1. ฉลาดที่จะออนไลน์ให้ได้ประโยชน์
คนยุคออนไลน์มักจะมีนิสัยติดโลกออนไลน์ประเภทเอะอะต้องเปิดมือถือเช็คสเตตัส หรือใช้ชีวิตวุ่นอยู่กับหน้าจอต่างๆ อยู่แทบทั้งวัน อย่ างไรก็ตาม แม้เวลาของเราจะถูกให้กับโลกออนไลน์มากขึ้น
แต่ “ส า ระ” ที่เราได้กลับมาอาจจะเป็นอีกเรื่อง เพราะคนส่วนมากก็มักใช้ออนไลน์ในการคุยกับเพื่อนฝูง บ้ างก็ดูอะไรสนุกๆ ประเทืองอารมณ์ ทั้งที่จริงๆ
แล้วโลกออนไลน์นี้คือขุมทรัพย์ชั้นดีสำหรับคนอย ากหาความรู้ ไม่ว่าจะเป็นบล็อกที่มีเนื้อหาดีๆ เสริมความรู้ให้คุณ บทเรียนออนไลน์ ฯลฯ มันก็เลยกลับมาเป็นคำถามยอดฮิตที่เรามักจะคุยกันบ่อยๆ ว่าวันนี้คุณใช้ “ประโยชน์” จากโลกออนไลน์มากแค่ไหนกัน
2. รู้จักบันทึกว่าคุณเรียนรู้อะไรบ้ าง
ผมมักบอกอยู่บ่อยๆ ว่าทุกอย่ างในชีวิตของเรานั้นสามารถกลายเป็นบทเรียนชั้นดีให้กับเราได้ อยู่ที่เราจะมองมันเป็นบทเรียนหรือเปล่า แม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ
ในแต่ละวันเช่นบทสนทนาในห้องประชุม หรือการพูดคุยกับเพื่อน ฯลฯ สิ่งเหล่านี้คุณสามารถนำไปเป็นความรู้พัฒนาตัวเองได้ ซึ่งการจดบันทึกนั้นมีส่วนสำคัญที่ทำให้คุณได้ทบทวนและเปลี่ยนความทรงจำให้กลายเป็นความรู้ที่ให้คุณจดจำได้ดีขึ้นนั่นแหละ (แต่คนส่วนมากมักไม่ทำกันหรอกครับ)
3. ทำลิสต์สิ่งที่ได้ทำไปแล้ว
ปรกติแล้วเรามักทำลิสต์ที่เราอย ากจะทำ หรือวางแผนว่าจะทำ แต่มันก็ดีอยู่เหมือนกันถ้าคุณได้ลองทำลิสต์สิ่งที่คุณได้ทำไปแล้ว เพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนกลายเป็นเหมือนเครื่อง
เตือนใจให้คุณได้รู้ว่าคุณก้าวข้ามสิ่งใดมาแล้วบ้ าง บางประสบการณ์อาจจะเป็นสิ่งที่มีค่ากับคุณและหลายๆ คนอาจจะไม่มีวันได้มี สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นทำให้คุณได้รู้สึกมั่นใจและมีความสุขกับประสบการณ์ของคุณมากขึ้น (และนั่นมีส่วนสำคัญกับเรื่องของความฉลาดอยู่ทีเดียวเชียวนะครับ)
4. มีเพื่อนฉลาดๆ
ถ้าวันๆ เพื่อนของคุณคุยกับเรื่องไร้ส า ระ มันก็คงจะเป็นประโยชน์กับคุณน้อยกว่าการที่คุณอยู่วงสนทนาดีๆ กับคนเก่งๆ และนั่นเป็นเหตุให้คนเก่งๆ หลายคนมักจะมีวงสนทนาหรือกลุ่มเพื่อนของเขา
นอกจากนี้แล้ว เรายังเห็นว่าการที่คุณสุงสิงกับเพื่อนที่มีลักษณะอย่ างใดอย่ างหนึ่งนั้น ในไม่ช้าก็เร็ว คุณก็จะซึมซับความรู้และวิธีคิดของเพื่อนคุณเข้ามาด้วยเช่นกัน เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว การเลือกเพื่อนที่คุณจะคุยด้วย เข้าสังคมด้วย ก็มีผลอยู่พอสมควรทีเดียวเลย
5. อ่ า นให้เยอะ
