Home ข้อคิดสอนใจ 6 คุณสมบัติที่ทำให้ลูกน้อง หมดศรัทธา..ไม่เชื่อถือหัวหน้า

6 คุณสมบัติที่ทำให้ลูกน้อง หมดศรัทธา..ไม่เชื่อถือหัวหน้า

0 second read
0
0
41,197

“หัวหน้า” เป็นตำแหน่งที่หลายคนใฝ่ฝัน เพราะได้ทั้งลาภยศและความเคารพจากทีม แต่ก็มีหัวหน้าบางประเภทที่ขาดความเป็นผู้นำ จนไม่มีใครอยากร่วมงานด้วย

จะเป็นหัวหน้าที่ดีต้องสตรองแค่ไหน? เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นหัวหน้าแล้ว ย่อมได้รับการคาดหวังว่าจะนำพาองค์กรให้เจริญก้าวหน้าได้ พร้อมๆ กับการดูแลพนักงานหลายชีวิต

ตำแหน่งหัวหน้าที่มาพร้อมกับภาระหนักอึ้งเอาการ แต่ในความเป็นจริงบางคนอาจได้เป็นหัวหน้าตั้งแต่อายุยังน้อย ยังไม่มีประสบการณ์มากพอในการบริหารงานและบุคคล

เพราะฉะนั้นลองสำรวจตัวเองว่าเป็นหัวหน้าที่ดี หรือเป็นหัวหน้ายอด แ ย่ กันแน่ จะได้ปรับปรุงตัวแล้วเลิกพฤติกรรมแบบนี้เสียที

1. ไม่กล้าตัดสินใจ

หัวหน้าบางคนมีคุณสมบัติดีเลิศทั้งการศึกษาและการทำงาน แต่กลับขาดภาวะผู้นำ ไม่กล้าตัดสินใจ บริหารงานไม่เด็ดขาด กล้าๆ กลัวๆ มีบุคคลิกไม่มั่นใจ แล้วแบบนี้

จะเป็นแบบอย่างในการทำงานให้ลูกน้องได้อย่างไร แต่ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ เริ่มต้นจากการเชื่อมั่นศักยภาพของตัวเองและลูกน้อง ไม่หยุดที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ

จากเด็กรุ่นหลังหรือผู้ที่อาวุโสกว่า มีการวางแผนงานล่วงหน้าที่ชัดเจน และไม่หยุดนำเสนอไอเดียใหม่ๆ ตลอดเวลา

2. บ้ า อำ น า จ

อย่าหลงระเริงกับอำนาจที่มีอยู่ ใช้ตำแหน่งบังคับให้อื่นคนทำตามใจตัวเองหรือใช้อำนาจเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว จะทำให้ลูกน้องกดดัน ทำงานด้วยความหวาดกลัว

ถ้าอยากให้ลูกน้องเคารพจากใจจริง ก็ควรฏิบัติกับพวกเขาด้วยความเคารพเช่นกัน เอาใจเขามาใส่ใจเรา ไม่มีอีโก้ถือตัวเหนือกว่าผู้อื่น หัวหน้าที่ดีควรส่งเสริมทีม

คอยให้กำลังใจและให้คำปรึกษาได้ แบบนี้ถึงจะได้ใจลูกน้องจริงๆ

3. เจ้าอารมณ์

การมีวุฒิภาวะทางอารมณ์เป็นคุณสมบัติของคนทำงานทุกคน โดยเฉพาะคนที่เป็นหัวหน้า ควรควบคุมอารมณ์ให้ได้ ไม่ใช้อารมณ์นำเหตุผล ยิ่งอยู่ในตำแหน่งสูงๆ

ก็ควรระมัดระวังในการวางตัว เพราะไม่มีลูกน้องคนไหนอยากเป็นที่รองรับอารมณ์ จริงอยู่ว่ามนุษย์เรามีอารมณ์รัก โลภ โกรธ หลง ด้วยกันทั้งนั้น แต่เมื่อถูกทักท้วง

