Home ข้อคิดสอนใจ 10 ลักษณะของเศรษฐี คิดแบบไหนเขาจึงรวย

10 ลักษณะของเศรษฐี คิดแบบไหนเขาจึงรวย

6 second read
0
0
110

ข้อ 1 เศรษฐีคิดยาว แต่คนชั้นกลาง คิ ด สั้ น ว่าที่จริงคนที่ คิ ด สั้ น ที่สุดก็คือ คนจน พวกเขามักจะคิดอะไรแบบวันต่อวันทำนองหาเช้ากินค่ำ คนชั้นกลางนั้นมักจะคิดเป็นเดือนต่อเดือน นั่นคือ คิดถึงวันเงินเดือนออก แต่คนรวยจะต้องคิดยาวเป็นปี ๆ หรือเป็นสิบ ๆ ปี ในใจของคนจน

เขามักคิดแต่เฉพาะเรื่องของความอยู่รอดเป็นหลัก ในขณะที่คนชั้นกลางคิดถึงเรื่องความสุขสบายจากการจับจ่ายใช้สอยสินค้า ส่วนคนรวย เป้าหมายอบพวกเขาชัดเจน

เขาต้องการความเป็นอิสระทางการเงิน การคิดยาวนั้นมีพลังมหาศาล เพราะมันจะทำให้เขาอดออมและลงทุนระยะยาว ซึ่งจะทำให้เงินงอกเงยแบบทบต้นเป็นเวลานาน และนี่คือ สูตรสำคัญที่สุดในการที่จะทำให้คนมั่งคั่ง

ข้อ 2 คนรวยพูดเกี่ยวกับเรื่องไอเดีย คนชั้นกลางพูดเกี่ยวกับสิ่งของ และคนจนพูดถึงเรื่องของคนอื่น นี่คงไม่ได้หมายถึง ว่าคนรวยไม่พูดเกี่ยวกับเรื่องของสิ่งของหรือคนอื่นแต่หมายถึงว่า

คนรวยจะพูดถึงเรื่องของคนอื่นน้อยกว่าคนจน และมักจะเป็นคนที่มีแนวความคิดดี ๆ หรือมีมุมมองต่างๆ มากกว่าคนชั้นกลางและ คนจน เบื้องหลังของนิสัยในเรื่องนี้คงอยู่ที่ว่า

คนรวยนั้นมักจะชอบมีความคิดสร้างสรรค์มากกว่าคนจน ซึ่งมักจะชอบ “ซุบซิบนินทา” เป็นนิจสิน ในขณะที่คนชั้นกลางอาจจะเน้นการทำงานประจำ ชอบพูดถึงเรื่องรถยนต์ ดนตรี การพักผ่อนหย่อนใจ เป็นต้น

ข้อ 3 คนรวยยอมรับการเปลี่ยนแปลง คนชั้นกลางต่อต้านการเปลี่ยนแปลง คนชั้นกลางรู้สึกว่า การเปลี่ยนแปลงจะคุกคามชีวิตความเป็นอยู่ที่ตนเองเคยชิน ในขณะที่คนรวย

คิดว่าการเปลี่ยนแปลงอาจนำมาซึ่งชีวิตที่ดีกว่า เขาคิดว่าในการเปลี่ยนแปลงมักมีโอกาสที่เขาอาจจะฉกฉวยได้ เบื้องหลังนิสัยนี้อาจจะมาจากการที่คนรวย มีความมั่นใจสูงกว่าคนชั้นกลาง ที่มักจะกลัวว่าตนเองจะไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสิ่งใหม่ ๆ ได้

ข้อ 4 คนรวยกล้ารับความเสี่ยงที่ได้มีการพิจารณาและไตร่ตรองดีแล้ว คนชั้นกลางกลัวที่จะรับความเสี่ยง นี่เป็นนิสัยที่เป็นจุดอ่อนมากที่สุดของคนชั้นกลางคนที่ไม่ยอมรับความเสี่ยงเลย

จะพลาดที่จะได้ผลตอบแทนที่ดี โดยสิ้นเชิง ขณะคนที่กล้ารับความเสี่ยงอย่างที่ได้มีการศึกษามาเป็นอย่างดีจะสร้างผลตอบแทนที่ดีได้โดยที่ความเสี่ยงจริง ๆ จะมีน้อยมาก

ตัวอย่างที่เห็นชัดเจนที่สุดก็คือ คนชั้นกลางส่วนใหญ่ มักจะกลัวการลงทุนในหุ้นหรือตรา ส า ร ทางการเงินที่มีความผันผวนของราคา โดยที่เขาไม่พยายามศึกษาว่าในระยะยาวแล้ว

มันอาจจะมีความคุ้มค่ากว่าการฝากเงินในธนาคารมากในอีกมุมหนึ่ง คนที่กล้ารับความเสี่ยงอย่าง “บ้าบิ่น” เช่น คนที่เล่นหุ้นวันต่อวันเอง ก็ไม่ใช่นิสัยของคนรวย คนรวยต้องรับความเสี่ยงเฉพาะที่มีการพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว

ข้อ 5 คนรวยเรียนรู้และเติบโตตลอดชีวิต คนชั้นกลาง คิดว่าการเรียนรู้จบที่โรงเรียน นิสัยการเรียนรู้ไปเรื่อย ๆ นี้ เป็นหัวใจเศรษฐีจริง ๆเพราะการเรียนรู้จากโรงเรียนเป็นเพียงพื้นฐาน ที่เรานำมาศึกษาต่อด้วยตนเองได้

และเวลาหลังจากการเรียนในโรงเรียนยาวมากเป็นเวลาหลายสิบปี ดังนั้นความรู้ส่วนใหญ่จึงควรที่จะเกิดขึ้นหลังจากที่เราเรียนจบจากโรงเรียน โดยนัยของข้อนี้ คนรวยจึงน่าจะมีนิสัยรักการ อ่ า น

หรือการหาความรู้ต่อไปเรื่อยๆในขณะที่คนชั้นกลาง พอเรียนจบก็มักจะไม่สนใจ อ่ า น หนังสือ หรือหาความรู้ใหม่ๆ ความรู้ที่คนชั้นกลางพลาดไป เพราะไม่มีการสอนในโรงเรียน ก็คือ ความรู้ทางด้านการเงินที่คนรวย มักจะศึกษาต่อ เพราะเห็นถึงความสำคัญและอาจนำไปสู่ความร่ำรวยได้

ข้อ 6 คนรวยทำงานเพื่อหากำไร คนชั้นกลางทำงานเพื่อจะได้ค่าจ้าง คนรวยมองว่านี่คือ หนทางที่จะทำให้รวยได้มากกว่า แม้จะมีความเสี่ยงในขณะที่คนชั้นกลาง มักจะไม่กล้าเสี่ยง

และอาจจะมีวามคิดสร้างสรรค์น้อยกว่า จึงมุ่งไปที่การหางานที่จะมีรายได้แน่นอน แต่รายได้จากการใช้แรงงานของตนเอง มีน้อยคนที่จะทำให้ตนเองรวยได้

ข้อ 7 คนรวยเชื่อว่า พวกเขาต้องใจบุญสุนทาน คนชั้นกลางคิดว่าพวกเขาไม่มีปัญญาที่จะทำบุญ ข้อนี้เนื่องจากเป็นเรื่องของแต่ละคนที่ไม่ค่อยบอก หรือรู้กัน ยกเว้นที่เป็นการ บ ริ จ า ค ใหญ่ๆ อย่างกรณีของบัฟเฟต หรือ บิล เกตส์

ข้อ 8 คนรวย มีแหล่งรายได้หลากหลาย เพราะรวยแล้วจึงไปลงทุนในทรัพย์สินหลายๆ อย่าง หรือมีทรัพย์สินหลายยอย่างจึงทำให้รวยแต่คนชั้นกลางมีเพียงหนึ่งหรือสองแหล่ง มักไม่ลงทุนในทรัพย์สินที่มีความเสี่ยง ทำให้รายได้มักจะมาจากเงินเดือนเป็นหลัก

ข้อ 9 คนรวยเน้นการเพิ่มขึ้นของความมั่งคั่งของตนเอง คนชั้นกลางเน้นการเพิ่มของเงินเดือน เป้าหมายของคนรวยนั้นอยู่ที่ว่ารนเองมีความมั่งคั่งเพื่อขึ้นมากน้อยแค่ไหน โดยมองที่ภาพรวม ดังนั้น

ถ้าเขามีหุ้นอยู่ การที่หุ้นมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเขาก็มีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้น โดยที่เข้าไม่ต้องเสียภาษี แต่คนชั้นกลางพยายามทำงาน เพื่อให้มีเงินเดือนสูงขึ้นแต่เขาอาจจะลืมไปว่าเขาจะต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้นด้วย สรุปก็คือ คนรวยเน้นการลงทุนใช้เงินทำงานแทนตนเอง คนชั้นกลางเน้นการใช้แรงงานของตนเอง

ข้อ 10 คนรวยชอบตั้งคำถามที่เป็นบวก และสร้างกำลังใจ เช่น ฉันจะสร้างรายได้เป็นเท่าตัวในปีนี้ ได้อย่างไร? ขณะที่คนชั้นกลางชอบตั้งคำถามที่เป็นลบและเสียกำลังใจ เช่น จะหาเงินมาจ่ายหนี้ค่า บั ต ร เ ค ร ดิ ต เดือนนี้ได้อย่างไร ?

และนั่นคือ ความแตกต่างทั้ง 10 ข้อ ระหว่างคนรวยกับคนชั้นกลาง ซึ่งเชื่อว่าส่วนใหญ่น่าจะเป็นจริง แน่นอน คนรวยบางคนก็มีคุณสมบัติที่เป็นแบบคนชั้นกลางและคนชั้นกลางจำนวนมากก็มีนิสัยแบบคนรวย แต่ถ้าเราอยากรวย การยึดนิสัยแบบคนรวยน่าจะทำให้เรามีโอกาสมากกว่า

ที่มา : p r o s o f t e r p

Load More Related Articles
Load More By adminjing
Load More In ข้อคิดสอนใจ

Check Also

8 วิธีทำให้คนนับถือคุณ หลักๆ อยู่ที่การวางตัว

ไม่ใช่แค่กลุ่มคนทำงาน แต่พวกเราทุกคนต่างต้องอยู่ในสังคมร่วมกับผู้อื่นไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ทุ…