1. มีการเรียนรู้ในที่ทำงาน
การพัฒนาทักษะการทำงาน เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการทำงานในทุกสาขาอาชีพ องค์กรที่ดีควรให้ความสำคัญกับวิธีการพัฒนาทักษะการทำงานด้วยการจัดหาทรัพย ากรการเรียนรู้ เช่น สื่อการ
เรียนรู้ อย่ างห้องสมุดหรือคลังความรู้แบบออนไลน์ ตลอดจนการฝึกอบรมเพื่อเพิ่มพูนทักษะการทำงานให้แก่พนักงานอย่างสม่ำเสมอ
2. มีความเชื่อมั่นและไว้ใจ
ทำให้ได้ตามที่คุณสัญญาไว้ ซื่อสัตย์ต่อตัวเองและรั กษ าคำพูดของคุณ ประพฤติปฏิบัติตัวเป็นแบบอย่ างที่ดีให้กับคนในทีม ถ้าคุณทำผิดพลาด คุณก็ต้องยอมรับผิดอย่ างสง่าผ่าเผย และโทษลูกน้องที่ทำผิดพลาดเพราะการตัดสินใจที่มาจากตัวคุณเอง เมื่อพวกเขาเห็นตัวอย่ างที่ดีจากผู้นำ พวกเขาจะเกิดความเชื่อมั่นและไว้ใจ
3. มีความรับผิดชอบ
คนทำงานทุกคนล้วนอย ากเก่งในงานที่พวกเขาทำและพึ่งพาตัวเองได้ แต่ถ้าเขายังไม่เก่งพอ นั่นเป็นหน้าที่ของผู้นำที่ต้องชี้แนะให้พวกเขาสามารถแก้ปัญหาและทำสิ่งที่ได้รับมอบหมาย
จนสำเร็จได้ คุณต้องสอนงานพวกเขาอย่ างมีประสิทธิภาพและสม่ำเสมอด้วย รวมไปถึงการถามไถ่ว่าแก้ปัญหาไปแล้วยังไงบ้างหรือติดปัญหาอะไรหรือเปล่า สอนให้พวกเขาเรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาด้วยวิธีของพวกเขาเองครั้งต่อ ๆ ไป พวกเขาจะได้แก้ปัญหาได้
4. ความเคารพจากหัวหน้างาน
พนักงานหลายคนไม่ค่อยได้ความเคารพจากหัวหน้า ผู้นำที่ดีนั้นไม่ควรมีความลับกับคนในทีม เพราะพวกเขาจะรู้สึกด้ อยค่าและรู้สึกเหมือนเป็นคนนอก ควรปฏิบัติต่อพวกเขาอย่ างมืออาชีพด้วย
และไม่มองว่าพวกเขาด้ อยกว่า ไม่ว่าจะในเชิงคุณวุฒิหรือวัยวุฒิเปิดเผยและซื่อตรงให้มากที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้ คุณต้องสร้างทีมที่ทุกคนเท่าเทียมกัน ไม่ใช่ผู้นำที่มีอำนาจเหนือกว่าเพียงผู้เดียว
5. สื่อ ส า ร กันอย่ างมีประสิทธิภาพ
การสื่อ ส า ร หรือการประสานงานที่ดีระหว่างกันในการทำงานนั้นทำให้พนักงานทุกคนเข้าใจในงานของตน ยิ่งมีข้อมูลมากและชัดเจนเท่าไหร่ โอกาสที่จะเกิดข้อผิดพลาดก็น้อยลงด้วยเท่านั้น
การสื่อ ส า ร ที่ดีต้องเกิดขึ้นในทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น การประชุมทีม การสนทนาตัวต่อตัว การใช้โทรศัพท์ อีเมล วิดีโอคอล อื่นๆอย่ างไรก็ตาม ให้ระวังการสื่อ ส า ร ที่ผิดวิธี เช่น วิธีการส่งอีเมล หรือข้อความไม่เหมาะสมด้วย ดังนั้นผู้นำทั้งหลายควรมองว่าเรื่องการสื่อ ส า ร เป็นเรื่องสำคัญและละเลยไม่ได้
6. มีสิ่งที่คาดหวัง และเป้าหมายการทำงานที่ชัดเจน
ใครๆก็ชอบความชัดเจนกันทั้งนั้นแหละ ดังนั้น ให้กำหนดบทบาทเป้าหมาย และหน้าที่ความรับผิดชอบให้พนักงานทุกคนได้เข้าใจอย่า งชัดเจน อาจจะบอกตัวต่อตัวหรือและบอกพร้อมกันทั้งทีม ย้ำ
ชัดถึงเป้าหมายของทีมอย่ างสม่ำเสมอ อาจเป็นรายเดือน รายไตรมาสหรือตลอดทั้งปี ไม่งั้นการทำงานอาจเกิดปัญหา เพราะพนักงานจะทำงานไปเรื่อย ๆ โดยขาดความเข้าใจในเป้าหมายนั่นเอง
7. การประสบผลสำเร็จ
จงให้ตำแหน่งงานที่เหมาะสมกับพวกเขา เพื่อที่ว่าพวกเขาจะได้ประสบความสำเร็จตามสายงานที่พวกเขาถนัดได้ ในอนาคตกำจัดอุปสรรค ในการทำงานและส่งเสริมพวกเข าอย่างเต็มที่ อย่ าเปลี่ยน
แนวทางหรือแผนการไปสู่เป้าหมายบ่อย ๆ โดยไม่พิจารณาให้รอบคอบ ละเลยกับผลการปฏิบัติงานที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินหรือตั้งเป้าหมายโดยไม่ดูพื้นฐานความเป็นจริง เพราะคนได้รับผลกระทบโดยตรงคือพนักงานของคุณที่ต้องเจอกับภาวะความกดดันจากความไม่มั่นคงในแนวทางในการทำงานของผู้นำอย่ างคุณ
8. การยอมรับและชื่นชม
เมื่อพนักงานได้รับการชื่นชมในสิ่งที่พวกเขาทำมากเท่าไหร่พวกเขายิ่งมีแรงบันดาลใจในการทำงานให้ประสบความสำเร็จมากขึ้นเท่านั้นเอ่ยคำชมเมื่อพวกเขาทำงานได้ดี ที่สำคัญคุณต้องให้ความสำคัญกับทีมไปพร้อม ๆกับการการชมเชยพนักงานที่ทำงานดีเด่นเป็นรายบุคคลการยอมรับและเห็นคุณค่าของพนักงานอย่ างเท่าเทียมด้วย
9. ความก้าวหน้าในอาชีพ
พนักงานจะตั้งใจทำงานมากขึ้น เมื่อเห็นว่าองค์กรมีสภาพแวดล้อมหรือทรัพย ากรที่เอื้ออำนวยให้พวกเขาสามารถพัฒนาศักยภาพของตนเองได้อย่ างเต็มที่ มอบหมายงานให้พนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ พูดง่าย ๆ ก็คือ “ ใช้คนให้ถูกงาน ” นั่นเอง
10. ความภูมิใจในงานที่ทำ
ทุกคนต่างก็อย ากมีงานที่พูดได้อย่ างเต็มปากว่า นี่คือ “งานที่ฉันภูมิใจ”การสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีในการทำงาน จะทำให้พนักงานมีแรงกร ะตุ้ น
ในการทำงาน หัวหน้าจึงควรสร้างรูปแบบการทำงานในเชิงบวก เช่น การมีวัฒนธรรมองค์กรที่เป็นกันเองหรือสร้างบรรย ากาศการทำงานที่สนุกไปพร้อม ๆ
ที่มา : the-wayoflife