” เป็นของมีค่า ทุกคนมีเวลา 24 ชม. เท่ากัน แต่สงสัยไหมว่าทำไมบางคนใช้เวลา…