Home ข้อคิดสอนใจ 7 สิ่งที่บอกว่า ตอนนี้คุณได้เจอเนื้อคู่แล้ว

7 สิ่งที่บอกว่า ตอนนี้คุณได้เจอเนื้อคู่แล้ว

0 second read
0
0
93

คุณเคยได้ยินประโยคที่คุ้นหูของคนรุ่นปู่ย่ าต า ย ายมั้ย? “คู่กันแล้ว คงไม่แคล้วกันหรอก”

เพราะคนเก่าแก่เชื่อว่าหากใครที่เป็นเนื้อคู่กันนั้น มักมีดวงและจิตสัมพันธ์กันอยู่ ไม่ว่าจะภพไหนชาติไหน

ก็ย่อมกลับมาเป็นคู่ครองรักกันเสมอ และวันนี้รักยิ้ม จะมาเปิดเผยความเชื่อที่ว่า

คุณและเขาอาจเป็นเนื้อคู่กันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน หรือเรียกง่าย ๆ ว่าบุพเพสันนิวาส ทำให้ได้กลับมาพบกันอีกครั้ง

1. แม้พบเจอกันครั้งแรก คุณและเขากลับสนิทสนมกันได้เร็ว เพราะเกิดจาก

ความรู้สึกภายในที่ผูกพันกันมานานทำให้คุณทั้งคู่รู้สึกสุขใจตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบ

2. คุณและเขามักมีความคิดที่ค้ลายกัน ประหนึ่งว่าเป็นคน ๆ เดียวกัน

มีใจตรงกันอย่ างบอกไม่ถูกในลักษณะที่มีความคิดคล้ายกัน ใช่การพย าย ามเลียนแบบจะเป็นเหมือนอีกคน

3. คุณและเขาเข้ากันได้ดี เป็นส่วนที่เติมเต็มซึ่งกันและกัน เปรียบเสมือนแจกันกับดอกไม้เช่น

คนหนึ่งมักใจร้อนเป็นฟืนไฟ แต่อีกคนกลับกลายเป็นคนใจเย็นนิ่งดั่งสายน้ำ

4. แม้คุณและเขาจะมีปากเสียงหรือทะเลาะกันคราวใด ก็ไม่มีทางทิ้งกันไป

ไหนพ้นสุดท้ายแล้วก็ปรับความคิดให้เข้าใจกันได้ดีดังเดิม

5. ระยะทางไม่สามารถทำอะไรความรักของคุณทั้งคู่ได้ หรือแม้มีอุปสรรค

ใดมาขวางกั้นคุณและเขาก็อุ่นใจทุกครั้งที่นึกถึงกัน ราวกับว่าจิตใจผูกพันกันมากกว่าร่างกาย

6. คุณและเขามีความสุขมากกว่าความทุกข์ที่ร่วมกัน บางครั้งไม่ต้องพูดเปร่งวาจา

ก็สามารถรู้ได้ว่าอีกฝ่ายคิดอย่ างไร เป็นสิ่งที่บอกได้ว่าคุณและเขาใจตรงกันมานานแล้ว

7. คุณและเขามักจะชวนกันเข้าวัดทำบุญ หรือทำสิ่งดี ๆ ร่วมกันเป็นผลบุญแต่ปางก่อนที่ทำให้ได้ย้อนกลับมาพบกันอีกครั้ง

แต่หากความรักครั้งนี้ของคุณ อาจจะไม่ใช้เนื้อคู่กันมาก่อนในชาติที่แล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่หรือสิ่งที่จะมาขวางความรักของคุณได้ขอ

ให้อยู่ด้วยกันอย่ างเข้าอกเข้าใจ และหมั่นทำความดีอยู่คู่กันไปแบบนี้ ก็ถือเป็นความรักที่ดีแล้ว

ศีลเสมอกัน วิธีดูเนื้อคู่ ที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้การเลือกเนื้อคู่จึงแยกออกเป็น 4 ข้อหลัก

