Home ข้อคิดสอนใจ 9 วิธีเป็นหัวหน้า ที่ลูกน้องเคารพ

9 วิธีเป็นหัวหน้า ที่ลูกน้องเคารพ

3 second read
0
0
182

9 เทคนิคมัดใจลูกน้องที่เจ้านายควรรู้ไว้ … เจ้านายแบบนี้สิ ลูกน้องรัก ต า ย เลย !

ไม่มีใครอยากเปลี่ยนงานบ่อยโดยไม่มีเหตุจำเป็น ไม่ว่าจะเป็นคนในแผนกใดของ

องค์กรก็ตาม ถ้าเป็นไปได้ใครก็อยากอยู่กันแบบครอบครัว มีอะไรก็ช่วยเหลือเกื้อกูล

กันเรื่อย ๆ แต่เพราะแต่ละคนมีที่มาไม่เหมือนกัน นิสัยใจคอไม่เหมือนกันนี่สิ

การปรับตัวเลยยากกันสักหน่อย บ่อยครั้งตำแหน่งสูง ๆ ก็ต้องใช้อำนาจลงมาจัดการบ้าง

เพื่อให้แต่ละคนทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี บางครั้งก็ไม่อยากจะทำเลยเพราะดูเหมือน

เป็นการฝืนใจกัน แต่เพื่อให้งานเดินต่อไป จะทำไงได้?ไม่ใช่เรื่องที่ผิด หากเจ้านายจะ

ใช้อำนาจเพื่อควบคุมลูกน้อง แต่ก็ต้องบาลานซ์ความเหมาะสมในแต่ละสถานการณ์ด้วย

อย่าลืมว่าเราทำงานกับคน ไม่ใช่เครื่องจักรที่ป้อนคำสั่งแล้วเป็นอันจบ เราต้องมีการ ซื้ อ

ใจกันเพื่ออยู่ด้วยกันไปนาน ๆหัวหน้าที่ดีคืออะไร? เจ้านายที่ดีเป็นแบบไหน? ในแต่ละคน

คงมีอุดมคติที่ไม่เหมือนกัน แต่โดยรวมแล้วใครก็อยากได้เจ้านายในแบบนี้

1. วันหยุด-วันลา ย า ว : บอกมาได้เลยว่าอยากได้ช่วงไหน จะให้ลาได้เต็มที่ แต่ต้อง

บอกกันล่วงหน้านะ เพื่อจะได้บริหารงาน บริหารคนได้ถูกระหว่างที่คุณไม่อยู่ เราเข้าใจดี

ว่าคุณก็ต้องการผ่อนคลายบ้าง ร่ า ง ก า ย คนเรามันก็ต้องมีล้ามีเหนื่อยสะสมจากการทำงาน

มาเป็นปีบ้าง

2. ตรงไปตรงมา ผลักดันลูกน้องที่มีศักยภาพ : คุณไม่ต้องเลียแข้งเลีย ประจบประแจง

เราเพื่อให้ได้มาซึ่งความก้าวหน้า เราดูออกว่ามันเฟค เอาใจแลกใจกันดีกว่า ตรงไปตรงมา

คุณอยากได้อะไรบอกเรา คุณคิดว่าเราบกพร่องตรงไหนบอกมา ถ้าคุณทำงานเก่ง ฉายแวว

ให้เราเห็น เราจะช่วยผลักดันคุณให้เก่งไปอีก อาจจะส่งไปเทรนด์งานต่างประเทศ หรือ

ฝึกสกิลอื่นเพิ่มก็ว่ากันไป

3. ให้เครดิตลูกน้อง : ถ้ามันเป็นฝีมือคุณจริง ๆ ไม่ได้ลอกใครมา เราพร้อมจะขอบใจคุณ

ถ้าคุณทำงานมาเป็นทีมก็บอกว่ามันเป็นผลงานของ “เรา” บอกกันตามตรง อย่าดิสเครดิตกัน

การทำงานมันก็ต้องมีคละกันทำเดี่ยวทำเป็นทีมกันบ้าง เราดูออก

4. เรียกมาคุย : ปัญหาไหนที่เราเห็นก่อน เราจะไม่รอให้คุณมาฟ้องก่อน เราจะเรียกมา

คุยเลยว่าคุณโอเคมั้ย? ไหวป่าว? มีปัญหาอะไรมั้ย? เคลียร์กันตรง ๆ แมน ๆ ไม่นอกประเด็น

