
วิธีปลดหนี้ที่ถูกต้อง คือการแบ่งเงินไว้ 3 ส่วน เพื่อให้ชีวิตมีสมดุล
การปลดหนี้ที่ถูกต้องคือเราไม่ควรนำเงินที่หามาได้ไปใช้หนี้ทั้งหมดจนไม่เหลือให้ตัวเอง
ได้มีไว้ใช้จ่ายในชีวิตประวันและในอนาคต ซึ่งมันอาจทำให้เราต้องไปหยิบยืมจากที่อื่นมาเพิ่ม
จนเป็นหนี้ซ้ำซ้อน จ่ายเท่าไรก็ไม่หมดสักที ดังนั้น วิธีปลดหนี้ที่ดีเราจึงควรแบ่งเงินออกเป็น 3 ส่วน ดังนี้
ส่วนที่ 1 ใช้หนี้
ส่วนที่ 2 ใช้ในชีวิตประจำวัน
ส่วนที่ 3 เก็บไว้ใช้ในอนาคต
การที่เราแบ่งเงินออกเป็น 3 ส่วน ก็เพื่อจัดสมดุลให้กับชีวิตของตัวเอง
อย่ามัวใช้หนี้จนไม่มีเก็บ และอย่าเก็บจนไม่ยอมใช้หนี้ เพราะดอกเบี้ยนั้นเพิ่มพูนขึ้นทุกวัน
และถ้าในอนาคตมีอะไร ฉุ ก เ ฉิ น หรืออยาก ล ง ทุ น ธุรกิจเล็ก ๆ
เพื่อหาเงินมาปลดหนี้ จะได้ไม่ต้องไปกู้ให้เป็นหนี้เพิ่มไงล่ะครับ
ที่นี้มาดูกันต่อว่าจะปลดหนี้อย่างไรให้หนี้หมดไวมากที่สุด และไม่เป็นหนี้เพิ่ม!
ขั้นตอนการปลดหนี้
ขั้นตอนปลดหนี้ คือสำรวจหนี้ทั้งหมดก่อน
1. สำรวจหนี้สินทั้งหมด
วิธีปลดหนี้ขั้นตอนแรกคือการสำรวจหนี้สินทั้งหมดว่ามีเท่าไร แล้วลิสต์ออกมาให้ครบ
พร้อมระบุด้วยว่าชำระต่อเดือนกี่บาท ดอกเบี้ยต่อปีกี่เปอร์เซ็นต์ รวมถึงระยะเวลาผ่อนชำระที่เหลือ
ซึ่งจะช่วยให้เราวางแผนว่าควรปิดหนี้ตัวไหนก่อน แล้วตัวไหนขอไกล่เกลี่ยกับเจ้าหนี้ได้บ้าง
2. จัดลำดับการปิดหนี้สิน
วิธีปลดหนี้ขั้นตอนนี้สำคัญมาก การปลดหนี้ต้องมีการจัดลำดับ
ว่าจะปิดหนี้อะไรก่อน-หลัง โดยเราจะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ
-หนี้ที่ดอกเบี้ยสูง ระยะเวลาผ่อนชำระสั้น ควรจ่ายก่อน! ได้แก่ บั ต ร เ ค ร ดิ ต และสินเชื่อส่วนบุคคล
ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยสูงถึง 20-28% ต่อปี ใครที่เบี้ยวหนี้บอกเลยว่าโดนเก็บเต็มเม็ดเต็มหน่วยแน่นอน
เพราะฉะนั้น รีบปิดหนี้ก้อนนี้เร็วเท่าไรยิ่งดี
-หนี้ที่ดอกเบี้ยต่ำ ระยะเวลาผ่อนชำระยาว ได้แก่ สินเชื่อบ้านและรถ
โดยปกติอัตราเฉลี่ยของดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 6-9% ดูสิ..ต่างกันลิบลับเลย
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมควรจ่ายหนี้ที่ดอกเบี้ยสูง ๆ ก่อน
และที่แน่ ๆ คือบ้านกับรถเป็นหลักประกันค้ำหนี้ให้เราอยู่แล้ว ซึ่งถ้าเราเบี้ยวไม่จ่าย
เจ้าหนี้ก็มายึดแล้วเอาไปขายทอดตลาดเพื่อเอาเงินคืนได้
แต่ บั ต ร เ ค ร ดิ ต หรือสินเชื่อส่วนบุคคลไม่มีหลักประกันเลย หากเราเบี้ยวหนี้
เขาก็แค่ตามล่าแล้วฟ้องเอาทรัพย์สินอย่างอื่นไปขายมาใช้หนี้แทน
ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเรามีทรัพย์สินอะไรบ้าง การคิดดอกเบี้ยสูง ๆ
จึงเป็นวิธีกันความเสี่ยงจากการไม่ได้เงินคืน นี่แหละที่ทำให้เรามีหนี้ท่วมหัว
เพราะฉะนั้น หากมีหนี้ บั ต ร เ ค ร ดิ ต และสินเชื่อส่วนบุคคลด้วย
ให้เลือกผ่อนบ้านและรถต่อเดือนน้อย ๆ
แต่ยืดระยะเวลาออกไปนาน ๆ จะเป็นทางเลือกที่ฉลาดกว่า
ที่มา : s h o r t r e c a p