1. ศรัทธาเสมอกัน

หากเรามีความเชื่อและศรัทธาในสิ่งเดียวกัน เราก็จะมีมุมมองในเรื่องเดียวกัน ข้อดีหลัก ๆ ก็คือ เราจะไม่ทะเลาะเบาะแว้งและอย าก

เอาชนะคะคานกันและกัน ไม่ถกเถียงเพื่อให้ความเชื่อของเราชนะอีกฝ่าย ทำให้ครองคู่กันอย่ างอยู่เย็นเป็นสุข นอกจากเรื่องศรัทธา

เสมอกัน อีกอย่ างที่สำคัญ คือความชอบและรสนิยม หากตรงกันแล้ว ก็จะลดความขัดแย้ง ลดเรื่องที่ต้องทะเลาะในแต่ละวันไปได้

พระพุทธองค์ได้ชี้ทางสว่างให้กับคนที่จะมาเป็นคู่ครองกัน สองคนนั้นควรต้องมีความเชื่อเสมอกันและไปในทิศทางเดียวกัน

เช่น เชื่อในหลักศาสนาเดียวกัน เพราะถ้าไม่เชื่ออะไรที่เหมือนกัน ก็จะอยู่ด้วยกันแบบชีวิตไม่สงบสุขแน่นอน

ทั้งนี้ หากเป็นเนื้อคู่ประเภทคู่เ ว รคู่ก ร ร มกันแล้ว ทั้งคู่มาที่มาพบกันก็เพราะมีก ร ร มลิขิต

วิบากก ร ร มได้กำหนดไว้แล้ว มีเป้าหมายให้คนทั้งคู่มาชดใช้วิบากก ร ร มของคนทั้งคู่ที่มีต่อกันให้หมดสิ้นกันไป

ซึ่งจะนานหรือเร็วก็ขึ้นอยู่กับวิบากก ร ร มนั้นจะหนักหรือจะเบา เมื่อหมดแล้วก็ต้องแยกย้ายกันไป

หรือคู่ที่เลิกรากัน เปลี่ยนคู่บ่อย ๆก็เป็นเพราะอาจจะเป็นเนื้อคู่กันในปางก่อนจริง

มาเกื้อกูลกันบ้างในชาติปัจจุบันจริงแต่เมื่อบุญที่ทำร่วมกันมันมีน้อย

ใช้บุญกันไปจนหมดแล้วไม่มีทำเพิ่ม ถึงเวลาก็ต้องแยกย้ายกันไป

2. มีศีลเสมอกัน

ศีลเสมอกัน เป็นสิ่งที่คนพูดถึงกันบ่อย ๆ เวลาจะมองหาคู่ครองต้องให้มีศีลเสมอกัน อธิบายง่าย ๆ คือ คนที่รักษาศีล

รู้จักยับยั้งชั่งใจพากันไปสู่สิ่งที่ดีงาม ก็จะทำให้ชีวิตราบรื่น แต่หากสองคนนั้นมีศีลไม่เสมอกัน ก็เป็นเรื่องย ากที่จะอยู่ด้วยกันได้

ในเรื่องศีลเสมอกัน ดูง่าย ๆ คนที่ชอบทำบุญ รักษาศีล ถ้าเจอคู่ครองที่ไม่รักษาศีล หรือศีลน้อยกว่า เช่น ชอบก า ร พ นั น ตกเย็นคว้า

ขวดเหล้า หรือทำอาชีพที่ไปฆ่ าสัตว์ตัดชีวิต ก็ย่อมไม่ฟังในสิ่งที่เราพูด เราตักเตือน ทำให้มีเรื่องขัดข้องหมองใจกันง่ายหากเราเจอ

คู่ที่มีศีลเสมอกันพากันเข้าวัด ทำบุญ ทำแต่ความดี ชีวิตย่อมเจริญรุ่งเรืองไปด้วยกัน ไม่มีใครฉุดดึงชีวิตอีกฝ่ายให้ต่ำลง

