Home ข้อคิดสอนใจ 8 อย่างที่ต้องรีบทำ ถ้าเกิดคุณ..ต้องตกงานช่วงวัยกลางคน

8 อย่างที่ต้องรีบทำ ถ้าเกิดคุณ..ต้องตกงานช่วงวัยกลางคน

0 second read
0
0
285

ด้วยสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ หลายคนคงจะหวั่นกับ ค ว า ม เ สี่ ย ง ที่จะตกงาน หรือถูกเลิกจ้างเป็นอย่างมาก หรือแม้แต่บางคนที่ตัดสินใจลาออกจากเองเพราะรู้สึกไม่มีความสุขกับการทำงาน

แต่ก็ต้องมานั่งกลุ้มใจทีหลัง กับค่าใช้จ่ายและภาระหนี้สินที่แบกไว้ วันนี้เราจะมาบอกสิ่งที่ต้องทำ หลังจากออกจากงาน หรือถูกเลิกจ้าง ว่าควรทำทำอย่างไรต่อไป

1. ตรวจสอบสภาพการเงินของคุณ

เมื่ออยู่ในสถานะว่างงาน การตรวจสอบสภาพการเงินของคุณในปัจจุบันจึงเป็นสิ่งสำคัญ คุณต้องคำนวณถึงรายจ่ายและภาระหนี้สินที่ต้องจ่ายทุกเดือน และมองหารายได้ที่ยังเหลืออยู่ว่าเพียงพอหรือไม่ อย่างไร

เพื่อที่คุณจะได้เตรียมตัวและรับมือกับสถานการณ์การเงินของคุณได้ถูกต้อง รายจ่ายไหนที่ไม่จำเป็น ก็ให้เอาออกไป เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย ให้สมดุลกับการเงินปัจจุบัน

2. ติดต่อประกันสังคม

หากคุณว่างงาน สิ่งแรกที่จะต้องทำคือ การจัดการเรื่องประกันสังคมให้เรียบร้อย ไม่ว่าจะว่างงาน จากการลาออกเองหรือถูกไล่ออก ต้องรีบไปติดต่อสำนักงานประกันสังคมเพื่อ รั ก ษ า สิ ท ธิ และประโยชน์ที่เราพึงจะได้รับ

3. เคลียร์เงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

สำหรับเรื่องเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หากคุณเป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ คุณก็จะได้ประโยชน์จากเงินสะสม โดยสามารถรับเป็นเงินก้อนได้เวลาออกจากงานก็จะมีเงินก้อนไว้สำรองเลี้ยงชีพ

แต่หากคุณยังไม่ได้จำเป็นที่จะใช้เงินก้อนนี้ ก็อาจจะคงเงินไว้ในระบบก่อน เพื่อรอ โ อ น ย้ายไปยังกองทุนของบริษัทใหม่ในอนาคตแต่หากคุณออกจากกองทุนโดยที่ยังไม่เกษียณอายุ

คุณอาจจะเสี ยผลประโยชน์จากเงินสมทบที่จะได้รับไม่เต็มจำนวนดังนั้นควรศึกษาเงื่อนไขต่างๆอย่างละเอียด เพื่อไม่ให้เสี ยเปรียบผลประโยชน์ที่คุณควรจะได้รับ

4. เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้เงิน

หลังจากตรวจสอบการเงินของคุณเรียบร้อยแล้ว คุณจะทราบถึงทิศทางการเงินของคุณ ระหว่างรายได้กับรายจ่าย แน่นอนว่ารายได้ของคุณลดลงดังนั้นสิ่งที่ต้องทำคือ

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้เงินอย่างเร่งด่วน ต้องลดรายจ่ายที่ฟุ่มเฟือยออกไปให้หมด และจ่ายให้น้อยลงสำหรับสิ่งที่จำเป็นในส่วนของค่าใช้จ่าย หรือภาระหนี้สินที่คุณต้องจ่ายนั้น

ให้เลือกลดเป็นอันดับสุดท้ายเพราะมันจะมีผลกระทบต่อเครดิตและความน่าเชื่อถือของคุณ เป็นการเรียงลำดับความสำคัญในการเลือกที่จะใช้จ่ายนั่นเอง

5. มองหางานใหม่

หลายคนเมื่อว่างงาน ก็มักจะรีบเร่งหางานใหม่ทันที โดยที่ไม่ได้มองถึงความชอบของงานจริงๆ กลายเป็นว่าทำได้ไม่นาน ก็ต้องลาออกมาหางานใหม่อีกเหมือนเดิมแน่นอนว่าการหางานที่ชอบ ทำแล้วมีความสุข

