Home ข้อคิดสอนใจ เหตุุผล 4 ข้อ ทำไมคนขี้เกียจ..จึงประสบความสำเร็จได้

เหตุุผล 4 ข้อ ทำไมคนขี้เกียจ..จึงประสบความสำเร็จได้

5 second read
0
0
155

หลายคนขยัน ทำงานหนัก จนแทบไม่ได้พบครอบครัว แต่ถึงอย่างนั้นงานที่ทำได้ก็ยังไม่น่าพอใจ ตรงข้ามกับบางคน ที่เรารู้สึกว่า เขาทำตัวขี้เกียจ ทำตัวสบายๆ ทำอะไรง่ายๆ แต่งานกลับออกมาประสบความสำเร็จอย่างไม่น่าเชื่อ

คนขี้เกียจมีความลับอะไรซ่อนอยู่งั้นหรือ?

คำว่า ‘ขี้เกียจ’ ดูเป็นคำติดลบของคนทำงาน แต่นั่นเป็นเพราะว่า คนส่วนใหญ่ชอบนำคำว่า ขี้เกียจไปผูกติดกับคำว่า ‘อู้’ ซึ่งความจริงแล้ว คนขี้เกียจกับคนอู้งานนั้นไม่เหมือนกันสักนิด

เพราะ อู้ คือการหนีจากปัญหาตรงหน้า แต่สุดท้ายเวลาก็หมดลง กลายเป็นสิ่งทับถม ทำไม่อะไรไม่ทัน แต่คนขี้เกียจ จะไม่หลีกหนีปัญหาต่างๆ และพย าย ามทำให้มันเสร็จอย่างรวดเร็วจนเป็นนิสัย เพื่อให้มีชีวิตที่สบายๆ อยู่เสมอ

1.เพราะคนขี้เกียจรู้เป้าหมาย

คนขี้เกียจรู้เป้าหมายในการลงมือทำอะไรบางอย่างอยู่เสมอ เพราะพวกเขาไม่อย ากเสียเวลาอย่างไร้ประโยชน์ในการทำอะไรที่เหนื่อยเปล่าซึ่งไม่เกี่ยวข้องกันพวกเขาจะมุ่งเป้าไปที่จุดหมายแห่งความสำเร็จ

โดยไม่ให้สิ่งใดมารบกวนเส้นทาง เรียกง่ายๆ ว่าพวกเขาสามารถตั้งสมาธิกับงานตรงหน้าโดยไม่วอกแวก แถมยังพย าย ามหาทางลัดเพื่อให้ไปถึงเป้าหมายไวๆ อีกด้วยถ้าเราได้ร่วมงานกับคนขี้เกียจกลุ่มนี้ รับรองว่า ไม่เหนื่อยฟรีแน่นอน

2.เพราะคนขี้เกียจชอบพลิกแพลง

คนขี้เกียจส่วนใหญ่ อย ากให้งานเสร็จไวๆ ดังนั้นเมื่อได้รับมอบหมายงานมา สิ่งแรกที่พวกเขาทำคือ การวางแผนทำงานโดยหาทางพลิกแพลง มองหาตัวช่วยที่ทำให้ทำงานได้อย่างรวดเร็ว เช่น การใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย

การมอบหมายงานให้ผู้อื่นตามศักยภาพของพวกเขา มีความการยืดหยุ่นในการดำเนินงานและชอบปรับเปลี่ยนขั้นตอน เพื่อจะได้มีเวลาไปทำตัวขี้เกียจเพิ่มขึ้นหลายคนอาจมองว่างานของคนขี้เกียจคงเป็นงานชุ่ยๆ

เพราะทำงานด้วยความขี้เกียจ แต่อันที่จริงแล้วคนขี้เกียจทุกคนไม่อย ากทำงานซ้ำเดิมไปมาหลายครั้ง พวกเขาจึงทุ่มเทให้กับการทำงานตั้งแต่ครั้งแรกดังนั้น เราจึงไม่มีทางได้รับผลงานห่วยๆ จากเหล่าคนขี้เกียจแน่นอน

3.เพราะคนขี้เกียจรู้ว่าเมื่อไรต้องพัก

คนที่ขยันทำงานอย่างบ้ าคลั่ง อยู่ทำงานดึกดื่นทุกวัน ทำงานจนตัวเข้าโรงพย าบาล คนเหล่านี้ไม่ได้เรียกว่าเป็นคนรักงาน แต่เราเรียกพวกเขาว่า คนบริหารเวลาไม่เป็น

