Home ข้อคิดสอนใจ 8 ข้อที่ควรคิดให้ได้ก่อนอายุ 40 ปี ชีวิตจะไม่ลำบาก

8 ข้อที่ควรคิดให้ได้ก่อนอายุ 40 ปี ชีวิตจะไม่ลำบาก

15 second read
0
0
48

1.เป็นสาวกเทคโนโลยี

ถ้าใครเป็นแฟนพันธุ์แท้เทคโนโลยีแล้วล่ะก็ จะรู้เลยว่าไม่มีวันหยุดสำหรับอุปกรณ์ต่างๆ ยิ่งเราวิ่งตามเท่าไหร่ เงินก็จะยิ่งไหลออกจากกระเป๋ามากขึ้นเท่านั้น และนั่นก็ทำให้รายได้ที่มากขึ้น “ไม่เคยพอ”

ต่อการตามเทรนด์เหล่านี้ ไม่ผิดถ้าจะ ซื้ อ โทรศัพท์เครื่องใหม่ ไม่แปลกถ้าจะมีอุปกรณ์คู่กาย ไม่ใช่เรื่องเกินจำเป็น หากจะมีอุปกรณ์พกพามากกว่า 1 ชิ้น เพียงแต่เราต้องใช้ประโยชน์จากสิ่งที่เรา ซื้ อ ให้เต็มที่ และคุ้มค่า คุ้มราคาจริง ๆ

2.ไม่เคยจดเรื่อง “เงิน” ของตัวเอง

หลายคนไม่เคยแม้แต่จะจดเรื่อง “เงิน” ของตัวเอง ทั้งที่เป็นเรื่องที่ดีกับตัวเองแท้ ๆ เพียงเพราะคิดว่าเรารู้อยู่แล้วว่า รับ จ่าย ออม เท่าไหร่ จริงอยู่ที่เราอาจรู้ความเคลื่อนไหวเงินที่เข้า-ออกในกระเป๋า

แต่นั่นอาจเป็นแค่ก้อนใหญ่ ๆ เท่านั้น (เงินเดือน-หนี้ บั ต ร เ ค ร ดิ ต (รวม) – หนี้บ้านต่อเดือน ฯลฯ) แต่รายจ่ายจิปาถะ กาแฟ ขนม เสื้อผ้า อุปกรณ์ต่างๆ หรือแม้แต่ค่าใช้จ่ายปลีกย่อย

ก่อนจะรวมเป็นหนี้ บั ต ร เ ค ร ดิ ต ก้อนใหญ่ หลายคนไม่เคยแม้แต่จะสนใจ และนั่นก็เป็น “รูรั่ว” เล็ก ๆ แต่สร้างผลกระทบยิ่งใหญ่ต่อสถานะการเงิน โดยที่เราไม่รู้ตัว

3.แยกไม่ออกว่า “จำเป็น” หรือ “ต้องการ”

วิธีการแยกง่ายที่สุดก็คือ ต้องรู้ว่าสิ่งไหนต้องมี (จำเป็น) ขาดไปแล้วจะใช้ชีวิตไม่ได้ อย่างเช่น ปัจจัย 4 หรือสิ่งไหนมีก็ดี ไม่มีก็ได้ (ต้องการ) ขาดไปแล้วยังใช้ชีวิตได้ แต่ถ้ามีแล้วชีวิตจะดีขึ้น

เช่น อ า ห า ร จานหรู เสื้อผ้า แ บ ร น ด์ เนม หรือสิ่งไหนไม่จำเป็นต้องมี แต่ถ้าแยกไม่ได้และเอาอารมณ์เป็นที่ตั้ง อาจเป็นเหยื่อภาพลวงของ “ความจำเป็น” มันจะทำให้เรามีแต่จ่ายกับจ่าย ไม่มีที่สิ้นสุด

4.ใช้เงินเพิ่มขึ้น

ไม่ผิดหรอกถ้าคิดว่า “อยากมีชีวิตที่ดีขึ้น” แต่อย่าลืมว่าชีวิตที่ดีขึ้น ไม่จำเป็นต้องมากับรายจ่ายที่มากขึ้นเพียงอย่างเดียว ลองใช้ชีวิตให้ง่ายขึ้น เลิกเป็นนักสะสม แค่นี้ก็ทำให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้นได้เพราะถ้าได้เงินเดือนเพิ่ม