กับเพื่อนร่วมงานและสภาพแวดล้อมที่ทำงานดีๆ รวมถึงผลตอบแทนที่น่าพอใจนั้น ห า ย า ก ยิ่งกว่าการงมเข็มในมหาสมุทรการจะทำงานและอยู่กับมันให้ได้นานๆก็ขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัยหลัก คือ เนื้องหาของงาน รายได้

และผู้ร่วมงาน หากใครมีความพอใจต่อสิ่งเหล่านี้ได้ 2 ใน 3 อย่าง ก็จะสามารถทำงานนั้นได้อย่าง ย า ว น า น และไม่ต้องเปลี่ยนงานบ่อยๆดังนั้นเราควรที่จะมองหาสิ่งที่ตรงกับความต้องการของตัวเองและสามารถอยู่กับมันได้นานๆ โดยที่ไม่ต้องกลับมาตกอยู่ในสถานะว่างงานอีก

6. เก็บ รั ก ษ า เงินก้อน

หากว่างงาน และได้เงินก้อน อย่าเพิ่งรีบร้อนใช้เงินเงินก้อนนี้ หรือแม้แต่จะนำไปปลดหนี้ เพื่อหวังลดภาระหนี้สินวิธีที่ดีที่สุดที่จะจัดการกับเงินก้อนนี้อย่างชาญฉลาด คือการนำเงินก้อนนี้มาแบ่งสรรปันส่วน จัดสรรเงินเพื่อให้เพียงพอต่อการดำรงชีพ

และการจ่ายคืนหนี้ได้ตามกำหนด ไว้ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ค่าบ้าน ค่างวดรถ ค่า บั ต ร เ ค ร ดิ ต และอื่นๆคุณควรที่จะกันเงินสำรองนี้ รวมถึงเงินส่วนอื่นๆ

ที่จะทำให้คุณสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติไปอีก 6 เดือนเป็นอย่างน้อยเพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะสามารถอยู่ได้อย่างปกติ จนกว่าจะหางานใหม่ทำได้

7. ทำงานฟรีแลนซ์

หลายคนมีความฝันที่ อ ย า ก จะทำงานอิสระ ไม่ต้องไปเป็นลูกน้องรับคำสั่งจากใคร หรือคอยรองรับอารมณ์ใคร แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะเป็นได้อย่างที่หวังด้วยเหตุผลเรื่องความมั่นคง และความแน่นอนของรายได้

จึงทำให้หลายคนไม่กล้าที่จะออกมาใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการดังนั้น เวลาว่างงาน จึงเป็นโอกาสสำคัญที่จะทำให้เราได้ลองทำในสิ่งที่ อ ย า ก จะทำ

และยังเป็นการหารายได้ให้ตัวเองโดยอาจจะเริ่มจากรับงานฟรีแลนซ์เล็กๆที่สามารถทำคนเดียวได้ และเมื่อพบลู่ทางจะได้สามารถนำมาเป็นอาชีพหลักที่สร้างรายได้หลักให้กับเรา โดยที่ไม่ต้องกลับไปเป็นพนังงานเงินเดือนอีกต่อไป

8. พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ

ถึงแม้ว่าเรากำลังตกอยู่ในสถานะคนว่างงาน ก็ใช่ว่าเราจะต้องปล่อยเวลาทิ้งไปให้เปล่าประโยชน์ หรือตระเวนหาแต่งานใหม่ จนลืมไปว่าสิ่งสำคัญอีกอย่างในการที่จะเริ่มต้นการทำงานใหม่

คือ ศักยภาพที่สูงขึ้นของเราเองเราควรมีการพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ โดยเฉพาะเรื่องของภาษาต่างประเทศ หรือทักษะการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการทำงานในทุกสายงานปัจจุบันไปแล้วนอกจากนี้

การพัฒนาศักยภาพตัวเองในด้านวิชาชีพตามความต้องการในสายงานที่จะทำ ก็จำเป็นและมีผลต่อการพิจารณารับเราเข้าทำงานเป็นอย่างมาก เราจึงไม่ควรปล่อยช่วงเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ ใช้เวลาที่ว่างงานนี้แหละ มองหาโอกาสพัฒนาตัวเองเพื่อเตรียมพร้อมกับการทำงานในอนาคต

ที่มา : คุณมนตรี ศรีวงษ์

Load More Related Articles
Load More By adminjing
Load More In ข้อคิดสอนใจ

Check Also

8 วิธีทำให้คนนับถือคุณ หลักๆ อยู่ที่การวางตัว

ไม่ใช่แค่กลุ่มคนทำงาน แต่พวกเราทุกคนต่างต้องอยู่ในสังคมร่วมกับผู้อื่นไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ทุ…