หากเราให้คนขยันและคนขี้เกียจทำงานชิ้นเดียวกัน โดยให้เวลาคนละ 1 สัปดาห์ เชื่อไหมว่า ทั้งคู่จะสามารถทำงานได้เสร็จทันก่อนเวลากำหนด แต่สิ่งที่แตกต่างกันคือ

คนขยันอาจจะหน้าเ ค รี ย ดหัวฟู ในขณะที่คนขี้เกียจนั้นยังมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า นั่นเป็นเพราะว่า คนขี้เกียจรู้ดีว่าเมื่อไรต้องเร่งแล้วเมื่อไรต้องผ่ อ น แบบนี้สิ เรียกว่าคนบริหารเวลาเป็น

แม้จะอย ากให้งานเสร็จไวๆ เพียงใด แต่คนขี้เกียจก็รู้ขีดจำกัดของตัวเองดี พวกเขารู้ว่า หากคิดอะไรไม่ออก เขาควรพักส ม อ ง อาจใช้เวลานี้เดินเล่น คุยกับผู้อื่นเพื่อหาแรงบันดาลใจ และพวกเขารู้ว่าเวลาไหนควรทำงาน เวลาไหนที่ควรจะนอนหลับเพื่อให้ส ม อ งได้คลายความตื่นตัว และร่ า ง ก า ยได้ฟื้นฟูจากความเหนื่อย

แต่คนขยันที่พักผ่ อ นไม่เป็น เวลาคิดอะไรไม่ออก ก็จะดั้นด้นทำไป นอกจากงานจะออกมาไม่ดีแล้ว ร่ า ง ก า ยและจิตใจก็จะต้องแบกรับความเ ค รี ย ดนั้นไปเรื่อยๆ

แถมพวกเขาไม่เข้าใจคำว่าพักผ่ อ นอย่างแท้จริงถ้าลองสังเกตดูจะพบว่าคนขยันเวลาเหนื่อยล้าจะชอบทำตัวเอ้อระเหย เอื่อยเฉื่อยนอนดูโทรทัศน์ ความจริงแล้วการนอนหลับต่างหากคือคำตอบหากคุณกำลังเบื่อๆ หัวส ม อ งตื้อตันอยู่ล่ะก็ ลองเข้าหาคนขี้เกียจดูสิ พวกเขาช่วยให้คุณกลับมาร่าเริงอีกครั้งได้แน่

4.เพราะคนขี้เกียจเป็นผู้ฟังที่ดี

อ า วุ ธสำคัญอีกอย่างของคนขี้เกียจที่ประสบความสำเร็จคือ หูทั้ง 2 ข้างพวกเขาทำตัวเป็นผู้รับฟังที่ดี คือ ตั้งใจฟังเรื่องที่คู่สนทนาพูดและไม่พูดแทรกเด็ดขาด และไม่พูดข่มกลับไปเหมือนว่ารู้เรื่องนั้นอยู่แล้ว

ทำแบบนี้ฝ่ายตรงข้ามก็จะรู้สึกดี อย ากคุยด้วย และอย ากช่วยเหลือให้คำแนะนำทีนี้คนขี้เกียจจึงสามารถสอบถามข้อมูลเรื่องต่างๆ ได้มาก แล้วนำมาวางแผนพลิกแพลงตามสไตล์คนขี้เกียจได้คนประเภทนี้มักได้รับการเอ็นดู คนรอบข้างให้การสนับสนุน แถมได้คำแนะนำที่ตรงประเด็นเสมอ โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาทำสิ่งที่ไม่ใช่ แน่นอนว่าไม่มีหนทางใดเป็นทางลัดเท่านี้แล้วล่ะ

ที่มา : m a s c o o p s

Load More Related Articles
Load More By adminjing
Load More In ข้อคิดสอนใจ

Check Also

8 วิธีทำให้คนนับถือคุณ หลักๆ อยู่ที่การวางตัว

ไม่ใช่แค่กลุ่มคนทำงาน แต่พวกเราทุกคนต่างต้องอยู่ในสังคมร่วมกับผู้อื่นไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ทุ…