แล้วใช้จ่ายเพิ่ม (มากกว่าเงินเดือนที่เพิ่ม) สุดท้ายอาจได้แค่ “อยาก” มีชีวิตที่ดีขึ้น เพราะพฤติกรรมมือเติบ อาจก่อให้เกิดปัญหาตามมา โดยเฉพาะหนี้สินที่พอกพูนแบบไม่ทันตั้งตัว

5.ไม่สนใจ “หนี้”

น้อยคนนักที่จะ “ไม่มีหนี้” แต่คนมีหนี้จำนวนมาก กลับให้ความสำคัญกับการ “ชำระหนี้” น้อยมาก หรือบางคนไม่ให้ความสำคัญกับการจัดการหนี้เลย และนั่นก็ย่อมทำให้เขาเหล่านั้นตกอยู่ในวังวนของ “หนี้”

อย่างไม่มีทางหลุดพ้นได้ เพราะเมื่อได้เงินมา ก็มัวแต่สนุกกับการใช้จ่าย กระทั่งดอกเบี้ย (หนี้) ทบต้นไปเรื่อย ๆ ในทางตรงกันข้าม คนที่อยากรวยจะ “กลัวหนี้” มาก พวกเขาจึงให้ความสำคัญกับ “หนี้” เป็นอันดับแรก เมื่อมีรายได้เข้ามาก็จะรีบชำระหนี้ก่อนสิ่งอื่นใด จนกระทั่งเป็นไท ปลดระวางหนี้ได้สำเร็จ

6.ไม่เคยตั้ง “งบประมาณ” ในการใช้เงิน

บริษัทก็ยังมีงบการเงิน ทำโปรเจคยังต้องมีประมาณการณ์ค่าใช้จ่าย เรื่องการเงินส่วนบุคคลก็เช่นกัน หลายคนไม่เคยตั้ง “งบประมาณ” การใช้เงินเลย จะช้อปปิ้งปีใหม่ จะเที่ยว จะ ซื้ อ เสื้อผ้า ก็จัดเต็ม

และสุดท้ายก็เกินความจำเป็น เกินกำลังทรัพย์ของตัวเอง และกลายเป็น “หนี้” ในท้ายที่สุด วิธีการที่ง่ายกว่าก็คือ “ตั้งงบประมาณ” การใช้เงินทุกครั้ง

เช่น จะ ซื้ อ ของวาเลนไทน์ให้คนรักไม่เกินกี่บาท, จะไปเที่ยวทริปกลางปี งบประมาณรวมเท่าไหร่ หลังจากนั้นยึดมั่นกับสิ่งที่ตั้งไว้ ทำตามแผนไม่ใช้เกินงบ รับรองว่าเราจะตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปได้อย่างง่ายดาย

7.ไม่สนใจ “อนาคต”

จะเรียกว่าไม่คิดเผื่อหรือไม่รักตัวเองก็ตามแต่ การไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องอนาคตถือว่า ชีวิตคุณมีความเสี่ยงมาก โดยเฉพาะในเรื่องของการเงินหลายคนสนใจแต่ความสุขในวันนี้ แต่ถ้ายังประมาท จะเข้าข่าย รักสนุกจะทุกข์ขนัด ดังนั้น ควรวางแผนการเงินสำหรับอนาคตไว้ใช้ยาม ฉุ ก เ ฉิ น กันด้วยนะคะ

8.คิดว่า “เร็วเกินไปที่จะออมเงิน”

จริงๆ แล้วเรื่องควรปลูปฝังนิสัยรักการออมตั้งแต่ในช่วงวัยเด็กจะเป็นการดีมาก เพราะถือเป็นการสร้างวินัยที่จะไม่ทำให้คุณลำบากในภายหลัง ที่สำคัญเลิกผลัดวันประกันพรุ่ง

หลังจากนั้นก็สร้างวินัยให้กับตนเอง ด้วยการออมต่อเนื่องสม่ำเสมอ แม้จะไม่อยากออมก็ตาม เพราะวินัย คือการทำสิ่งที่ “ต้องทำ” แม้จะ “ไม่อยากทำ” ก็ตาม

ที่มา : c h e e c h o n g r u a y. s m a r t s m e

Load More Related Articles
Load More By adminjing
Load More In ข้อคิดสอนใจ

Check Also

8 วิธีทำให้คนนับถือคุณ หลักๆ อยู่ที่การวางตัว

ไม่ใช่แค่กลุ่มคนทำงาน แต่พวกเราทุกคนต่างต้องอยู่ในสังคมร่วมกับผู้อื่นไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ทุ…