5. ใครจะใช้เด็กเรา : กรุณามาคุยกับเราก่อน เราไม่อยากให้ลูกน้องเราเหนื่อยเพิ่ม

โดยไม่จำเป็น เพราะแต่ละคนย่อมมีหน้าที่เป็นของตัวเองอยู่แล้ว

6. เราพร้อมจะเถียงและออกหน้าแทนลูกน้อง : หากพิสูจน์ได้ว่ามันไม่แฟร์กับ

พวกเขาจริง ๆ พร้อมจะงัดหลักฐานมาสู้กันให้เป็นประจักษ์ทุกสายตา แต่ถ้าลูกน้อง

เราผิดจริง เราก็พร้อมจะตักเตือน ถามที่มาที่ไป ให้ขอโทษอีกฝ่ายซะ

7. เราพร้อมจะลุยงานกับลูกน้อง : การเป็นหัวหน้า ไม่ได้แปลว่าต้องรับผิดชอบ

เฉพาะงานระดับสูงแต่เพียงอย่างเดียว งานเล็กน้อย งานกรรมกรก็ต้องทำได้อย่าง

ไม่มีข้อแม้ ไม่จำเป็นต้องรอใครก่อนเมื่อมีโอกาสทำได้ คิดซะว่าช่วย ๆ กันไป หรือ

ใครมีปัญหาติดขัดที่ตรงไหน ก็เดินเข้ามาขอคำปรึกษาได้เลย อย่าลุยคนเดียวโดย

ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย ไม่อย่างนั้นคุณจะไม่มีทางได้พัฒนาฝีมือ

8. กระจายงาน : ให้ทุกคนได้ทำงานตามศักยภาพแบบพอดี ไม่ให้ใครทำงานหนักเกินไป

overloadมากไป ทุกงานต้องชัดเจน เท่าเทียม และต้องมีการกำหนดไว้ด้วยว่าจะให้ใคร

back up ใคร ในกรณีที่อีก ค น ป่ ว ย ลา มี เ ห ตุ ฉุ ก เ ฉิ น ที่ไม่สามารถทำงานได้

9. อย่างน้อยมีช่วงเวลาสานสัมพันธ์กัน เช่น ทำ อ า ห า ร มาเลี้ยงกัน, ชวนกันไป

แฮงค์เอาท์หลังเลิกงาน ทุกคนจะได้สนิทกันมากขึ้น รู้สึกว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน

อยากอยู่กับทีมไปนาน ๆ เวลาทำงานจะได้กล้าพูดกล้าคุยกันได้มากขึ้น

ใจเขา ใจเรา เราก็มีหัวใจ คนอื่นก็มีหัวใจ เราเหนื่อยเป็น คนอื่นก็เหนื่อยเป็น

มองเพื่อนร่วมงานให้เหมือนครอบครัวเดียวกันสิ !

นี่แหละคือการเอาใจใส่ที่ไม่ได้ยากอะไรเลย

ขอขอบคุณ jeeb

Load More Related Articles
Load More By jingjai
Load More In ข้อคิดสอนใจ

Check Also

วิธีบริหารเงิน ให้มีกินมีใช้ “ไม่เป็นหนี้”

การออมที่ดี คือ การออมอย่างมีความสุข ไม่ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างลำบากแต่การใช้เงินอย่างไร ให้…