Home ข้อคิดสอนใจ 5 วิธีผ่านช่วงชีวิตแย่ๆ เดินออกมาแบบคนแข็งแกร่ง

5 วิธีผ่านช่วงชีวิตแย่ๆ เดินออกมาแบบคนแข็งแกร่ง

6 second read
0
0
145

มีผลวิ จั ยพบว่า คนเราโดยส่วนใหญ่จะมีความสุขที่สุดในวัยยี่สิบต้นๆ และจะลดลงเรื่อยๆจนต่ำสุดช่วงวัยกลางคน และจะกลับมามีความสุขขึ้นอีกครั้งในช่วงชีวิตบั้นปลาย คุณกำลังอยู่ในช่วงไหน และคุณทำอย่างไรเมื่อชีวิตอยู่ในช่วงวิ ก ฤ ต?

ย ากเหลือเกินที่จะยิ้มได้และใช้ชีวิตอย่างปกติ หากต้องเผชิญกับความท้อแท้สิ้นหวัง ไม่ว่าจะเป็นการเจอวิ ก ฤ ตด้านการเงิน ตกงานกะทันหัน ถูกทำร้ า ยทั้งร่ า ง ก า ยและอารมณ์

ความสัมพันธ์ที่ไปไม่รอด การสูญเสียคนรักหรือเพื่อนอย่างกะทันหัน อีกทั้งความเ จ็ บป่ ว ยเรื้อรังของญาติผู้ใหญ่ นี่คือสิ่งที่คุณกำลังเผชิญอยู่ใช่หรือเปล่า ?

ซ้ำร้ า ยกว่านั้น ในย ามที่ชีวิตเป็นขาลง ดูเหมือนอะไรๆก็เข้ามาตามซ้ำเติม ปัญหาหนึ่งก่อตัวขึ้นยังไม่จบ ปัญหาใหม่ๆก็เข้ามาทับถม และส่งผลกระทบถึงเรื่องต่อๆไป

ในช่วงเวลาแบบนี้คุณจะพบว่า ในใจมีแต่ความกลัวและความเ จ็ บป ว ด เพราะความหวังพังทลาย รู้สึกสูญเสียความมั่นใจ รู้สึกไร้คุณค่าและไม่ดีพอ รู้สึกสิ้นหวังและไม่มีกำลังใจจะก้าวเดินต่อ

สิ่งที่เกิดขึ้น อาจทำให้คุณจมอยู่ความรู้สึกย่ำแ ย่ และเศร้าโศกเนิ่นนาน จนกลายเป็นความซึมเศร้า ขาดกำลังใจที่จะใช้ชีวิต คุณไม่รู้ว่าจะลุกขึ้นมาอีกครั้งได้ยังไง ไม่ว่าใครจะมาพูดปลอบโยนเท่าไหร่ ก็ไม่อาจช่วยให้คุณดีขึ้นมาเลย…

ตามกฎของจักรวาล “ทุกสิ่งไม่เที่ยงและจะเปลี่ยนแปลงไปเสมอ” ดังนั้นโชคร้ า ยก็จะไม่อยู่กับคุณตลอดไป ในเมื่อชีวิตมีขาลงก็ย่อมมีขาขึ้น ไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่

ข่าวดีก็จะมาเยือน แล้วคุณจะลุกขึ้นมาได้อย่างแน่นอน แต่หากคุณมีวิธีที่จะทำตัวเองให้ดีขึ้นได้ในเร็ววันจะไม่ดีกว่าหรือ ต่อไปนี้เป็น 5 วิธีที่จะช่วยคุณได้

1. ยอมรับและเผชิญหน้ากับความเป็นจริง

มีความทุกข์อยู่ 2 อย่าง คือ ทุกข์ที่ทำให้คุณเ จ็ บป ว ด และทุกข์ที่ทำให้คุณเปลี่ยนแปลง คุณจะเ จ็ บป ว ดก็ต่อเมื่อคุณต่อต้านมัน หากคุณยอมรับและพร้อมที่จะเดินไปต่อกับมันได้