การอ่ า นหนังสือเป็นหนึ่งในนิสัยร่วมของบรรดาคนเก่งๆ ที่เรามักพบเสมอ ทั้งนี้เพราะการอ่ า นหนังสือคือการเปิดโลกชั้นดีให้กับคนที่สนใจและอย ากหาความรู้ นอกจากนี้แล้ว
การอ่ า นหนังสือยังเป็นการเปิดวิสัยทัศน์ตัวเรา การเรียนรู้แนวคิดต่างๆ จากคนเขียนมากมาย ซึ่งจะว่าไปแล้ว การอ่ า นหนังสือนี้เป็นพฤติกรรมง่ายๆ ที่คุณเริ่มได้ไม่ย ากเลย (แต่ก็อีกนั่นแหละที่หลายๆ คนมักจะไม่ทำอีกเช่นกัน)
6. หัดอธิบายให้คนอื่นฟัง
หนึ่งในสิ่งที่ผมมักจะบอกหลายๆ คนให้เริ่มฝึก คือการอธิบายสิ่งที่ตัวเอารู้ให้คนอื่นได้เข้าใจ ผมเองก็เรียนรุ้เรื่องนี้จากอาจารย์ผมเหมือนกันที่มักจะเตือนผมเสมอว่า
ควรรู้จักถ่ายทอดและนำเสนอสิ่งที่ตัวเองรู้ให้คนอื่นเข้าใจให้ได้ เพราะถ้าทำได้อย่ างนั้นแล้ว เราก็จะมีความเข้าใจที่มากขึ้นไปอีก และในทางกลับกัน ถ้าคุณยังไม่สามารถอธิบายให้คนอื่นเข้าใจได้ก็แปลได้ว่ายังมีบางอย่ างที่คุณยังคิดไม่ถี่ถ้วนหรือยังเข้าใจได้ไม่เพียงพอ
7. ลองสุ่มทำอะไรใหม่ๆ เสียบ้ าง
การทำอะไรเหมือนๆ เดิมอาจจะมองว่าเป็นการฝึกให้เชี่ยวชาญได้อยู่ แต่ก็ใช่ว่าคุณจะต้องทำอะไรเหมือนๆ เดิมไปตลอด บางทีการลองไปทำอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ อาจจะทำให้คุณได้ต่อยอดความคิดเดิมให้ดีขึ้นไปอีกได้
และนั่นก็คืออีกขั้นของการพัฒนาความฉลาดนั่นแหละ ฉะนั้นแล้ว นอกจากจะทุ่มเทฝึกฝนกับอะไรบางอย่ างแล้ว อย่ าลืมหาเวลาไปลองประสบการณ์ใหม่ๆ หรือลองเรียนรู้สิ่งอื่นๆ เพิ่มเติม เพราะคุณอาจจะนำสิ่งเหล่านั้นมาต่อเป็นจิ๊กซอร์ที่สมบูรณ์ในอนาคตก็ได้
8. เรียนภาษาใหม่
เรื่องนี้อาจจะฟังเป็นเรื่องย าก แต่ที่เราพูดถึงกันนั้นไม่ได้บอกว่าคุณจะต้องพูดกันคล่องปร่อเสียเมื่อไร การเรียนรู้ภาษาที่ว่าอาจจะเป็นเพียงเบสิคพื้นฐานประเภทให้คุณฟังบางอย่ างออก รู้ศัพท์พื้นฐานบ้ างอะไรบ้ าง อย่ างน้อยแล้วมันก็คือการบริหารส ม อ ง ที่ดี แถมยังมีประโยชน์กับคุณอีกต่างหาก
9. พักบ้ างอะไรบ้ าง
หลังจากที่คุณทุ่มฝึกส ม อ ง ของคุณให้มีรอยหยักเพิ่มขึ้นอยู่เสมอแล้ว คุณก็ต้องไม่ลืมให้มันพักผ่ อ นด้วยเช่นกัน การพักผ่ อ นเช่นการนอนหลับให้เพียงพอก็ถูกพิสูจน์
มาแล้วว่ามีส่วนทำให้คุณฉลาดขึ้นและใช้ส ม อ ง ได้อย่ างมีประสิทธิภาพด้วย ถ้าเนื่อยหรือล้า การพักสักนิดก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดี เช่นเดียวกับการผ่ อ นคลายด้วยวิธีต่างๆ ไม่ว่าจะเข้าสปา ฟังเพลง ดูหนัง หรือทำอะไรที่ให้ส ม อ ง คุณหลุดจากเรื่องเ ค รี ย ดๆ บ้ าง
ที่มา : nuttaputch
