Home ข้อคิดสอนใจ 7 วิธีตำหนิติงาน หัวหน้าต้องรู้ไว้

7 วิธีตำหนิติงาน หัวหน้าต้องรู้ไว้

2 second read
0
0
28

ในการทำงาน ใครก็อยากได้คำไพเราะเสนาะหูในการสื่อ ส า ร กันทั้งนั้น ไม่ว่าจะคำแนะนำ หรือคำตำหนิ แต่บางครั้ง เราลืมไปน่ะสิว่าคนเรามีที่มาไม่เหมือนกัน ความรู้สึกนึกคิดต่างกัน การจะให้ได้ดั่งใจมันเป็นเรื่องยากเสมอ

และมันเป็นเรื่องธรรมดามากจริง ๆ หากว่าเราจะกระทบกระทั่งกันบ้างด้วยวาจา (ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่ามันไม่ดี แต่ก็อดไม่ได้ !) ไม่มีใครอยากพูดจาไม่ดีใส่กัน แต่ก็ใช่ว่าคำพูดที่ตำหนิกันจะไม่ดีไปซะ 100% ตรงกันข้าม มันกลับเป็นสิ่งที่ช่วยให้คนเราฮึดสู้กว่าเดิม งานที่ทำก็ได้ผลดีกว่าเดิมตามมาด้วย ! แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องรู้จักเทคนิคการตำหนิ ใช่ว่าจะพูดอะไรก็ได้โดยไม่ทันคิด

1. อดทน เฝ้าสังเกตความบกพร่องสักระยะก่อน ไม่มีใครอยากฟังคนอื่นบ่นได้แม้กระทั่งเรื่องไม่เป็นเรื่อง จุกจิก ไร้ ส า ร ะ ในเมื่อต่างคนก็โตเป็นผู้ใหญ่กันหมด เราก็ควรจะคุยกันแบบผู้ใหญ่ก่อน จำเอาไว้ว่า

“จะทำการใหญ่ใจต้องนิ่ง” อย่ารีบร้อนด่ากราดไปซะทุกเรื่องแม้กระทั่งเรื่องขี้เล็บ ค่อย ๆ สังเกต ปล่อยให้ลูกทีมได้ลงมือทำแล้วค่อยฟีดแบ็คทีหลังจะโอเคกว่า เราจะได้ไม่เสียลุคเป็นคนขี้บ่น ความอดทนต่ำ

2. คิดน้ำเสียงก่อนพูด แค่เก็บประเด็นที่จะฟีดแบ็คไม่พอ คนพูดต้องคิดน้ำเสียงตัวเองมาล่วงหน้าด้วย อย่าหวังว่าการขึ้นเสียงจะเป็นการกำราบให้อีกฝ่ายอยู่หมัด

เพราะนั่นเท่ากับว่าเรายอมรับแต่โดยดีว่าคำพูดเราทุกคำไม่มีน้ำหนักพอจะสู้กับคนอื่นได้จึงต้องสู้กันด้วยเสียงไว้ก่อน อยากให้คนอื่นฟัง คุณต้องพูดอย่างเน้นถ้อยคำ ชัด ๆ ไม่ต้องรีบ ไม่ต้องขึ้นเสียงตามคนอื่น ถ้าคุมสติตัวเองได้ คุมน้ำเสียงตัวเองได้ มันก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะคุมคนฟังให้อยู่ในกำมือเรา

3. อย่าพูดนอกเรื่อง อย่าลากอดีต, ลากบุคคลที่ 3, ลากบริบทอื่นที่หยุมหยิม ไม่ใช่ประเด็นหลักมาเกี่ยวข้อง อยากตำหนิเรื่องไหน ควรพูดให้ตรงประเด็นที่สุด ไม่ออกนอกเรื่อง ไม่ขยายไปถึงเรื่องอื่น ทั้งตัวเราและคนอื่นจะงง หาจุดจบไม่ได้

4. อย่าเล่นปมด้อยคนอื่น การนำปมด้อยคนอื่นมาล้อ นอกจากจะไม่ตรงประเด็นที่ตำหนิกัน ยังถือว่าเป็นการพูดจาที่น่า เ ก ลี ย ด ไร้ศักดิ์ศรีที่สุด เพราะนี่คือการแสดงให้เห็นว่าลึก ๆ คุณไม่ให้ความเคารพเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเลย พร้อมจะเหยียบเมื่อคนอื่นล้ม พร้อมจะเล่นสกปรกเมื่อตัวเองแพ้

5. อย่าคิดว่าการตำหนิ = โอกาสที่ตัวเองชนะ มองภาพรวมของการทำงานให้ออก เราต้องการให้มิตรภาพและงานเดินต่อไป ไม่ใช่หยุดอย่างหนึ่งเพื่อให้อีกอย่างหนึ่งเดิน คำพูดทุกคำคิดไว้เสมอว่า “เราจะถนอมน้ำใจกันมากที่สุด” พูดกันตรง ๆ ได้ แต่ไม่ควรแรงใส่กัน สิ่งไหนที่เราพลาด ไม่รู้จริง อย่ารีรอที่จะขอโทษก่อน

6. อย่าถืออาวุโสในการตำหนิ อะไรที่เป็นตำแหน่งที่เหนือกว่า ที่จะเป็นการข่มให้อีกฝ่ายดูด้อยลง ให้วางลงก่อน คิดซะว่านี่คือ “เพื่อน” หรือ “คนในครอบครัว”

เช่น “อย่าหาว่าพี่อย่างนั้นอย่างนี้เลยนะ พี่ขอพูดในฐานะที่เป็นพี่น้องกันมานานนะว่า …” การเจรจากันควรเป็นไปในทางที่อบอุ่น ใกล้ชิดกันที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่ใช่การเปรียบเทียบกันหรือเป็น ศั ต รู กัน

7. ตบท้ายด้วยการฟื้นฟูความรู้สึกกัน การตำหนิอยู่ลูกเดียวมันก็คล้ายกับว่าคุณจ้องแต่จับผิดอย่างเดียว จบการตำหนิแล้วควรมีการฟื้นฟูจิตใจกันทั้งสองฝ่ายด้วยการกล่าวขอโทษ, ขอบคุณ,

ชมในข้อดีของอีกฝ่าย เพื่อเป็นการรักษาน้ำใจกัน หล่อเลี้ยงพลังใจลูกทีมให้ไม่รู้สึกว่าที่ผ่านมาไม่มี ดีอะไรเลย อีกทั้งยังเป็นการจบบทสนทนาที่สวย ไม่มีอะไรติดค้างกันอีก

เช่น – “พี่ขอโทษนะที่ต้องพูดตรง ๆ แต่ยังไงก็ขอบคุณนะสำหรับการเสียสละเวลารับฟังกัน” – “ที่จริงเธอเป็นคนเก่งนะ พี่เห็นความตั้งใจในการทำงานเสมอ แต่รอบนี้พี่ขอให้ปรับปรุงอะไรเล็กน้อยหน่อยนะ ถ้าทำได้ พี่จะขอบใจมาก”

จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง จงรักทีมเวิร์คเหมือนรักครอบครัว มองภาพรวมให้กว้างกว่านี้จะดีขึ้นเยอะ

ที่มา : j e e b

Load More Related Articles
Load More By adminjing
Load More In ข้อคิดสอนใจ

Check Also

8 วิธีทำให้คนนับถือคุณ หลักๆ อยู่ที่การวางตัว

ไม่ใช่แค่กลุ่มคนทำงาน แต่พวกเราทุกคนต่างต้องอยู่ในสังคมร่วมกับผู้อื่นไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ทุ…