นั่นจะนำมาซึ่งการเรียนรู้และเปลี่ยนแปลง อย่างแรกที่คุณจะทำก็คือ ยอมรับว่ามันเกิดขึ้นแล้ว แม้ว่าคุณไม่ชอบมันเลย การดิ้นรนต่อสู้กับมัน หวังว่ามันจะไม่เกิดขึ้น ก็ยิ่งจะเสียพ ลั งงานและเวลาไปเปล่าๆ การยอมรับจะทำให้คุณกลับมาพบความสงบในใจ และพร้อมที่จะเดินหน้าต่อในทิศทางใหม่ๆ

การปล่อยวางจะง่ายยิ่งขึ้น หากคุณยอม “ให้อภัย” ไม่ว่าจะเป็นกับตัวคุณเอง กับใครบางคน หรือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น การให้อภัยจะปลดปล่อยตัวคุณจากความเ ค รี ย ด ความกดดัน ความกังวล ความยึดติดกับอดีตและอนาคตทั้งหลาย มันจะช่วยให้ใจของคุณรู้สึกเบาสบายขึ้น เป็นอิสระจากสิ่งที่คุณยืดถือและคาดหวังว่าจะต้องเป็น

2. โอบกอดตัวเองในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง

หากคุณหมดความมั่นใจ หมดความเชื่อและศรัทธาในตนเอง แสดงว่าคุณกำลังอย ากจะเป็นใครอีกคนที่ไม่ใช่คุณ ลองถามตัวเองว่า กำลังคาดหวังความสมบูรณ์แบบในชีวิตอยู่หรือเปล่า ลองมองอดีตที่ผ่านมาสิ คุณก็มีความสำเร็จในชีวิตเกิดขึ้นตั้งมากมาย สิ่งที่คุณต้องการในตอนนี้คือ การโอบกอดและยอมรับตัวเอง ในฐานะมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง

หยุดเปรียบเทียบกับชีวิตคนอื่น มองให้เห็นความสวยงามในตัวเอง ถึงแม้จะไม่เหลือสิ่งภายนอกใดๆเลยก็ตาม คุณก็ยังเป็นมนุษย์ที่สวยงามในแบบที่คุณเป็น และมันดีที่สุดแล้ว

คุณคือคนธรรมดาที่สามารถทำผิดพลาดได้ มีความกังวลบ้ าง กลัวบ้ างเป็นธรรมชาติ คุณไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ และคุณก็สามารถยอมรับและรักตัวเองได้

3. เตือนตัวเองว่า ทุกสิ่งเป็นของชั่ วคราว

การก้าวข้ามที่สำคัญในชีวิต เกิดขึ้นเมื่อคุณตระหนักว่าสิ่งเ ล วร้ า ยต่างๆในชีวิต ทั้งที่เป็นข้อจำกัด ความล้มเหลว ความผิดพลาด ความสูญเสีย โชคร้ า ยและความเสื่อมถอย เป็นเพียงของชั่ วคราวเท่านั้น และหลายครั้งมันผ่านไปแล้ว แต่คุณยังทำให้มันคงอยู่ ด้วยความคิดของคุณนั่นเอง

ความทุกข์และความไม่แน่นอน ก็เป็นของชั่ วคราว มันไม่มีทางจะย าวนานไปตลอดกาล เวลาจะช่วยเยียวย าคุณได้ แม้ว่าจะต้องใช้เวลานับเดือนนับปี แต่แล้วมันก็จะผ่านไป

ชีวิตจะหมุนต่อไปไม่หยุด ดังนั้นอย่าให้ความทุกข์มาเปลี่ยนตัวคุณที่แท้จริงไป คนที่เข้มแข็งคือคนที่ร้องไห้ได้อย่างเปิดเผย แล้วก็พร้อมก้าวต่อไปเมื่อหย าดน้ำตาเหือดแห้งลง