3. จาคะเสมอกัน

คำว่า จาคะ มีความหมายว่า การสละสิ่งของและความสุขส่วนตัวเพื่อประโยชน์สุขแก่ผู้อื่น

หมายรวมถึงการสละละทิ้งกิเลสละความโลภ ความเห็นแก่ตัว ความตระหนี่ ความใจแคบ

และการเลิกละนิสัยตลอดถึงความประพฤติที่ไม่ดี ที่ทำให้เกิดความเสียหาย

จะเห็นได้ว่า คนที่มีจาคะย่อมเสียสละเพื่อส่วนรวมได้ มีความเอื้ออาทรต่อความทุกข์ย าก คอยให้ความช่วยเหลือผู้อื่น

ไม่เห็นแก่ตัวหากคู่ของเรามีจาคะไม่เสมอกัน คงเป็นเรื่องย ากที่จะทำความเข้าใจว่าเพราะอะไรถึงต้องไปช่วยเหลือคนอื่น

คงจะดีไม่น้อย หากเราเลือกครองคู่กับคนที่มีจาคะเสมอกัน เป็นคนใจกว้าง ชอบทำบุญ สามารถช่วยคนอื่น

โดยไม่หวังผลตอบแทนได้เหมือน ๆ กัน เมื่อเรารักจะเป็นผู้ให้ก็จะอิ่มอกอิ่มใจที่ได้ให้ แล้วยังสัมผัสถึงความสุขใจ

เมื่อมองเห็นผู้รับยิ้มแย้ม พอใจ ทำให้ความสุขของผู้ให้ทวีเพิ่มขึ้นอีกด้วย

4. ปัญญาเสมอกัน

ปัญญาเสมอกันคืออย่ างไร พระราชพรหมย านหรือหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

พระอริยสงฆ์องค์หนึ่งของเราครั้งหนึ่งท่านได้ตอบคำถามให้กับลูกศิษย์ เมื่อลูกศิษย์คนนั้นถามท่านว่า ปัญญาคืออะไร

ท่านจึงได้เมตตาตอบไปว่า ปัญญา ความหมายทั่วไปแปลว่าความรู้ที่เกิดขึ้นจากการพินิจพิจารณาแปลว่าความเฉลียวฉลาดก็ได้

มิใช่รู้อย่ างเดียวต้องนำเอาความรู้ที่ได้นั้นมาพิจารณาด้วย มิใช่ฉลาดอย่ างเดียว ต้องมีเฉลียวใจด้วยพระพุทธองค์ตรัสไว้ในเรื่อง

ของการที่จะมาเป็นคู่ครองกัน ต้องมีปัญญาเสมอกัน ถ้าใกล้เคียงกันมากก็จะยิ่งมีความสุข ความเจริญ

ทำอะไรก็ประสบผลสำเร็จ เนื่องด้วยความรู้ความเชี่ยวชาญที่ทั้งคู่มีได้เกื้อหนุนกันและกันไม่เพียงแต่ศีลเสมอกัน

การมีศรัทธาเสมอกัน จาคะเสมอกัน และปัญญาเสมอกัน ก็จะช่วยนำพาให้คู่ครองคิดเห็นในเรื่องเดียวกัน

มีความเชื่อในแบบเดียวกัน ครองคู่กันอย่ างมีความสุข ย ากต่อการทะเลาะ

เบาะแว้งวิธีดูเนื้อคู่และการเลือกคู่ครองที่เหมาะสม จึงจำเป็นต้องอาศัยทั้ง 4 ข้อนี้เป็นสำคัญ

ที่มา : bangpunsara

Load More Related Articles
Load More By adminjing
Load More In ข้อคิดสอนใจ

Check Also

8 วิธีทำให้คนนับถือคุณ หลักๆ อยู่ที่การวางตัว

ไม่ใช่แค่กลุ่มคนทำงาน แต่พวกเราทุกคนต่างต้องอยู่ในสังคมร่วมกับผู้อื่นไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ทุ…