ควรอดทนอดกลั้น หยุดคิดสักนิด ไม่พูดจาโต้ตอบแบบ ห ย า บ ค า ย หรือวีนเหวี่ยงโดยไม่มีเหตุผล

4. เลือกที่รัก มักที่ชัง

หัวหน้าลำเอียง เล่นพรรคเล่นพวก เข้าข้างลูกน้องคนสนิทตลอดเวลา ทำผิดก็แก้ตัวให้ ตรงกันข้ามถ้าไม่ปลื้มลูกน้องคนไหนก็ไม่สนใจจะให้คำปรึกษา หรือโยนงานเล็ก ๆ

แบบปิดทองหลังพระให้รับผิดชอบ แบบนี้เรียกว่าสองมาตรฐานชัดๆ จนทำให้ลูกน้องเกิดอคติกับหัวหน้าไปตลอด เพราะฉะนั้นคุณควรแยกเรื่องส่วนตัวกับการทำงานให้ได้

ไม่ให้ท้ายลูกน้องคนใดคนหนึ่งจนเกินงาม ปฏิบัติกับทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน

5. เอาดีใส่ตัว เอ า ชั่ ว ใ ส่ ค น อื่ น

ไม่ว่าผลงานจะได้รับคำชมหรือคำติ คนมักจะพุ่งเป้ามาที่หัวหน้าก่อนเสมอ เพราะเป็นตำแหน่งที่มีอำนาจการตัดสินใจสูงสุดในทีม เพราะฉะนั้นทุกครั้งที่ผลงานได้รับการชื่นชม

ต้องให้เครดิตกับลูกน้องเสมอ อย่ารับไว้เป็นผลงานของตัวเองคนเดียว ในทางกลับกันเมื่อเกิดข้อผิดพลาด ก็ไม่ควรโยนความผิดให้คนอื่น และไม่รู้สึกอายที่จะขอโทษ

ในกรณีที่ลูกน้องทำผิด สามารถตักเตือนได้แต่ไม่ควรซ้ำเติม ต้องรู้จักให้โอกาสคน แนะนำให้ลูกน้องเรียนรู้จากข้อผิดพลาดและหาวิธีการแก้ไขปัญหา

6. โลกแคบ

นี่มันปี 2020 แล้ว คนเป็นหัวหน้าต้องมีวิสัยทัศน์กว้างไกล ตามยุคสมัยให้ทัน คอยเปิดรับสิ่งใหม่ๆ ตลอด ทั้งความรู้ในการทำงานและมุมมองการใช้ชีวิต คงไม่มีใคร

อยากทำงานร่วมกับคนโลกแคบ ที่จำกัดความคิดอยู่ในกรอบของตัวเองโดยไม่ฟังใคร ในบางองค์กรที่มีพนักงานหลายเจเนอเรชั่น หัวหน้าต้องเปิดใจยอมรับความแตกต่าง

ทางความคิดและรูปแบบการทำงานให้ได้

แล้วคุณล่ะเป็นหัวหน้าแบบไหน? ถ้าอยากเป็นหัวหน้าที่มีความเป็นผู้นำ ได้รับการยอมรับจากลูกน้อง ลองนึกถึงตอนที่คุณยังเป็นลูกน้อง คุณเคารพหัวหน้าแบบไหน

ก็ควรจะปฏิบัติตัวให้น่าเคารพแบบนั้นเช่นกัน เมื่อรู้ว่าเรามีข้อเสียตรงไหนก็รีบแก้ไขให้เร็วที่สุด ส่วนใครที่กำลังจะก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้า หรืออยากเติบโตในสายอาชีพของตัวเอง

สามารถค้นหาตำแหน่งงานระดับสูงและมั่นคง

ขอขอบคุณ jobsDB

Load More Related Articles
Load More By jingjai
Load More In ข้อคิดสอนใจ

Check Also

วิธีบริหารเงิน ให้มีกินมีใช้ “ไม่เป็นหนี้”

การออมที่ดี คือ การออมอย่างมีความสุข ไม่ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างลำบากแต่การใช้เงินอย่างไร ให้…