4. มองหาสิ่งที่ขอบคุณได้ ในช่วงเวลานี้

การขอบคุณ คือการเยียวย าตัวเองที่เรียบง่าย และมันช่วยได้อย่างไม่น่าเชื่อ ในภาวะที่กำลังจมอยู่กับตัวเองและความทุกข์ ลองหาเหตุผลที่จะขอบคุณกับอะไรก็ได้รอบๆตัว แม้ว่ามันจะเป็นสิ่งเล็กน้อยและธรรมดาแค่ไหน ขอบคุณที่ยังมีลมหายใจ ขอบคุณความรักจากคนรอบตัว ขอบคุณสิ่งที่คุณได้เรียนรู้จากเรื่องนี้

หากคุณเลิกมองสิ่งที่ขาดหาย และหันมาขอบคุณกับสิ่งที่เหลืออยู่ ด้วยความรู้สึกสำนึกคุณ จะพบว่าหลายๆครั้งได้มองข้ามอะไรไปบ้ าง มันดีแค่ไหนที่คุณได้ค้นพบสิ่งที่มีค่าเหล่านั้น กับชีวิตที่เหลืออยู่

5. ยื่นมือออกไป ช่วยใครสักคน

ความท้อแท้ในชีวิต ส่วนใหญ่เกิดขึ้นเพราะคุณรู้สึกสมเพชตัวเอง แม้มันไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ แต่คุณก็ทำอยู่เสมอๆโดยไม่รู้ตัว ถ้าคุณสามารถจับความคิดได้ว่า

เริ่มดูถูกและต่อว่าตัวเอง ให้หยุดสนใจที่ตัวเองแล้วมองไปที่ผู้คนรอบๆตัว ลองหาทางที่จะช่วยเหลือใครสักคน แม้แต่จะเป็นเพียงเรื่องเล็กๆน้อยๆ เชื่อมั้ยว่าคุณจะรู้สึกดีขึ้นในทันที

เมื่อไหร่ที่คุณอย ากได้รับการใส่ใจ ให้คุณใส่ใจผู้อื่น ดูแลเขาให้เหมือนกับที่คุณต้องการ ด้วยจิตที่เมตตา และหัวใจอ่อนโยน หากคุณทำเช่นนี้ ไม่มีอะไรที่จะทำให้คุณรู้สึกแ ย่กับตัวเองได้อีก มันจะทำให้คุณตระหนักถึงคุณค่าแห่งการมีชีวิต และทำให้คุณตื่นขึ้นมาจากฝันร้ า ย ที่ขังคุณไว้ในจิตใจอันโดดเดี่ยวของตัวเอง

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังท้อแท้สิ้นหวังในชีวิต ขอให้รู้ว่า คุณไม่ได้เผชิญกับมันเพียงลำพังผู้เดียว คนรอบตัวที่เค้ารักคุณ ต่างรู้สึกและได้รับผลกระทบกับความเศร้าจากคุณอยู่เช่นกัน

ยิ่งคุณทำร้ า ยตัวเอง ก็จะยิ่งทำให้พวกเค้าเ จ็ บป ว ดไปด้วยถ้านั่นไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องการ ลองใช้หลักการ 5 ข้อนี้ นำพาตัวเอง ให้ฟื้นคืนขึ้นมาจากฝันร้ า ย นั่นเท่ากับว่าคุณกำลังช่วยให้ชีวิตคุณและพวกเขาดีขึ้นในคราวเดียวกัน

ที่มา : H a p p i n e s s

Load More Related Articles
Load More By adminjing
Load More In ข้อคิดสอนใจ

Check Also

8 วิธีทำให้คนนับถือคุณ หลักๆ อยู่ที่การวางตัว

ไม่ใช่แค่กลุ่มคนทำงาน แต่พวกเราทุกคนต่างต้องอยู่ในสังคมร่วมกับผู้อื่นไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ทุ…